͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: ธารน้ำใจไหลย้อนกลับ… เมื่อจีนฟื้นตัว ส่งความช่วยเหลือสู่ทั่วโลก  (อ่าน 335 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ deam205

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15570
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด

เราอาจจะคุ้นเคยกับ “หนังฮีโร่” ที่มีทีม Avengers หน้าฝรั่ง ตัวใหญ่ ใส่เสื้อเกราะ พร้อมอุปกรณ์ซูเปอร์ไฮเทคครบมือ.. แต่วันนี้ ทีมกู้โลกหน้าจีน สวมเสื้อกาวน์ มาพร้อมอุปกรณ์และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ ส่งตรงจากประเทศจีน

หลังจีนประกาศความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (Covid-19) จนสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 หลายพื้นที่ในประเทศจีนเริ่มคลี่คลายเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น หลายวันมานี้ จีนเริ่มเปลี่ยนบทบาทจากการเป็นผู้ได้รับธารน้ำใจและความช่วยเหลือจากทั่วโลก มาเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือแก่หลากหลายประเทศทั่วโลก

ไม่ว่าจะเป็นการส่งเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ ยารักษาโรค และคุณหมอผู้เชี่ยวชาญไปช่วยกู้ภัยโรคระบาด Covid-19 ในประเทศที่การแพร่ระบาดเข้าขั้นวิกฤต โดยเมื่อวันที่ 15 มี.ค. Hua Chunying โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ได้โพสต์ผ่านทวิตเตอร์ของตัวเอง หลังทราบข่าวว่า มุขมนตรี Wang Yi (ของ健康食品ประเทศจีน) เพิ่งได้โทรคุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศของฟิลิปปินส์ Locsin เกี่ยวกับสถานการณ์แพร่ระบาดของ Covid-19 ภายในประเทศฟิลิปปินส์

ใจความสำคัญในทวิตเตอร์ระบุว่า “พวกเรา (ชาวจีน) เข้าใจดีว่าคนฟิลิปปินส์กำลังเจอกับช่วงเวลาแห่งความยากลำบากมากขนาดไหน พวกเราจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ที่สุด ส่วนเวชภัณฑ์ทางการแพทย์และทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกำลังจะถูกส่งไปฟิลิปปินส์เร็วๆ นี้”


ความช่วยเหลือครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 มี.ค. หลังประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ประกาศว่าถ้าสถานการณ์การแพร่ระบาดในฟิลิปปินส์แย่ลงคงจะต้องขอความช่วยเหลือไปยังประเทศจีน ซึ่งหลังจากนั้น ประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ของจีนก็ให้ความมั่นใจว่าประเทศจีนพร้อมจะให้ความช่วยเหลือฟิลิปปินส์ในการต่อสู้กับภัยครั้งนี้อย่างเต็มที่

ทั้งนี้ ข้อมูลจาก Department of Health (DOH) ของประเทศฟิลิปปินส์ ในวันที่ 18 มี.ค. พบว่า มีผู้ติดเชื้อยืนยันแล้ว 202 คน เสียชีวิตแล้ว 17 คน โดยก่อนหน้านั้น ประเทศจีนได้ส่งความช่วยเหลือลักษณะเดียวกันนี้ไปยังหลายประเทศ อาทิ อิตาลี สเปน และอิหร่าน

พร้อมส่งอุปกรณ์และเวชภัณฑ์สู่พื้นที่ขาดแคลน
นอกจากความช่วยเหลือลักษณะดังกล่าว จีนยังได้ส่งต่อองค์ความรู้และประสบการณ์ในการต่อสู้กับการระบาด Covid-19 ที่จีนทำได้สำเร็จ พร้อมด้วยความช่วยเหลือด้านเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ โดยเฉพาะหน้ากากอนามัย และน้ำยาฆ่าเชื้อ รวมถึงเครื่องมือทดสอบเชื้อ (PCR Testing Kits) และชุดป้องกันการติดเชื้อ (PPE) ไปยังประเทศที่ขาดแคลนหลายแห่ง อาทิ เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น, มาเลเซีย รวมถึงประเทศไทย

ความช่วยเหลือดังกล่าวสร้างความประทับใจให้กับรัฐมนตรีต่างประเทศของมาเลเซียอย่างมาก นำไปโพสต์แสดงความซาบซึ้งในไมตรีจิตของประเทศจีนดังที่ปรากฏในโพสต์ส่วนตัวของเขา


มาตรการเด็ดขาดขั้นสูงสุดของมาเลเซีย
ทั้งนี้ สถานการณ์ปัจจุบัน ณ วันที่ 18 มี.ค. มาเลเซียมีผู้ติดเชื้อยืนยัน 790 ราย มีผู้เสียชีวิต 2 ราย จนนำมาสู่การประกาศมาตรการขั้นเด็ดขาด Restrictive Movement Order (RMO) ตั้งแต่วันที่ 18-31 มี.ค. นี้

โดยมีข้อบังคับให้ทุกฝ่ายจำกัดการเคลื่อนไหวและการชุมนุมทั่วประเทศ รวมถึงกิจกรรมทางศาสนากีฬา กิจกรรมทางสังคมและวัฒนธรรม รวมถึงให้ปิดสถานปฏิบัติทางศาสนกิจ และสถานประกอบธุรกิจ ยกเว้น ซูเปอร์มาร์เก็ต ตลาดสด และร้านสะดวกซื้อที่ขายสินค้าจำเป็น พร้อมทั้งไม่อนุญาตให้ชาวมาเลเซียและชาวต่างชาติเดินทางเข้า-ออกนอกประเทศ

ภาพแห่งความเอื้ออาทรเห็นใจซึ่งกันและกันที่เกิดขึ้น นับตั้งแต่เชื้อ Covid-19 อุบัติขึ้นที่เมืองอู่ฮั่น จนจีนต้องปิดประเทศ นำมาสู่ธารน้ำใจที่หลั่งไหลจากทั่วโลกมาสู่ประเทศจีน พร้อมถ้อยคำให้กำลังใจประเทศจีนที่ดังไปทั่วโลกที่ว่า “อู่ฮั่น เจียโหยว” และ “จงกั๋ว เจียโหยว” จนมาถึงวันนี้ ธารน้ำใจไหลกลับ ออกจากจีนไปสู่ประเทศต่างๆ ทั่วโลก

อุบัติความรู้รักสามัคคีเกิดขึ้นแล้ว ต่อไปโลกคงดีขึ้น?
หลายคนเริ่มมองว่า สงครามกับเชื้อ Covid-19 ครั้งนี้อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนทำให้มนุษยชาติทั่วโลกหันมารักใคร่กลมเกลียวกันมากขึ้น เพื่อช่วยกัน “เอาชนะสงครามโรค” ครั้งนี้ไปด้วยกัน แต่ดูเหมือนยังมีคนกลุ่มน้อยบางคนที่มองไม่เห็นภาพแห่งความน่ายินดีนี้ แต่กลับมองว่าเป็นสิ่งที่จีนควรต้องทำเพื่อขอโทษและชดใช้ให้กับคนทั่วโลก ซึ่งหนึ่งในคนกลุ่มนั้น ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือ Donald Trump นั่นเอง!


โดยเมื่อไม่นานมานี้ ทวีตเตอร์ของ Trump มีคำที่ใช้เรียกไวรัสโคโรน่า 2019 ว่า “Chinese Virus” กลายเป็นเรื่องบานปลายระหว่าง Trump กับทางการจีน … ซึ่งพอสะท้อนให้เห็นได้ว่า การแบ่งแยก (Discrimination) โดยเฉพาะการแบ่งขั้วอำนาจทางการเมืองและเศรษฐกิจระหว่าง 2 ประเทศยักษ์ใหญ่นี้ น่าจะยังมีอยู่ต่อไป

รวมไปถึงการกีดกันทางการค้าและ Trade War หรือสงครามการค้าโลกระหว่างจีนและสหรัฐฯ ก็คงจะยังไม่จบง่ายๆ …นี่คงเป็นเพียงแค่การพักรบของ Trump เพื่อกลับไปรักษาฐานเสียงที่กำลังเผชิญกับภัยโรคระบาดครั้งนี้ ให้จบเสียก่อน