͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: กำชับเขตเร่งลงพื้นที่ค้นหาและแยกผู้ป่วยโควิดจากชุมชนเข้ารับการดูแลรักษาที่ศูนย์พักคอยฯ  (อ่าน 105 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ kaidee20

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 16453
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด


วันนี้ (15 ส.ค.) นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนางวันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ เขตหลักสี่ 2 ณ อาคารสุทธิเกตุ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต เขตหลักสี่ โดยมี ดร.ดาริกา ลัทธพิพัฒน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ และนายสมบัติ กนกทิพย์วรรณ ผู้อำนวยการเขตหลักสี่ ให้รายละเอียดการดำเนินการ จากนั้นรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และรองปลัดกรุงเทพมหานคร ตรวจความพร้อมศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ เขตจตุจักร ณ โรงซ่อมบำรุงรถไฟ สถานีกลางบางชื่อ ซึ่งเป็นศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อแห่งที่ 3 ในพื้นที่เขตจตุจักรฃ โดยมี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายอาฤทธิ์ ศรีทอง ผู้อำนวยการเขตจตุจักรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่

กรุงเทพมหานครจัดตั้งศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ (Community Isolation : CI) เพื่อแยกผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว คือ ผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อยที่ไม่สามารถรักษาตัวที่บ้าน (Home Isolation : HI) เนื่องจากสภาพแวดล้อมไม่พร้อม ให้มาพักคอยที่ศูนย์ฯ เพื่อดูแลอาการเบื้องต้น ระหว่างรอนำส่งโรงพยาบาล สำหรับศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เขตหลักสี่ ใช้อาคารสุทธิเกตุ เป็นสถานที่รองรับผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียว รองรับผู้ป่วยได้ 168 เตียง แบ่งเป็นชาย 75 เตียง หญิง 85 เตียง และผู้ป่วยแบบครอบครัว 8 เตียง มีโรงพยาบาลปิยเวท เป็นโรงพยาบาลที่ปรึกษาและส่งต่อผู้ป่วยเข้ารับการรักษา นอกจากนี้ยังมีลานกิจกรรมภายนอกอาคารเพื่อให้ผู้ป่วยได้ใช้เป็นพื้นที่พักผ่อนและคลายเครียดอีกด้วย ส่วนศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ ณ โรงซ่อมบำรุงรถไฟ สถานีกลางบางซื่อ เขตจตุจักร สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 400 เตียง แบ่งเป็นชาย 200 เตียง และหญิง 200 เตียง ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้วแต่ยังไม่มีผู้ป่วยเข้าพัก มีโรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง เป็นโรงพยาบาลที่ปรึกษาและส่งต่อผู้ป่วยเข้ารับการรักษา

ศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อมีการดำเนินการโดยคำนึงถึงความปลอดภัยในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยมีจุดคัดกรองผู้ป่วย จุดบริการอาหารและน้ำดื่ม ติดตั้งระบบไฟฟ้าส่องสว่างเพิ่มเติม ติดตั้งถังดับเพลิง ระบบเสียงตามสาย ระบบรักษาความปลอดภัย CCTV อินเตอร์เน็ต ระบบบำบัดน้ำเสีย การจัดการขยะติดเชื้อ และห้องประสานงานของเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ยังได้จัดเตรียมของใช้จำเป็นและของใช้ส่วนตัวสำหรับผู้ป่วย เช่น ชุดเครื่องนอน ผ้าเช็ดตัว หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ยาสระผม ยาสีฟัน แปรงสีฟัน เป็นต้น ทั้งนี้ ผู้ป่วยโควิด-19 ที่จะเข้าพักที่ศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อสามารถติดต่อได้ที่สายด่วน 1330 ตลอด 24 ชั่วโมง หากไม่ได้รับความสะดวกสามารถติดต่อเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนโควิดเขตพื้นที่ทั้ง 50 เขต โดยสายด่วนโควิด เขตหลักสี่ โทร. 0 2026 6800 สายด่วนโควิด เขตจตุจักร โทร. 0 2026 3100

รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ในการตรวจความพร้อมของศูนย์พักคอยในวันนี้ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ได้มีการกำชับให้สำนักงานเขตลงพื้นที่เชิงรุกค้นหาผู้ป่วยที่ไม่สามารถพักรักษาตัวที่บ้านให้มาพักรักษาตัวที่ศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ ตามนโยบายของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มีนโยบายให้ศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ (CI) รับผู้ป่วยสีเขียวทั้งหมด ส่วนโรงพยาบาลสนามจะเปลี่ยนมารับผู้ป่วยสีเหลืองเป็นหลัก ซึ่งผู้ป่วยสีเขียวที่อยู่ศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อแล้วอาการเปลี่ยนเป็นสีเหลืองจะมีการส่งตัวเข้ารับการรักษาตามสถานพยาบาลที่จับคู่ดูแลศูนย์พักคอยฯ แต่ละแห่งต่อไป ซึ่งทั้ง 50 เขตจะมีศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อในพื้นที่ของตน เบื้องต้นจะรับผู้ป่วยในพื้นที่เขตเป็นหลักก่อนแต่หากไม่เพียงพอก็จะมีการรับผู้ป่วยข้ามเขตพื้นที่ด้วย