͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: ปัตตานีป่วย โควิด วันเดียว 11 ราย ผู้ว่าฯ แฉขบวนการลอบพาคนออกจากด่าน  (อ่าน 485 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Clayton

  • บุคคลทั่วไป
โควิด วันที่ 9 เม.ย. ที่ด่านเกาะหม้อแกง ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี พ.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมด้วยคณะ เดินทางมาลงพื้นที่เพื่อให้ขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ ที่ทำงานตรงจุดคัดกรองการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยมี นายไกรศร วิศิษฏ์วงศ์ ผวจ.ปัตตานี หัวหน้าส่วนราชการ ทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองร่วมให้การต้อนรับ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ ประกอบด้วย อุปกรณ์วัดไข้ หน้ากากอนามัย รวมถึงอาหารและเครื่องดื่ม นอกจากนี้ยัง ได้มอบเงินช่วยเหลือแก่กำลังพลในการใช้เพื่อปฏิบัติภารกิจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมทั้งยังได้กล่าวขอบคุณที่เจ้าหน้าที่ได้เสียสละในการทำงานอย่างจริง เพื่อร่วมกันแก้ไขและป้องกการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ที่กำลังระบาดในขณะนี้

ในขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ยังคงผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก โดยล่าสุดในวันนี้ มีผู้ติเชื้อเพิ่มอีก 11 ราย ประกอบด้วย 1.ผู้ติดเชื้อจากเดินทางกลับจากการร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ประเทศอินโดนีเซีย 5 ราย 2.ลูกๆ ทั้ง 5 ราย ของ 2 สามีภรรยาที่ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ที่ติดเชื้อจากการร่วมกิจกรรมทางศาสนา ที่กลับจาก มัรกัส ยะลา และ 3.ผู้ที่เดินทางกลับจากการร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ประเทศมาเลเซีย 1 ราย โดยทำให้ในวันนี้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 66 ราย

แฉขบวนการพาคนออกจากด่าน
นายไกรศร เปิดเผยว่า นับตั่งแต่วันนี้ทางจังหวัดปัตตานีจะไม่รับผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศเป็นการชั่วคราว เพราะที่ผ่านมาพบว่ามีการลักลอบนำคนที่ด่านออกมาในยามค่ำคืน ซึ่งมาเป็นเวลา 5 วันติดต่อกันแล้ว และผู้ที่ไปคัดกรองบุคคลดังกล่าวไม่ใช้เจ้าหน้าที่จากสาธารณสุข เป็นปลัดอำเภอเป็นคนลงชื่อแทน และที่สำคัญ ไม่มีรถของเจ้าหน้าที่คุมรถตู้ที่นำบุคคลเหล่านี้ ทำให้มีผู้โดยสารแอบลงระหว่างทางเพื่อหลีกเลี่ยงการกักตัว โดยเจ้าของรถตูรับค่าจ้างมาหัวละ 300 บาท

ซึ่งเมื่อคืนนี้เจ้าหน้าที่ได้พบกลุ่มคนดังกล่าว มีอาการไข้ป่วยหนักเดินทางเข้ามา 2 ราย ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อแอดมิดทันที ไม่อย่างนั้นมีโอกาสเสียชีวิตได้ ซึ่งจุดตรงนี้เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงเป็นอย่างมาก จึงจำเป็นต้องเพิ่มมาตรการ โดยไม่รับผู้ที่เดินทางมาโดยไม่มีการผ่านการคัดกรองจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอย่างเด็ดขาด และไม่มีรถของเจ้าหน้าที่นำมาเอง และไม่มีการประสานการเดินทางที่ชัดเจน และจะมีการดำเนินคดีกับผู้รถตู้ที่แอบรับผู้โดยสารจากด่านโดยไม่มีการคัดกรอง และขับรถนอกเวลา โดยไม่มีความจำเป็น ก็จะดำเนินคดีกับบุคคลเหล่านี้ทันที



นายไกรศร กล่าวต่อว่า หลังจากที่จังหวัดปัตตานี ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ และค้นหาผู้ที่เดินทางกลับจากการร่วมกิจกรรมทางศาสนา ที่มัรกัสยะลา นำโดย นายสมนึก พรหมเขียว รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี และ นพ.อุดมเกียรติ พูลสวัสดิ์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงด้วยตัวเอง ล่าสุดพบว่า ลูกๆ ทั้ง 5 ราย ของ 2 สามีภรรยาที่ติดเชื้อโควิด-19 ก่อนหน้านี้ มีเชื้อโควิดทั้ง 5 ราย ทำให้ทั้งครอบนี้ ติดเชื้อทั้งหมด 7 ราย เจ้าหน้าที่จึงเร่งสืบสวนหาผู้ใกล้ชิด และได้สัมผัสกับครอบครัวทันที

โดยพบว่ามีผู้ที่เคยสัมผัสซึ่งเป็นญาติ และบ้านใกล้เคียงรวมทั้งสิ้น 20 ราย เจ้าหน้าที่จึงได้กักตัวเพื่อดูอาการทั้งหมด และได้นำไปตรวจเชื้อในวันนี้ และจะรู้ผลในวันพรุ่งนี้ นอกจากนี้ยังมีผู้ที่เดินทางไปร่วมกิจกรรมทางศาสนาด้วยกัน ที่มัรกัสยะลา อีก 55 ราย ทำให้ในพื้นที่ อ.ทุ่งยางแดง ต้องมีการเฝ้าระวังอีก 75 ราย (20+55) แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่หยุดแค่นี้ ก็มีการประชาสัมพันธ์ต่อเนื่อง ให้ผู้ที่รู้ตัวว่าได้เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนา หรือไม่ ผู้ที่เคยได้สัมผัสกับผู้ติดเชื้อ ขอให้มารายงานตัวเพื่อจะได้ตรวจร่างกายและตรวจเชื้อรวมถึงกักกันตัวเอง 14 วันทันที เพื่อหยุดการแพร่ระบาด ซึ่งในขณะนี้ทางจังหวัดปัตตานีได้มีการประชุมเพื่อหาแนวทางมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดใน พื้นที่ อ.ทุ่งยางแดง ถ้าหากผลการตรวจออกมาว่า ในทั้ง 75 ราย มีผู้ติดเชื้อเกินครึ่ง ทางจังหวัดจำเป็นต้องประกาศปิดทั้ง อ.ทุ่งยางแดง ทันที และต้องมีการคัดกรองคนในพื้นที่ทั้งหมด ต้องมีการกักกันคนมากขึ้น เพื่อไม่ให้มีการระบาดไปนอกพื้นที่ ซึ่งเป็นแผนที่เตรียมไว้



นอกจากในพื้นที่ อ.ทุ่งยางแดงแล้ว ทางจังหวัดได้มีคำสั่งด่วนไปยังอำเภอต่างๆ ถ้ามีเป้าหมายบุคคลต้องสงสัยในลักษณะนี้ ให้มีการกักตัวทันที เพราะที่ผ่านมา มีผู้เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศมาเลเซีย 21,000 กว่าราย ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องทำงานกันอย่างหนัก ซึ่งจากการตรวจร่างกายเบื้องต้น ส่วนใหญ่ไม่พบว่ามีไข้ และให้มีการกักตัวที่บ้านของตนเอง และทำตารางในการตรวจร่างกายอย่างต่อเนื่องทุกราย ซึ่งทำมาตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ไม่พบว่ามีเชื้อแต่อย่างใด

แต่ในวันนี้ และวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะครบรอบ 14 วัน จะต้องมีการส่งตรวจอีกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ที่เดินทางมาจากปะเทศมาเลเซียส่วนใหญ่ไม่ติดเชื้อ บางส่วนก็ครบ 14 วันแล้ว กว่า 6 พันราย ซึ่งไม่พบว่ามีเชื้อแต่อย่างใด ก็ยังเหลืออีก 4 พันกว่าราย ถ้าหากไม่พบว่ามีการติดเชื้อ เราก็จะพ้นวิกฤติอีกระดับหนึ่ง แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือกลุ่มที่อาจจะมีการส่งต่อเข้ามา และพบว่ามีอาการ แต่ด่านก็ยังส่งเข้ามาในพื้นที่ ก็ยังน่าเป็นห่วงในจุดนี้ ซึ่งทางจังหวัดปัตตานีจำเป็นต้องปิดรับในจุดนี้ไปก่อน เพื่อจัดการภายในเสียก่อน และจะเปิดรับอีกทีก็หลังวันที่ 18 เม.ย.



หลังจากที่มีการสั่งการเราก็พบว่าที่ อ.มายอ ก็เป็นอีกอำเภอหนึ่ง ที่มีการเฝ้าระวังเพราะมีเคสลักษณะเดียวกัน เพียงแต่ว่าจาการตรวจเชื้อยังไม่พบเชื้อ แต่ก็มีการกักกันคนเหล่านี้เข้มค้นขึ้น โดยเน้นว่าหากพบว่ามีการเดินทางกลับจากมัรกัสยะลา ให้มีการกักกันตัวทันที 14 วัน เพื่อป้องกันไม่ให้มีการสัมผัสกันมากขึ้น ถ้าไม่มีการกักกัน 14 วัน จะเกิดอย่างเคสทุ่งยางแดงขึ้น จากคนๆ เดียว กลายเป็น 75 คนที่ต้องกักกันตัว ซึ่งถือว่าเป็นงานหนัก ส่วนที่ว่าจะมีความจำเป็นที่จะต้องใช้กฎเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมงเฉพาะบางพื้นที่หรือไม่นั้น จะต้องมีการประเมินอีกครั้ง โดยทางจังหวัดสามารถที่จะยกระดับขึ้นมาได้ ถ้าหากสถานการณ์เกินรับมือได้ แต่ทางจังหวัดในขณะนี้ ยังมีสถานที่กักกันตัว กว่า 100 แห่ง และสามารถรองรับคนได้ กว่า 2 พัน คน ตอนนี้มีผู้ที่ถูกกักกันตัวตามที่ๆ ทางจังหวัดปัตตานีจัดเตรียมให้ กว่า 60 คน และสามารถรองรับได้อีกกว่า 1,500 คน ซึ่งสมารถรับมือได้ในขณะนี้