͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: ยันสายตรวจ 191 ติดโควิดฯ ไม่ได้หนีกักตัว ลาพัก ป่วย เลยไปหาหมอ  (อ่าน 486 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ kaidee20

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 16453
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
ผู้บังคับบัญชาสายตรวจ 191 ที่ลากลับบ้าน แล้วไปป่วยที่อุดรธานี ก่อนตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ยืนยัน คนป่วยรายนี้ไม่ได้อยู่ในข่ายสงสัยติดเชื้อ ไม่ใช่ชุดปฏิบัติงานสนามมวย และไม่ได้ปิดบังใดๆ      

วันที่ 22 มี.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำหรับการออกปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ในการแนะนำข้อควรปฏิบัติให้แก่ประชาชน

ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สนองนโยบายรัฐบาล "อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ" และเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง ประชาชนสามารถปฏิบัติตนเพื่อป้องกันและลดการแพร่ระบาดของโรคติดต่อไวรัสโควิด-19 จึงกำชับให้ทุกหน่วย ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ดำเนินการตามที่มีวิทยุ ตร.สั่งการด่วนที่สุด ที่ 0007.54/835 ลงวันที่ 21 มี.ค.

"การออกปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เน้นการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ประชาชน ชุมชน หมู่บ้าน ร้านค้า หรือสถานที่ต่างๆ ที่มีประชาชนมาใช้บริการ เพื่อสามารถปฏิบัติตนได้ถูกต้องตามคำแนะนำของรัฐบาล กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การล้างมือให้ถูกวิธี การสวมใส่หน้ากากอนามัย การงดเว้นการเดินทางที่ไม่จำเป็น การไม่ใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น การหลีกเลี่ยงสถานที่แออัด การเว้นระยะห่างทางสังคม การหมั่นสังเกตอาการของตนเอง และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ รพ.ตำรวจ หมายเลข 0-2207-6000 หรือ กรมควบคุมโรค สายด่วน 1422 ตลอด 24 ชม.

ขณะเดียวกัน กรณีมีการเปิดเผยข้อมูลเจ้าหน้าที่สายตรวจ 191 ยศ ส.ต.อ. เดินทางกลับบ้านที่ จ.อุดรธานี โดยไม่ยอมกักตัวเองทั้งที่อยู่ในกลุ่มที่สัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-19 จนล่าสุดไปตรวจพบว่าตัวเองติดเชื้อด้วย

เรื่องนี้ผู้สื่อข่าวไทยรัฐออนไลน์ได้รับการชี้แจงจากผู้บังคับบัญชาของตำรวจนายนี้ว่า เจ้าหน้าที่สายตรวจนายนี้ได้ลาพักกลับบ้านตามรอบปกติ โดยตอนที่ลาไม่ได้มีอาการใดๆ ที่บ่งบอกว่าติดเชื้อ และไม่ได้อยู่ในกลุ่มผู้ปฏิบัติงานสนามมวย โดยลาในวันที่ 13-14-15 มีนาคม 63 มีกำหนดกลับมาปฏิบัติหน้าที่วันที่ 16 มนาคม ปรากฏว่าช่วงที่ลาพัก วันที่ 14 มีนาคม รู้สึกว่าตัวเองไม่สบายจึงไปรับการตรวจที่ รพ.อำเภอกุดจับ จากนั้นวันที่ 16 มีนาคมไปตรวจอีกครั้ง แพทย์มีความเห็นว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ จึงนำใบรับรองแพทย์ยื่นลาต่ออีก 5 วัน

จนกระทั่งวันที่ 18 มีนาคมทราบว่า เพื่อนตำรวจที่กรุงเทพฯ ติดเขื้อโควิด-19 และตัวเองยังมีอาการป่วย จึงไปที่ รพ.กุดจับ อีกครั้ง คราวนี้ทาง รพ.รับตัวเป็นผู้ป่วยวันที่ 19-20 มีนาคม อยู่ที่ รพ.กุดจับ พอวันที่ 21 มีนาคม ถูกส่งตัวมาที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี พร้อมกับมีผลตรวจยืนยันออกมาว่าติดเชื้อโควิด-19

"ในเรื้องนี้ทางหน่วยขอยืนยันว่า ได้ปฏิบัติตามคำสั่งหน่วยเหนือย่างเคร่งครัดและเข้มข้น ผู้ที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยต้องถูกกักตัว หากไม่ได้อยู่ในหน่วย ไปอยู่ ณ จุดใด เช่น ที่บ้านก็ให้กักตัวเอง ณ จุดนั้นจนกว่าจะครบเวลา 14 วันตามกำหนด แต่สายตรวจนายนี้ไม่ได้อยู่ในข่ายนี้ เพียงแต่ระหว่างลาพักพบว่ามีอาการป่วยจึงไปตรวจและพบว่าตัวเองติดเชื้อ"

ขณะที่ บช.น. ได้ชี้แจงกรณีปรากฏตามสื่อต่างๆ ว่ามีตำรวจในสังกัดหนีการกักตัวกลับภูมิลำเนา และออกไปยังที่ชุมชนต่างๆ และภายหลังตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายละเอียด ดังนี้

ข้าราชการตำรวจดังกล่าว เป็นข้าราชการตำรวจสังกัดงานสายตรวจ 3 กก.สายตรวจ บก.สปพ.
วันศุกร์ที่ 13 มี.ค.63 เวลา 21.30 น. หลังจากออกเวรได้เดินทางกลับภูมิลำเนา จ.อุดรธานี โดยรถทัวร์ฯ

วันเสาร์ที่ 14 มี.ค.63 เวลา 05.00 น. ถึงที่พักเวลา 11.00 น. ได้ไปสนามซ้อมไก่ หมู่บ้านโศกแก มีคนจำนวน 6 คน ต่อมาเวลา 17.00 น. รู้สึกไม่สบายจีงได้ไปพบแพทย์ที่ รพ.กุดจับ โดยแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นไข้หวัด รักษาโดยการฉีดยาและจ่ายยา (ซึ่งขณะนั้น ยังไม่มีรายงานข้าราชการตำรวจ กก.สายตรวจ ติดเชื้อโควิด-19 แต่อย่างใด)

วันอาทิตย์ 15 มี.ค.63 เวลา 10.00-17.00 น. ไปเที่ยวล่องแพกับกลุ่มเพื่อนประมาณ 16 คน ที่น้ำพาน อ.สร้ามคอม

วันจันทร์ที่ 16 มี.ค.63 ก่อนที่จะเดินทางกลับมาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ยังรู้สึกไม่สบาย จึงได้ไปพบแพทย์ที่ รพ.กุดจับ (ครั้งที่ 2) แพทย์วินิจฉัยว่า เป็นไข้หวัดใหญ่ มีการให้น้ำเกลือ จ่ายยา และออกใบรับรองแพทย์ให้พักรักษาตัว 5 วัน (16-20 มี.ค.63) จึงได้โทรขออนุญาตลาป่วยมายัง สว.งานสายตรวจ 3 และได้กลับไปพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน

วันอังคารที่ 17 มี.ค.63 ถึง วันพุธที่ 18 มี.ค.63 พักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน ไม่ได้เดินทางออกนอกบ้าน

วันพฤหัสบดีที่ 19 มี.ค.63 ทราบว่ามีข้าราชการตำรวจ งานสายตรวจ 3 ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งในช่วงก่อนเดินทางกลับบ้าน เคยทำงานร่วมกัน จึงได้ไปยัง รพ.กุดจับ ขอให้แพทย์ตรวจโควิด-19 พร้อมทั้งให้ข้อมูลว่าเคยมีความใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ แพทย์จึงกักตัวโดยส่งไปกักตัวที่ รพ.ศูนย์อุดร รอผลตรวจ

วันเสาร์ที่ 21 มี.ค.63 ผลตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น

โดยข้าราชการตำรวจรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในชุดปฏิบัติสนามมวยลุมพินี ไม่ได้ถูกกักตัวในวันที่เดินทางกลับภูมิลำเนา เนื่องจากวันดังกล่าวยังไม่ได้มีรายงานข้าราชการตำรวจในสังกัด บก.สปพ. ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งทาง บก.สปพ. ได้ตรวจสอบข้าราชการตำรวจที่มีความใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ เพื่อสั่งให้มีการกักตัวเพิ่มเติม พร้อมทั้งดำเนินการตามมาตรการป้องกันและลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ตามที่ได้ดำเนินการมาตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย บช.น. จะได้ประสานข้อมูลการใช้บริการรถทัวร์และสถานที่ที่ข้าราชการตำรวจดังกล่าวได้เดินทางในจังหวัดอุดรธานี ให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ทราบ เพื่อให้ทางจังหวัดได้ดำเนินการป้องกัน ลดการแพร่กระจายผู้เสี่ยงติดเชื้อต่อไป

ในส่วนของข่าวที่รายงานว่า ผู้ป่วยไม่ให้ข้อมูลสำคัญว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อแพทย์นั้น เนื่องจากในขณะที่มีการพบแพทย์ ยังไม่ปรากฏว่าบุคคลที่ผู้ป่วยเคยใกล้ชิดติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ทั้งนี้ บช.น. จะรอรายงานจากทางกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วนต่อไป

ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตำรวจแห่งชาติ ได้กล่าวถึงกรณีสื่อสังคมออนไลน์นำเสนอข่าว "ส.ต.อ. สายตรวจ 191 ติดโควิด-19 หนีกักตัว ขึ้นรถทัวร์กลับอุดร" ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจรายดังกล่าว ไม่ได้หนีการกักตัวเดินทางกลับภูมิลำเนาตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด รายละเอียด เป็นไปตามที่ต้นสังกัดได้ชี้แจงแล้วดังกล่าว

ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายถือปฎิบัติตามคำสั่งและมาตรการที่เกี่ยวข้องในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หากพบมีการฝ่าฝืนให้ผู้บังคับบัญชาในหน่วยที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการลงโทษทั้งวินัย อาญา อย่างเด็ดขาด.