͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: เมืองคอนดุยิงถล่มบ้านยายวัย 84 กลางดึก หวังขู่ให้เปิดทางพื้นที่บ้าน  (อ่าน 450 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ PostDD

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 14907
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
เมืองคอนดุ คนร้ายใช้อาวุธสงครามบุกยิงบ้าน ยายวัย 84 ปี ขณะนอนดูทีวีช่วงเคอร์ฟิว หวังขู่ให้กลัวเพื่อแลกกับการเปิดทางพื้นที่บ้านให้รถวิ่งผ่านเข้าไปทำท่าทราย ตร.ลงพื้นที่เก็บหลักฐาน พร้อมเร่งแกะลอยตามล่าตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษ ถือว่าไม่เกรงกลังต่อกฎหมายในช่วง ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินโควิด-19

เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 17 เม.ย.63 ร.ต.อ.ภาสพล พรหมจรรย์ รอง สว.สอบสวน สภ.ทุ่งใหญ่ รับแจ้งมีเหตุยิงบ้านคน เหตุเกิดบ้านเลขที่ 152 หมู่ 8 บ้านวัดใหม่ ต.ทุ่งใหญ่ หลังรับแจ้งรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย ร.ต.อ.ประวิทย์ อรัญทิพย์ จนท.พิสูจน์หลักฐาน ด.ต.สำเริง หม่อมนวล หน.ป้อมสายตรวจเกษตร ตำรวจสืบสวน นายสุนทร ศรีกาญจน์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 นายอาภรณ์ สวัสดิวงศ์ กำนันตำบลทุ่งใหญ่ พร้อมกำลัง อส.ตร.


ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวอยู่ติดถนนซอยนางแย้มซึ่งเป็นทางตันลงสู่แม่น้ำตาปี ผนังปูนหน้าบ้านพบรอยกระสุนปืน 2 รูแต่ละรูห่างกัน 50 ซม. อยู่ด้านล่างกระสุนฝังในเนื้อปูน เจ้าหน้าที่ใช้อุปกรณ์งัดเอาหัวกระสุนออกมาพบว่าเป็นหัวกระสุนปืนทองเหลืองขนาด 11 มม. 1 หัว ส่วนที่ผนังปูนภายในบ้านพบรอยกระสุนปืนเอ็ม 16 ทะลุเป็นรูโบ๋เข้ามาถึงด้านในบ้าน ทำให้เศษผนังปูนแตกกระจายตกลงพื้น พื้นปูนในบ้านพบหัวกระสุนปืนเอ็ม 16 หรือขนาด 5.56 มม.ตกอยู่ 1 หัว เจ้าหน้าที่เดินสำรวจบริเวณรอบบ้านที่เกิดเหตุ เพื่อหาวิถีกระสุนว่ายิงมาจากทิศทางใด ไปพบว่าที่สวนผลไม้หน้าบ้านห่างไปราว 60 เมตร พบหัวกระสุนปืนเอ็ม 16 ที่ยังไม่ได้ยิงตกอยู่ 1 หัว และปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 ที่ยิงแล้ว 2 ปลอกตกอยู่ จึงเก็บเป็นหลักฐานทางคดีเพื่อหาตัวผู้ลงมือก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

สอบสวนนางมาลินี ประพันธ์ อายุ 84 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ว่า ขณะนอนดูทีวีละครอยู่ภายในบ้านจู่ๆ ก็ได้ยิงเสียงปืนดังขึ้นถึง 3 นัด พร้อมกับมีเสียงของเศษผนังปูนภายในบ้านตกกระจายลงพื้นเสียงดัง หลังเสียงปืนสงบพบหัวกระสุนปืนตกอยู่ที่พื้นปูนและที่ผนังปูน ด้วยความกลัวจึงตะโกนเรียกหลานชายที่บ้านอยู่ใกล้กันให้มาดูว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่นานหลานชายและหลานสาวก็พากันมาดูจึงรู้ว่าบ้านถูกคนร้ายยิง จึงโทรศัพท์แจ้งนายสุนทร ศรีกาญจน์ ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่มาที่เกิดเหตุ ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบต่อไป


นายกวี สารพงษ์ อายุ 33 ปี หลานชายที่บ้านอยู่ติดกันให้ปากคำกับตำรวจว่า ขณะที่ตนและนางพัชราภา โปติล่ะ กำลังทำกับข้าวอยู่หลังบ้าน ก็ได้ยิงเสียงปืนดังขึ้นท่ามกลางความมืดติดต่อกัน 3 นัด เสียงปืนดังมาจากทางหน้าบ้านหลังเสียงปืนสงบลงราว 10 นาที จึงพากันออกมาดูพร้อมเดินสำรวจรอบตัวบ้านพบว่าที่บ้านของนางมาลินีผู้เป็นยายมีรอยถูกยิงได้รับความเสียหาย จากนั้นก็โทรศัพท์แจ้งผู้ใหญ่บ้านและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ

ส่วนสาเหตุเบื้องต้นนายกวี หลานชาย ให้การว่า น่าจะมาจากเรื่องความขัดแย้งเรื่องการขอผ่านเส้นทางของผู้รับเหมารายหนึ่ง มาขอพื้นที่เขตบ้านเพื่อขอถนนผ่านเส้นทางทำท่าทราย เพื่อให้รถบรรทุกทรายผ่านเส้นทางเข้าออกได้สะดวก แต่ทางนางมาลินีผู้เป็นยายไม่อนุญาตให้รถบรรทุกทรายผ่าน อาจสร้างความไม่พอใจให้กับผู้รับเหมารายนี้ก็เป็นได้ จึงใช้อิทธิพลมืดมาคุกคามด้วยการใช้อาวุธปืนสงครามยิงข่มขู่เพื่อหวังให้เกิดความกลัว ทั้งๆ ที่ยายอยู่มาจนถึงอายุจะ 90 ปีแล้วไม่เคยไปขัดแย้งหรือมีเรื่องกับใครเลย จึงคิดว่าน่าจะเกิดจากสาเหตุนี้อย่างแน่นอน


หลังตรวจสอบที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่เก็บรวบรวมหลักฐาน และสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุเพื่อจะได้สอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป และเร่งติดตามตัวผู้ลงมือก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากผู้ก่อเหตุไม่เกรงกลังต่อกฎหมายบ้านเมืองแต่อย่างใด ทั้งๆ ที่อยู่ในช่วงเวลาประกาศเคอร์ฟิวสถานการณ์ฉุกเฉิน.