͸Ժ

กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้

หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 10
51

Krinno Co.,Ltd.
สร้างสรรค์ผลงาน ไฟเบอร์กลาส โมเดลการ์ตูนและเฟอร์นิเจอร์ sculpture ประติมากรรม
รับผลิต หล่องานไฟเบอร์กลาส ทุกชนิด พร้อมออกแบบ 3D ตามแบบลูกค้า


ผลงานลูกค้าที่สั่งทำ>> http://bit.ly/krinno_by_order

สนใจติดต่อหรือสอบถามเพิ่มเติม
Tel : 0837566666 , 0867536666

line : @krinno




เว็บไซต์ : www.krinno.com

เพจ : www.facebook.com/krinnoshop

IG : www.instagram.com/krinno66

e-mail : blackhemp7@gmail.com





52
ขออนุญาต อัพเดทกระทู้
54
ขออนุญาต อัพเดทกระทู้
55
ขออนุญาต อัพเดทกระทู้
56
ขออนุญาต อัพเดทกระทู้
57
ขออนุญาต อัพเดทกระทู้
58
ขออนุญาต อัพเดทกระทู้
59
8 เช็กลิสต์สำคัญ เตรียมบ้านให้พร้อมก่อนฝนมา!


เมื่อฤดูฝนเริ่มมาเยือน…หลายบ้านอาจต้องเผชิญกับสารพัดปัญหาที่มาพร้อมฝน ไม่ว่าจะเป็นน้ำรั่วจากหลังคา น้ำขังรอบบ้าน ความชื้นสะสมตามผนัง ไปจนถึงการระบาดของปลวกและเชื้อรา ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้นาน ไม่เพียงทำให้บ้านทรุดโทรม แต่ยังอาจตามมาด้วยค่าซ่อมแซมที่บานปลายโดยไม่รู้ตัว

ในบทความนี้จะพาคุณไปเช็ก 8 จุดสำคัญภายในบ้าน ที่ควรตรวจสอบและเตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้า เพื่อให้บ้านของคุณรับมือกับหน้าฝนได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นบ้านหลังเก่าหรือใน โครงการบ้านจัดสรรเชียงใหม่ ที่เพิ่งซื้อใหม่ก็ต้องดูแลบ้านให้แข็งแรงและน่าอยู่ ห่างไกลปัญหาฝน มีส่วนไหนที่ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษบ้าง ตามไปดูพร้อมกันเลย!

1. ตรวจสอบหลังคา และรอยรั่วซึม
หลังคา คือแนวป้องกันด่านแรกของบ้านที่ต้องเผชิญกับฝนโดยตรง ซึ่งมักเป็นจุดที่เกิดปัญหามากที่สุดในช่วงฤดูฝน ไม่ว่าจะเป็นรอยแตกร้าว กระเบื้องร้าวหรือเลื่อนหลุด ไปจนถึงจุดต่อระหว่างหลังคากับผนังที่มักเกิดช่องว่างเล็ก ๆ โดยไม่รู้ตัว

หากละเลยการตรวจสอบ อาจทำให้น้ำซึมลงมาในฝ้าเพดาน ผนัง หรือโครงสร้างบ้าน จนกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องใช้ค่าใช้จ่ายมากในการซ่อมแซม แนะนำว่าควรปีนขึ้นไปตรวจดูสภาพหลังคา หรือเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบปีละ 1 ครั้ง และหากพบรอยรั่วแม้เพียงเล็กน้อย ก็ควรซ่อมแซมทันที เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะลุกลามในระยะยาว

2. ล้างรางน้ำฝนและท่อน้ำทิ้ง
เมื่อฝนตกหนัก น้ำฝนที่ไหลจากหลังคาจะถูกรับโดยรางน้ำฝน และระบายออกผ่านท่อน้ำทิ้ง หากรางน้ำมีเศษใบไม้ ฝุ่น หรือขยะอุดตัน จะทำให้น้ำไหลไม่สะดวก เกิดการล้น หรือไหลย้อนกลับเข้าบ้าน จนทำให้ผนังหรือพื้นเปียกชื้นและเสียหาย ดังนั้นการล้างรางน้ำฝนจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในช่วงก่อนฤดูฝนมาถึง ควรทำความสะอาดรางน้ำฝนปีละ 1–2 ครั้ง และตรวจสอบว่าท่อน้ำทิ้งไม่มีการอุดตัน น้ำสามารถระบายได้รวดเร็ว

หากบ้านคุณอยู่ในทำเลธรรมชาติ เช่นใน โครงการบ้านหางดงเชียงใหม่ ซึ่งรายล้อมด้วยต้นไม้และวิวเขา ควรหมั่นทำความสะอาดรางน้ำบ่อยขึ้น เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น

3. ตรวจสอบผนังบ้านและหน้าต่าง
ความชื้นจากฝนสามารถแทรกซึมเข้าสู่ผนังบ้านได้โดยง่าย หากมีรอยร้าว หรือการซีลขอบหน้าต่างที่ไม่แน่นหนา โดยเฉพาะบ้านที่สร้างมานาน อาจพบปัญหาผนังปูนลอก รอยด่าง หรือเชื้อราขึ้น ซึ่งล้วนแต่ส่งผลเสียต่อสุขภาพและความแข็งแรงของบ้าน

ควรเดินสำรวจโดยรอบตัวบ้าน ตรวจสอบรอยร้าวตามผนัง และขอบหน้าต่างทุกบาน หากพบรอยร้าวเล็ก ๆ สามารถใช้ซิลิโคนกันน้ำคุณภาพดี หรือวัสดุอุดรอยต่อชนิดกันรั่วมาอุดรอยเหล่านั้นได้ทันที
ในกรณีที่พบความเสียหายมาก ควรให้ช่างตรวจเช็กโครงสร้างโดยละเอียด และซ่อมแซมก่อนฤดูฝนจะเริ่ม เพื่อป้องกันความเสียหายจากน้ำสะสมและเชื้อราในระยะยาว

4. เคลียร์พื้นที่รอบบ้านให้โล่ง
เศษไม้ แผ่นกระเบื้องเก่า หรือวัสดุก่อสร้างรอบบ้านอาจก่อให้เกิดน้ำขัง หรือเป็นแหล่งสะสมของเชื้อราและยุงลาย แนะนำให้เคลียร์พื้นที่รอบบ้านให้สะอาดโล่ง และจัดเก็บของเหล่านี้ไว้ในที่มิดชิด ปลอดภัยจากน้ำฝน โดยเฉพาะบ้านที่มีสนามหญ้าหรือพื้นที่ภายนอกมาก เช่น บ้านจัดสรรเชียงใหม่ หรือบ้านวิวเขาในพื้นที่ธรรมชาติ ยิ่งควรหมั่นดูแลสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้สภาพแวดล้อมชื้นแฉะเกินไป

5. ตรวจระบบไฟฟ้าและปลั๊กไฟภายนอก
ความชื้นและน้ำฝน เป็นสาเหตุหลักที่อาจทำให้เกิดไฟฟ้ารั่ว หรืออุปกรณ์ช็อตได้โดยไม่รู้ตัว หากบ้านของคุณมีปลั๊กไฟภายนอก หรือสายไฟต่อพ่วงในสวนและโรงรถ ควรเปลี่ยนมาใช้ปลั๊กกันน้ำ และติดตั้งฝาครอบให้มิดชิด ที่สำคัญควร เรียกช่างไฟมาตรวจระบบไฟฟ้าทั้งระบบอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อความปลอดภัยทั้งของผู้อยู่อาศัยและทรัพย์สิน โดยเฉพาะใน บ้านวิวเขาเชียงใหม่ ที่มีความชื้นในอากาศสูงกว่าพื้นที่ในเมือง ควรให้ความสำคัญกับจุดนี้เป็นพิเศษ

6. ตรวจประตู–หน้าต่าง และเปลี่ยนซีลยางที่เสื่อมสภาพ
ซีลยางรอบบานประตูและหน้าต่าง เป็นส่วนสำคัญในการป้องกันน้ำฝนไม่ให้รั่วเข้ามาภายในตัวบ้าน แต่เมื่อใช้งานไปนาน ๆ ยางซีลอาจเสื่อมสภาพ แข็งกรอบ หรือหลุดลอก ทำให้เกิดช่องว่างให้น้ำและลมพัดผ่าน ดังนั้นจึงควรตรวจสอบการปิดแน่นของบานประตูและหน้าต่างทุกบาน พร้อมเปลี่ยนซีลยางใหม่หากเริ่มเสื่อมสภาพ โดยเฉพาะในบ้านที่อยู่ในแนวลม หรือลักษณะเปิดโล่ง เช่น บ้านเดี่ยว 2 ชั้นเชียงใหม่ ที่มีหลายหลังต่อเนื่องกัน อาจโดนฝนสาดมากเป็นพิเศษ

7. เช็กระบบปั๊มน้ำและท่อระบายน้ำ
หน้าฝนมักมาพร้อมน้ำจำนวนมากทั้งจากฝนที่ตกและน้ำจากรอบบ้าน การระบายน้ำจึงต้องทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ควรตรวจสอบว่าปั๊มน้ำและท่อระบายน้ำภายในบ้านทำงานเป็นปกติ ไม่มีการอุดตันหรือชำรุด เพื่อป้องกันน้ำล้น น้ำท่วมขัง หรือแรงดันน้ำไม่พอ

8. ย้ายเฟอร์นิเจอร์หรือของใช้สำคัญเข้าพื้นที่ปลอดภัย
สำหรับบ้านที่มีพื้นที่กึ่งเอาท์ดอร์ เช่น ระเบียง ศาลานั่งเล่น หรือพื้นที่ซักล้าง หากมีเฟอร์นิเจอร์ไม้ หมอนอิง หรือของใช้ที่ไม่กันน้ำ ควรย้ายเข้ามาเก็บในที่ร่ม หรือใช้ผ้าคลุมกันน้ำช่วยป้องกันไว้ล่วงหน้า เพื่อป้องกันความเสียหายจากฝนสาด ความชื้น และเชื้อราโดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะบ้านที่มีพื้นที่เปิดโล่งมาก อาจต้องให้ความสำคัญกับการเคลื่อนย้ายสิ่งของในช่วงหน้าฝนให้มากยิ่งขึ้น

การเตรียมบ้านให้พร้อมก่อนฤดูฝน ไม่เพียงช่วยลดปัญหาจุกจิกในชีวิตประจำวัน แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของบ้านและลดค่าใช้จ่ายจากความเสียหายที่ไม่คาดคิด ทั้งหลังคารั่ว น้ำขัง หรือระบบไฟฟ้าขัดข้อง ล้วนสามารถป้องกันได้ด้วยการตรวจสอบและซ่อมแซมให้พร้อมล่วงหน้า

ไม่ว่าคุณจะอาศัยอยู่ในบ้านเดี่ยว หรือ โครงการบ้านเชียงใหม่ 2568 ก็สามารถนำเช็กลิสต์นี้ไปใช้ดูแลบ้านให้แข็งแรง พร้อมรับมือทุกสภาพอากาศ เพราะบ้านที่ได้รับการดูแลดี ย่อมเป็นพื้นที่ปลอดภัยและอบอุ่นสำหรับทุกคนในครอบครัว


60
ขออนุญาต อัพเดทกระทู้
หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 10