ส.ส.ขอนแก่น เพื่อไทย แนะ รัฐอย่าใช้แผนแบบเหมารวมทั่วประเทศ แก้
โควิด-19 ควรผ่อนปรน มาตรการตามพื้นที่ ตรงไหนระบาดน้อย ควรเปิดช่องให้ปชช.ทำมาหากินบ้าง ชี้ ผลกระทบเศรษฐกิจกำลังฆ่าประชาชนทั้งเป็น
วันที่ 16 เม.ย. นางสาวสรัสนันท์ อรรณนพพร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดขอนแก่น พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาภาคประชาชนให้ความร่วมมือกับทุกมาตรการเพื่อสกัดการระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งมีผลดีในมิติควบคุมโรค แต่ในขณะเดียวกันผลกระทบที่ตามมาอย่างที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ คือ การปิดทุกช่องทางการทำมาหากินของชาวบ้าน และผู้ประกอบการ ที่สำคัญ คือ ระยะเวลาการบังคับใช้ดูเหมือนจะขยายออกไปเรื่อยๆ โดยรัฐบาลไม่คำนึงถึงผลกระทบด้านเศรษฐกิจที่กำลังฆ่าประชาชนทั้งเป็น มิหนำซ้ำมาตรการเยียวยา 5,000 บาท ที่ออกมาก็เข้าไม่ถึงประชาชนที่เดือดร้อนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะพี่น้องต่างจังหวัด
นางสาวสรัสนันท์ กล่าวอีกด้วยว่า มาตรการใดที่ออกมาล้วนเป็นต้นทุนของประชาชนทั้งนั้น การป้องกันโรคแม้สำคัญ แต่เรื่องปากท้องก็สำคัญไม่แพ้กัน ฉะนั้นการเลือกใช้มาตรการต้องมีประสิทธิภาพที่สุด และมีผลข้างเคียงน้อยที่สุด กระทรวงมหาดไทย ไม่ควรใช้แบบแผนเดียวตีรวมทั้งจังหวัด ระดับความเข้มข้นของการบังคับใช้มาตรการ ควรพิจารณาตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ พื้นที่ไหนที่การระบาดน้อย ก็ควรผ่อนปรนข้อบังคับให้ประชาชนได้ดำเนินชีวิตโดยปกติและสะดวกต่อการทำมาหากิน แต่ควรคงไว้บางมาตรการเพื่อป้องกันโรค เช่น การใส่หน้ากาก หรือการกักตัวผู้เสี่ยง เป็นต้น
“ประชาชนกำลังเดือดร้อนที่ไม่สามารถทำมาหากินได้ จะดำเนินมาตรการลักษณะห้ามทุกอย่างโดยไม่มีกำหนดนั้น ชาวบ้านจะสิ้นใจกันหมดแล้ว จะให้แจกแอลกอฮอล์หรือหน้ากากไปเรื่อยๆ ก็ไม่คลายความเดือดร้อนของประชาชน เพราะตอนนี้เขาต้องการเงิน เพื่อการอยู่กินและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นทุกวัน" นางสาวสรัสนันท์ กล่าว...