͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: ทอท.รับปีนี้เบิกจ่ายลงทุนพลาดเป้า โควิดกระทบอาคารแซทเทิลไลท์  (อ่าน 151 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Shopd2

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 11951
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด


นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ภาพรวมการเบิกจ่ายงบลงทุนประจำปีงบประมาณ 2564 ในช่วง 10 เดือนแรก (ต.ค.2563 -ก.ค.2564) ทอท.สามารถเบิกจ่ายได้ราว 5,639 ล้านบาท ถือว่าน้อยกว่าเป้าหมายที่วางไว้ หากเทียบกับกรอบเบิกจ่ายงบลงทุนทั้งปีงบประมาณอยู่ที่ 15,658 ล้านบาท และแผนเบิกจ่ายสะสมช่วง 10 เดือน 12,200 ล้านบาท

“ภาพรวมการเบิกจ่ายถึงวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา ทอท. สามารถเบิกจ่ายได้เพียง 5,639 ล้านบาท คิดเป็น 36% ของกรอบวงเงินเบิกจ่ายทั้งปี และคิดเป็น 46% ของเป้าแผนเบิกจ่ายสะสมช่วง 10 เดือน ซึ่งถือว่าน้อยกว่าเป้าหมาย สาเหตุสำคัญก็เกิดจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด ที่ทำให้การก่อสร้างโครงการล่าช้าออกไป”


อย่างไรก็ดี จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (แซทเทิลไลท์) ต้องล่าช้า ซึ่งเป็นผลจากการนำเข้าวัสดุอุปกรณ์และบุคลากรจากต่างประเทศเข้ามาไทยไม่ได้ ทั้งนี้ ทอท. ยังคาดว่าในช่วง ส.ค.- ก.ย. 2564 จะสามารถเบิกจ่ายงบประมาณการลงทุนได้อีก 3,522 ล้านบาท ส่วนทั้งปีนี้คาดว่าจะเบิกจ่ายได้เพียง 9,161 ล้านบาท คิดเป็น 58% ของกรอบวงเงินเบิกจ่ายทั้งปี

นายนิตินัย กล่าวด้วยว่า การเบิกจ่ายงบประมาณลงทุนที่ล่าช้านี้ ทอท.ยอมรับว่าต่ำกว่าเป้าหมายการเบิกจ่ายของกระทรวงคมนาคมกำหนดให้เบิกจ่ายให้ได้ 100% และเป้าหมายของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่ให้เบิกจ่ายให้ได้ 90% โดยขณะนี้คณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.ได้สั่งการให้พิจารณาเร่งรัดการดำเนินการรายการอื่นทดแทน (Front-Loaded) เพื่อชดเชยการเบิกจ่ายรายการที่ไม่สามารถดำเนินการได้

ทั้งนี้ การเร่งรัดดำเนินการเบิกจ่ายในรายการอื่นทดแทน ถือเป็นรายการเบิกจ่ายที่มีความจำเป็น เพื่อรองรับการให้บริการเที่ยวบินและผู้โดยสารที่จะกลับมา หลังจากสถานการณ์การแร่พระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลายลง นำมาชดเชยการเบิกจ่ายรายการที่ไม่สามารถดำเนินการได้ แต่พบว่าทำได้ยากเนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าต้นปีงบประมาณหน้า หรือต้นปีงบ 2565 เหตุการณ์การแพร่ระบาดจะยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและยังไม่มีแนวโน้มไม่คลี่คลาย ทอท.จึงยังไม่สามารถวางแผนการดำเนินการเพิ่มเติมในโครงการอื่นๆ ทดแทน