ก่อนตัดสินใจกู้เงินซื้อบ้านควรวางแผนการเงินและเตรียมตัวอย่างไร
ในปัจจุบันแทบทุกธนาคารมีโครงการให้คุณยื่นขอกู้เงิน
ผ่อนคอนโดมิเนียมหรือซื้อบ้านได้ ซึ่งในวันนี้สิ่งที่เราจะพูดถึงไม่ใช่การอธิบายว่าแต่ละธนาคารมีข้อเสนอและความพิเศษอย่างไร แต่เป็นขั้นตอนที่คุณควรวางแผนและเตรียมตัวให้ดีก่อนที่จะติดต่อกับธนาคาร เราเชื่อว่าทุกคนทำได้ด้วย 3 ขั้นตอนต่อไปนี้
• วางแผนเก็บเงินดาวน์บ้าน
ตามปกติ ธนาคารจะให้สินเชื่อบ้านในอัตราสูงสุด 90% ของราคาบ้าน ส่วนที่เหลือจะเป็นเงินดาวน์ที่คุณต้องรับผิดชอบเอง แม้ว่าในความเป็นจริงแล้วคุณจะสามารถผ่อนดาวน์กับโครงการได้ในขณะที่บ้านกำลังอยู่ระหว่างก่อสร้าง แต่เราขอแนะนำว่าถ้าเป็นไปได้ คุณควรเก็บเงินก้อนสำหรับดาวน์บ้านให้พร้อมก่อนดีกว่า เพราะการดาวน์บ้านได้ด้วยเงินสดแสดงให้เห็นว่าคุณมีความพร้อม มีการวางแผนชีวิตเป็นอย่างดี น่าจะมีศักยภาพชำระหนี้ได้ต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อธนาคารเล็งเห็นจุดนี้ก็อาจมีส่วนทำให้ได้รับอนุมัติ สินเชื่อบ้าน ง่ายขึ้น อีกทั้งช่วงระหว่างรอโครงการสร้างเสร็จ คุณยังมีเวลาเก็บเงินเพิ่มเติมแทนที่จะมีภาระหนี้สินตั้งแต่ต้น ยิ่งไปกว่านั้น ส่วนใหญ่ภาระค่าผ่อนดาวน์จะสูงกว่าที่ต้องผ่อนเมื่อกู้
ซื้อบ้านกับ SCB คุณจึงควรมีเงินส่วนนี้เอาไว้เป็นเงินก้อนเพื่อให้ชีวิตสบายขึ้น
• เคลียร์หนี้เก่าให้หมดหรือมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ในการขอ กู้เงินซื้อบ้าน หากคุณมีหนี้ค้างอยู่ (เช่นหนี้บัตรเครดิตหรือหนี้รายการอื่น) ต่อให้ได้รับอนุมัติ ก็อาจไม่เต็มวงเงิน 90% เพราะธนาคารจะเล็งเห็นว่าคุณไม่มีศักยภาพพอที่จะชำระหนี้ได้ วิธีคิดง่าย ๆ สมมุติคุณมีรายได้เดือนละ 30,000 บาท ตั้งใจจะซื้อคอนโด เมื่อไปติดต่อธนาคาร ธนาคารจะมองว่าคุณชำระหนี้ได้เดือนละ 40% ของรายได้ (ประมาณ 12,000 บาท) หากมีหนี้อื่นอยู่ ธนาคารก็จะประเมินว่าคุณ ผ่อนคอนโด ได้ในอัตราที่ต่ำลงไปกว่า 12,000 บาท ทำให้มีความเสี่ยงที่คุณจะได้รับวงเงินน้อยลงจนอาจจะไม่พอซื้อคอนโดที่ต้องการ ซึ่งปัญหานี้จะหมดไปหากคุณเคลียร์หนี้ทั้งหมดได้ก่อนยื่นเรื่องต่อธนาคาร
• เตรียมเงินสำหรับค่าใช้จ่ายแรกเมื่อเข้าอยู่อาศัย
ส่วนนี้หลายคนอาจลืมไป โดยเฉพาะคนที่ซื้อคอนโด คุณอาจคิดว่านอกจากเงินดาวน์กับเงินที่ต้องแบ่งมา ผ่อนคอนโด ในแต่ละเดือนแล้ว คงไม่มีอะไรอีก แต่ความจริงยังมีค่าประกันอัคคีภัย ค่าประกันภัยอาคาร และค่ากองทุนส่วนกลาง ที่ต้องจ่ายทันทีเมื่อแรกเข้าอีกด้วยและสำหรับบ้านทุกประเภทก็ยังมีค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจดจำนองที่ต้องจ่ายเพิ่ม เมื่อนำค่าใช้จ่ายปลีกย่อยทั้งหมดมารวมกันแล้วเทียบกับราคาบ้านในปัจจุบัน ก็ถือเป็นเงินก้อนที่ควรต้องเตรียมไว้ล่วงหน้า
เพราะการ ซื้อบ้าน ต้องใช้เงินมากกว่าการซื้อของประเภทอื่น และเพราะนี่เป็นการลงทุนครั้งใหญ่ในชีวิตของคุณ เป็นภาระผูกพันกับคุณไปอย่างยาวนาน หากไม่ได้มีการวางแผนอย่างรอบคอบก็อาจเกิดปัญหาขึ้นระหว่างทาง แต่ถ้าคุณเตรียมพร้อมตามวิธีที่เล่าไป เชื่อได้เลยว่าคุณจะได้รับเงินตามที่ต้องการและผ่านทุกปัญหาไปได้อย่างแน่นอน
ที่มาของข้อมูล:
https://www.home.co.th/hometips/detail/5114https://bit.ly/3ivqLcg
