ลิขสิทธิ์ซอสพริกศรีราชาที่เคยเป็นกระแส หลังจากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งทำการเผยแพร่คลิปเนื้อหาเปรียบเทียบซอสพริกศรีราชาแบรนด์ไทยราคา 21 บาท และแบรนด์ของเวียดที่ใช้ชื่อว่า “SRIRACHA” เช่นกัน แต่เป็นภาษาอังกฤษ
โดยเจ้าของเวียดนามที่ใช้ชื่อแบรนด์ “SRIRACHA” ได้ไปจดลิขสิทธิ์ไว้ที่สหรัฐฯ จนขายได้ระดับพันล้าน นอกจากนี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวยังระบุว่า “ตอนนี้ แบรนด์เวียดนามได้เอาของที่ขโมยมาจากไทยกลับมาจายที่เมืองไทยแล้ว ในราคา 170 บาท ดังนั้น เราต้องไม่ให้ฝรั่งเอาไป เราต้องเป็นฝ่ายเสียเปรียบเองเพราะไม่ยอมทำเรื่องแสดงความเป็นเจ้าจอง เพราะทำแบรนด์ไม่เป็น ทำให้ของเขาขายดีกว่าเราเกือบ 7 เท่า ”
พาณิชย์ระบุ ไม่มีใครเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวได้ เพราะศรีราชาเป็นชื่ออำเภอกระทรวงพาณิชย์เผยว่า
ลิขสิทธิ์คำว่า “ศรีราชา” ไม่มีเจ้าของ เพราะเป็นชื่อของอำเภอในจังหวัดชลบุรี จัดเป็นชื่อทาง
ภูมิศาสตร์ ตามกฎเครื่องหมายการค้าระหว่างประเทศแล้ว จึงไม่สามารถรับจดทะเบียนคำว่า “ศรีราชา” และถือสิทธิ์เดียวได้ แต่ผู้ประกอบการจะใช้คำดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องหมายการค้าได้ เช่น มีภาพ ชื่อ หรือข้อความประกอบคำว่าศรีราชา
ส่วนคำว่า Sriraja หรือ
Sriracha ที่ถูกแบรนด์เวียดนามนำไปจด
ลิขสิทธิ์ในต่างประเทศจนโด่งดัง แท้จริงแล้ว ผู้ประกอบการได้ใช้คำว่า “Sriracha” พร้อมภาพโลโก้ “ไก่” ไปจดทะเบียน ซึ่งหมายความว่า ผู้ประกอบการรายดังกล่าว ได้รับความคุ้มครองเฉพาะรูปไก่ ไม่สามารถถือสิทธิ์ใช้คำว่า Sriracha” เพียงคนเดียวได้
แนวทางรับจดทะเบียนของไทย ทั้งในเว็บ
https://idgthailand.com/จดลิขสิทธิ์/ ที่รับจดทะเบียน หรือสำนำงานแต่งละแห่ง ต่างก็เหมือนกับที่สำนักงานและเครื่องหมายการค้าของสหรัฐฯ (USPTO) กำลังทำอยู่แทบทุกประการ คือ ไม่รับจดทะเบียนเครื่องหมายคำว่า “ซอสพริกศรีราชา” ดังนั้น ผู้ประกอบการทุกคนมีสิทธิ์ใช้คำว่า “ซอสพริกศรีราชา” มาบรรยายได้ เช่น บริษัทในเวียดนาม ที่ยื่นของจดทะเบียน “TOUNG OT SRIRACHA” พร้อมภาพโลโก้รูปไก่