͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: นายกฯ ตรวจเยี่ยม Hospitel แห่งแรก ให้กำลังใจทีมแพทย์-บุคลากรผู้เสียสละ  (อ่าน 397 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Clayton

  • บุคคลทั่วไป
ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนาม ซึ่งเป็น Hospitel แห่งแรกของไทย พร้อมให้กำลังใจทีมแพทย์ เจ้าหน้าที่ และบุคลากรที่เสียสละทุ่มเทดูแลผู้ป่วยโควิด-19

วันที่ 19 เมษายน 2653 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เดินทางไปยังมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จ.ปทุมธานี ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนาม หรือ Hospitel เพื่อรองรับผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แห่งแรกของประเทศไทย ที่อาคารดีลักซ์ และได้เริ่มรับผู้ป่วยตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา โดยโรงพยาบาลสนามติดตั้งกล้องวงจรปิด พร้อมจัดระบบการรับผู้ป่วย ยาเวชภัณฑ์ บุคลากรทางการแพทย์อย่างครบครัน และนำหุ่นยนต์บริการทางการแพทย์มาร่วมด้วย เพื่อให้แพทย์สามารถเข้าถึงผู้ป่วยได้โดยไม่ต้องสัมผัส หรืออยู่ใกล้ผู้ป่วยมากเกินไป

ทั้งนี้ การดำเนินการของโรงพยาบาลสนามนี้เป็นแบบ Hospitel นำร่องโดยโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ร่วมมือกับโรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลวชิรพยาบาล สามารถรองรับผู้ป่วยจำนวน 308 เตียง เพื่อลดความแออัดของโรงพยาบาลของรัฐทั้ง 5 แห่ง ซึ่งหลังจากผู้ป่วยเข้ารับการตรวจและพักดูอาการอย่างน้อย 48-72 ชั่วโมงแล้ว พบว่าไม่มีภาวะวิกฤติที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจหรืออยู่ห้องไอซียู ผู้ป่วยจะถูกนำมาส่งเพื่อพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนามแห่งนี้

อย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยเกิดภาวะวิกฤติระหว่างอยู่ที่นี่ ก็จะมีทีมแพทย์ฉุกเฉินคอยช่วยเหลือส่งตัวรักษาต่อในโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ซึ่งได้ขยายแผนกรองรับผู้ป่วยวิกฤติได้ถึง 60 คน ใช้ระยะเวลาเดินทางในการเคลื่อนย้ายเพียง 5 นาที และที่ผ่านมาโรงพยาบาลได้สร้างการรับรู้ เพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินการของโรงพยาบาลสนามนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข้อกังวลจากชุมชน นักศึกษาที่พักอยู่ในอาคาร หรือผู้ป่วย ว่า

1. อาคารดีลักซ์ ที่จะปรับให้เป็นโรงพยาบาลสนาม จะรับเฉพาะผู้ป่วยที่ส่งต่อมาจากโรงพยาบาลที่ได้รับการรักษาจนอาการดีขึ้นแล้ว และอยู่ในระหว่างการกักตัว โดยจะดำเนินการปิดกั้นให้เป็นสถานที่ปลอดเชื้อ 100% ตามมาตรฐานโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ และมาตรฐานสากลทางการแพทย์ โดยไม่ให้มีการเข้า-ออกโดยไม่ได้รับอนุญาต และจะอนุญาตเฉพาะผู้มีหน้าที่โดยตรงเท่านั้น

2. ผู้ป่วยจะถูกส่งมาในรถพยาบาลที่ฆ่าเชื้อและส่งเข้าโรงพยาบาลสนามทันที และเนื่องจากไวรัสโควิด-19 แพร่โดยคนสู่คน ไม่แพร่ทางอากาศ ดังนั้นโรงพยาบาลสนามแห่งนี้จึงปลอดภัย และไม่มีการแพร่เชื้อออกมาภายนอก 100%

3. สำหรับนักศึกษาหรือบุคลากรจำนวนหนี่งที่พักในอาคารดีลักซ์ ได้ดำเนินการหาห้องพักให้ใหม่แล้ว สำหรับบุคลากรที่พักในอาคาร 14 ชั้น ด้านที่ติดกับอาคารดีลักซ์จะปิดกั้นแยกส่วนโดยเด็ดขาด และมีการป้องกันตามมาตรฐานของโรงพยาบาล

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณและให้กำลังใจทีมแพทย์ เจ้าหน้าที่ และบุคลากรทุกคน ที่เสียสละทุ่มเทอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย เพี่อดูแลผู้ป่วยอย่างดีตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งขอบคุณนักศึกษา และบุคลากรที่เคยพำนักอยู่ในอาคารนี้ ที่เสียสละให้นำมาดัดแปลงเป็น Hospitel เพื่อรองรับการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 เป็นเรื่องที่ขอชื่นชมในความเสียสละและตั้งใจร่วมมือกันทุกฝ่าย เพื่อเอาชนะโควิด-19 และช่วยกันทุกวิถีทางไม่ให้โรคร้ายนี้มาคร่าชีวิตพ่อแม่พี่น้องและญาติของเราทุกคน.