͸Ժ

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - iammu

หน้า: 1 ... 5 6 [7] 8 9 ... 12
91


ประตูคือหน้าด่านที่จะพาทุกคนเข้ามาในบ้าน และห้องต่าง ๆ ภายในบ้าน ซึ่งในบ้านก็จะมีแยกห้องต่าง ๆ ออกไปอีกหลากหลายห้อง ฉะนั้นการเลือกประตูบ้านที่มีความสวยงาม แข็งแรง ปลอดภัย จึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความเอาใจใส่ไม่แพ้เรื่องอื่น ๆ วันนี้เราก็มีแบบของการติดตั้งประตูบ้านชนิดต่าง ๆ มาฝากกัน เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจว่าควรจะออกแบบประตูบ้านในแต่ละจุดให้เป็นรูปแบบไหนถึงจะถูกใจและเหมาะสมมากที่สุด 
   

รูปแบบของการติดตั้งประตูแบบต่าง ๆ 
· แบบบานเปิด มีลักษณะการใช้งานเป็นบานเปิด โดยจะใช้การเปิดเข้าหรือเปิดออกทางฝั่งเดียวเท่านั้น ซึ่งแบบบานเปิดนี้ก็เป็นรูปแบบที่เราสามารถพบเห็นได้บ่อยที่สุด สามารถติดตั้งได้สะดวก จึงนิยมนำมาใช้ทั่วไปในเกือบทุกตำแหน่งของบ้าน แต่ก็มีข้อเสียในเรื่องของพื้นที่การใช้งาน ก็เพราะว่าในการติดตั้งจะต้องมีการเว้นพื้นที่เอาไว้ให้มีช่องสำหรับการเปิดบานประตู จึงอาจไม่เหมาะกับห้องหรือบริเวณที่มีพื้นที่ไม่มากนัก
· แบบบานเลื่อน มีลักษณะการเปิดด้วยการเลื่อนไปทางด้านข้าง หรือที่เรียกว่าประตูบานเลื่อนนั่นเอง โดยจะติดตั้งรางสำหรับเอาไว้เลื่อนอยู่ที่ด้านบนหรือด้านล่าง นอกจากนี้ก็ยังใช้เป็นแบบรางแขวนได้ ส่วนใหญ่วัสดุที่ใช้ก็จะเป็นอลูมิเนียมและกระจก จุดดีก็คือไม่เปลืองพื้นที่ในการติดตั้งจึงนิยมใช้ตามคอนโดหรือห้องที่มีพื้นที่ไม่กว้างมากนัก แต่ก็จะมีราคาในการติดตั้งที่แพงขึ้นมา
· แบบบานสวิง มีลักษณะคล้ายกับบานเปิดแต่จะสามารถผลักเข้าออกได้ทั้ง 2 ฝั่ง จึงเหมาะสำหรับบริเวณที่มีการเข้าออกบ่อย ๆ อย่างเช่นห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น 
· แบบบานเฟี้ยม มีลักษณะเป็นบานประตูขนาดเล็กมาต่อกันเป็นบานพับ ใช้การเปิดแบบพับบานทบไปทางฝั่งใดฝั่งหนึ่งคล้ายกับการใช้ฉากกั้นห้อง นิยมติดตั้งเพื่อทำการขยายและเชื่อมต่อพื้นที่ระหว่างห้องโดยเมื่อเปิดออกมาก็จะทำให้พื้นที่ของทั้ง 2 ห้องเชื่อมต่อกันทำให้กว้างมากยิ่งขึ้นนั่นเอง 

นอกจากจะดูในเรื่องของรูปแบบการติดตั้งแล้ว การเลือกประตูบ้านก็ควรเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสำหรับตำแหน่งต่าง ๆ อย่างเช่นถ้าเป็นบริเวณที่เชื่อมต่อระหว่างบ้านกับภายนอก ต้องเจอแดด เจอลม เจอฝน ความชื้นอยู่เป็นประจำ ก็ควรเลือกใช้วัสดุที่มีความแข็งแรงทนทานต่อภาวะแวดล้อมได้ดี ตัวอย่างเช่นไฟเบอร์กลาส ไม้จริง และ WPC เป็นต้น หรือถ้าหากอยู่ภายในร่มที่ไม่โดนแดดก็อาจจะเลือกใช้วัสดุเป็น UPVC ก็ได้ ส่วนภายในบ้านก็สามารถเลือกประตูแบบสวย ๆ ได้ตามต้องการ แต่ประตูห้องน้ำควรเลือกใช้วัสดุที่มีความแข็งแรงทนทานตัวอย่างเช่น UPVC ก็เพราะว่าต้องเจอกับความชื้นอยู่บ่อยครั้งนั่นเอง

เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/DOW03

92


สนามหญ้าคือพื้นที่สีเขียวภายนอกบ้านที่ช่วยเพิ่มความผ่อนคลายสบายตา เป็นพื้นที่เพื่อทำกิจกรรม พื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ และเพิ่มความงดงามให้กับบริเวณบ้าน สำหรับบ้านไหนที่มีสนามหญ้า ในวันนี้เรามีวิธีเลือกซื้อเลือกหาเครื่องตัดหญ้าที่เหมาะสำหรับบ้านคุณมาฝากกัน 

วิธีเลือกเครื่องตัดหญ้า ผู้ช่วยจัดการสนามหญ้าที่ควรมีติดบ้านเอาไว้ 

เครื่องตัดหญ้าไฟฟ้า
ส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นเครื่องที่มีด้ามจับยาวเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถยืนตัดหญ้าบนสนามได้อย่างง่ายไม่ต้องก้มให้เมื่อย มีน้ำหนักเบา สามารถใช้งานได้ง่าย เหมาะกับการใช้งานบนพื้นสนามหญ้าที่มีความเรียบและไม่กว้างจนเกินไป ซึ่งเครื่องตัดหญ้าไฟฟ้าก็จะมีสายไฟสำหรับเสียบปลั๊กใช้งานได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องใช้น้ำมัน และมีราคาถูก รวมไปถึงมีเสียงเบาไม่รบกวนเพื่อนบ้าน แต่ข้อเสียก็จะเป็นในเรื่องของการที่เราจะต้องมีการลากสายไฟเพื่อเสียบปลั๊ก จึงอาจทำให้เกะกะและรู้สึกไม่สะดวกเมื่อต้องใช้งานอยู่บ้าง หรือสายไฟอาจยาวไม่พอถ้าหากต้องตัดหญ้าที่อยู่ในบริเวณห่างจากจุดที่เสียบปลั๊ก และจะต้องมีการพักมอเตอร์เป็นระยะเพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องร้อนจนเกินไป นอกจากนี้ก็ยังไม่เหมาะสำหรับการตัดหญ้าที่ขึ้นสูงและมีความยาวมากจนเกินไปเพราะมีกำลังของมอเตอร์ไม่เพียงพอนั่นเอง

เครื่องตัดหญ้าไร้สาย
ถือว่าเป็นการปรับปรุงจุดด้อยของเครื่องตัดหญ้าไฟฟ้าที่ต้องมีการดึงสายไฟมาเสียบเพื่อใช้งาน ซึ่งเครื่องตัดหญ้าไร้สายก็จะเป็นการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ที่สามารถชาร์จไฟได้ จึงทำให้สามารถเคลื่อนย้ายไปตัดหญ้าบริเวณต่าง ๆ ได้อย่างคล่องตัว มีน้ำหนักเบา จับถนัดมือจึงสามารถใช้ตัดหญ้าทั้งบนพื้นสนามและตัดแต่งต้นไม้ในแนวตั้งได้อย่างสะดวก สุภาพสตรีก็สามารถใช้งานได้อย่างสบาย  มีเสียงเบาไม่รบกวนในขณะตัดหญ้า ใช้งานสะดวก แต่ข้อด้อยก็ยังคงเป็นในเรื่องของกำลังตัดที่ไม่มาก จึงไม่เหมาะสำหรับการตัดหญ้าที่ขึ้นสูงหรือมีลำต้นหนาจนเกินไป 

เครื่องตัดหญ้าแบบใช้น้ำมัน 
มีให้เลือกทั้งแบบสะพายบ่าและเป็นแบบรถเข็น เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ขนาดใหญ่ ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของสายไฟแบตเตอรี่ มีความแข็งแรงทนทานให้กำลังการตัดที่ดี จึงสามารถใช้ตัดหญ้าสนามได้ทุกแบบแม้ในบริเวณที่มีหญ้าขึ้นสูงหรือหญ้าเปียก สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นาน แต่ข้อด้อยก็คือจะมีเสียงดังในการทำงาน มีราคาแพงรวมไปถึงมีน้ำหนักมาก นอกจากนี้การสตาร์ทเครื่องยนต์ก็อาจจะค่อนข้างยุ่งยากสำหรับผู้ที่ยังไม่เคยใช้งานอีกด้วย 

ดังนั้นการตกลงใจหาซื้อเครื่องตัดหญ้ามาใช้งานที่บ้านก็ลองพิจารณาดูจากความกว้างของพื้นที่และชนิดของหญ้าส่วนใหญ่ที่ต้องการตัด จะได้เลือกซื้อมาใช้งานกันได้อย่างเหมาะสม
เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/OUT0709

93


ระบบประปาภายในบ้านนอกจากจะต้องมีการเดินท่อต่าง ๆ ให้ถูกต้องและเพียงพอกับความต้องการแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญก็คือระบบที่ใช้ส่งน้ำไปยังจุดต่าง ๆ ภายในบ้าน เพราะว่าถ้าหากกำลังของน้ำแรงไม่พอก็จะทำให้น้ำไหลช้าหรืออาจจะไม่ไหลในบางจุด การติดตั้งปั๊มน้ำจึงเป็นตัวเลือกที่ตอบสนองความต้องการได้เป็นอย่างดี ในคราวนี้เราก็จะพามาดูประโยชน์และความคุ้มค่าของปั๊มน้ำอัตโนมัติแต่ละแบบกัน
   
ปั๊มน้ำอัตโนมัติ ตัวช่วยที่ทำให้น้ำภายในบ้านไหลแรงทุกจุด ไอเทมที่ควรติดตั้งเอาไว้สำหรับบ้านท่าน

แบบถังความดัน
หรือที่เรียกกันอีกอย่างว่าแบบถังกลม ซึ่งก็จะมีลักษณะตามชื่อเลยก็คือจะเป็นถังทรงกระบอก ด้านบนก็จะเป็นตัวปั๊มส่วนทางด้านล่างก็จะเป็นถังความดันสำหรับเก็บน้ำเพื่อรอส่งจ่ายไปยังจุดต่าง ๆ ในบ้าน ซึ่งเมื่อมีการเปิดใช้งานก็จะทำการดันเอาน้ำที่อยู่ในถังออกมา และเมื่อความดันในถังลดลงจนถึงระดับ ตัวปั๊มก็จะเริ่มทำงานเพื่อให้น้ำกลับมาอยู่ในระดับที่เหมาะสมอีกครั้ง จุดแข็งของปั๊มชนิดถังความดันก็คือมี ราคา ปั๊มน้ำ ที่ไม่แพงมากนัก การทำงานไม่ซับซ้อนจึงดูแลรักษาได้ไม่ยาก อะไหล่ค่อนข้างหาง่าย แต่ข้อเสียก็คือตัวเครื่องจะมีขนาดใหญ่เนื่องจากต้องมีถังแรงดันติดตั้งมาด้วย ทำให้ต้องใช้พื้นที่ในการจัดวางตัวปั๊มค่อนข้างมาก และเมื่อใช้น้ำไปได้สักพักความแรงก็จะเบาลงเนื่องจากแรงดันในถังน้ำที่ลดลง และจะกลับมาแรงขึ้นเมื่อตัวปั๊มกลับมาทำงานอีกครั้งหนึ่ง ทำให้ได้น้ำที่ไหลแรงไม่สม่ำเสมอ นอกจากนี้ก็ยังค่อนข้างมีเสียงดังเมื่อใช้งาน

แบบแรงดันคงที่
หรือที่เรียกกันอีกอย่างหนึ่งว่าแบบถังเหลี่ยม โดยเป็นการปรับปรุงและพัฒนาเพื่อแก้ไขปัญหาข้อด้อยต่าง ๆ ที่มีอยู่ในแบบถังความดัน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการไหลของน้ำที่ไม่คงที่ หรือการกินพื้นที่ในการติดตั้งค่อนข้างมาก ก็เพราะว่าปั๊มน้ำอัตโนมัติแบบแรงดันคงที่นี้ก็จะไม่มีการใช้ถังเก็บแรงดันแต่จะใช้เป็นถังแรงดันขนาดเล็กซึ่งใช้แรงดันจากก๊าซไนโตรเจนจึงทำให้มีตัวเครื่องขนาดเล็กกว่า ใช้พื้นที่ติดตั้งไม่มาก ตัวเครื่องจะมีการทำงานทุกครั้งเมื่อเปิดน้ำใช้งานและจะหยุดเมื่อไม่มีการใช้น้ำ ให้การไหลของน้ำที่คงที่ มีน้ำหนักเบาและการทำงานที่ค่อนข้างเงียบ แต่จุดด้อยก็จะเป็นในเรื่องของ ราคา ปั๊มน้ำ ที่สูงกว่า รวมไปถึงค่อนข้างเปลืองไฟมากกว่าแบบถังความดันทั้งนี้เพราะจะทำงานทุกครั้งเมื่อเปิดใช้งานนั่นเอง ซึ่งปั๊มน้ำอัตโนมัติแบบนี้ก็มีให้เลือกในท้องตลาดอยู่มากมายหลากหลายยี่ห้อด้วยกัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็นิยมใช้เป็น ปั๊มน้ำ mitsubishi และปั๊มน้ำ Hitachi เป็นต้น

ดังนั้นในการตกลงใจเลือกซื้อเลือกหาปั๊มน้ำก็ควรที่จะพิจารณาดูในเรื่องของกำลังมอเตอร์ว่าแรงเพียงพอสำหรับการใช้งานในบ้านหรือไม่ มีพื้นที่ในการติดตั้งมากน้อยแค่ไหน ปริมาณในการจ่ายน้ำเป็นอย่างไร รวมถึงเลือกซื้อยี่ห้อที่ไว้ใจได้  อะไหล่หาง่าย และมีบริการหลังการขายที่ดี เนื่องด้วยถือได้ว่าเป็นอุปกรณ์ที่ต้องมีการใช้งานทุกวัน ถ้าหากเกิดปัญหาขึ้นมาก็ต้องแน่ใจได้ว่าสามารถซ่อมแซมได้อย่างทันท่วงที เพื่อไม่ให้เดือดร้อนจากการไม่มีน้ำใช้นั่นเอง 
เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/PLU06

94


ทั้งนี้เพราะการขับถ่ายคือเรื่องสำคัญของทุกวันในชีวิต การเลือกสุขภัณฑ์ให้เหมาะสมสำหรับห้องน้ำที่บ้านของท่านจึงเป็นเรื่องที่ควรจะเอาใจใส่เป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นเพื่อให้ทุกการขับถ่ายของคุณ ๆเต็มไปด้วยความผ่อนคลายและความสุข ในวันนี้เราจึงมีคำปรึกษาดี ๆ ในการเลือกซื้อโถส้วมมาฝากกัน 
    
การเลือกโถส้วมให้เหมาะสมสำหรับบ้านและการใช้งาน

แบบนั่งยอง 
เป็นรูปแบบที่มีการใช้งานมาอย่างยาวนาน ซึ่งในปัจจุบันก็ไม่ค่อยนิยมใช้ตามบ้านกันแล้วเพราะว่าการนั่งยองเป็นเวลานานในขณะที่กำลังทำธุระส่วนตัวก็ทำให้รู้สึกไม่สบายตัวและปวดเมื่อยขึ้นมาได้ และค่อนข้างลำบากสำหรับผู้ที่ไม่สามารถนั่งยองได้ตามปกติ อย่างเช่นคนที่มีรูปร่างอ้วน ผู้สูงอายุที่เคลื่อนไหวไม่ค่อยสะดวก ผู้ที่เป็นข้อเข่าเสื่อม รวมไปถึงคนพิการ แถมยังมีกลิ่นเหม็นได้ง่ายอีกด้วย แต่จุดแข็งก็คือสามารถดูแลรักษาได้ง่าย ทนทาน มีราคาไม่แพงจึงนิยมใช้กันตามห้องน้ำสาธารณะ ซึ่งก็มีทั้งระบบราดน้ำและระบบกดน้ำแบบฟลัชวาล์ว

แบบนั่งราบ 
เป็นรูปแบบที่นิยมใช้กันในปัจจุบันหรือที่เราเรียกกันว่าชักโครกนั่นเอง ซึ่งก็จะถูกออกแบบให้มีความสวยงามหรูหรา มีการใช้งานที่สบายรวมไปถึงท่านั่งในระหว่างการขับถ่ายที่คล้ายกับการนั่งเก้าอี้ตามปกติ จึงทำให้ไม่รู้สึกเมื่อยเมื่อต้องนั่งทำธุระส่วนตัวเป็นเวลานาน ซึ่งก็จะมีให้เลือกมากมายหลากหลายรูปแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นแบบชิ้นเดียวที่มีการออกแบบให้ตัวโถและถังพักน้ำเป็นชิ้นเดียวกันตลอดทั้งอัน ใช้ระบบการชำระล้างที่เรียกว่า Siphon vortex ซึ่งจะไม่ค่อยมีเสียงดังแต่ก็มีราคาที่ค่อนข้างแพง และแบบแยกตัวโถออกจากตัวถังพักน้ำเป็นคนละชิ้น ซึ่งก็มีทั้งระบบการชำระล้างแบบ wash down ซึ่งมีราคาประหยัดและนิยมใช้กันตามทาวน์เฮ้าส์หรือบ้านจัดสรร และระบบน้ำหมุนวนแบบ Siphon jet ซึ่งเป็นระบบที่ค่อนข้างใช้น้ำในปริมาณมากและทำงานเสียงดังกว่าแบบ Siphon vortex

แบบเคลื่อนย้ายได้
เป็นส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นแบบชักโครกที่ดีไซน์มาให้สามารถเคลื่อนย้ายตำแหน่งได้ โดยมักจะนำมาใช้กับเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้พิการภายในบ้านที่ไม่สามารถไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำได้ด้วยตนเอง  โดยทั่วไปแล้วก็จะใช้วัสดุเป็นพลาสติกที่มีความเหนียวและแข็งแรง น้ำหนักเบา และมีราคาที่ไม่แพงมากนัก 

เพราะฉะนั้นนอกจากการเลือกโถส้วมให้พอเหมาะและตอบสนองสำหรับการใช้งานของทุก ๆ คนในบ้านแล้ว ก็ควรที่จะคำนึงถึงดีไซน์ที่มีความสวยงาม ระบบน้ำที่ใช้ในการชำระล้าง ความสะดวกในการการดูแลความสะอาด และความสะดวกสบายในการใช้งานด้วย ซึ่งถ้าเป็นในบ้านเรือนตามปกติในปัจจุบันนี้ก็แนะนำให้เป็นแบบนั่งราบหรือแบบชักโครกจะเป็นการดีที่สุด เพื่อสุขอนามัยที่ดีและยังช่วยทำให้ห้องน้ำของคุณดูงดงามน่าใช้อีกด้วย 

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/BAT11

95

ปัจจุบันหลายท่านมีความสนอกสนใจอยากใช้งานถุงมือกันเนื่องด้วยการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด - 19 ที่มือเป็นปัจจัยการนำไปสู่การติดเชื้อจากการสัมผัสสิ่งต่าง ๆ ได้ แต่กระนั้นหากมองให้ดีจะพบว่ามีทั้งชนิดมีแป้ง และไม่มีแป้ง ซึ่งเชื่อว่าคนจำนวนไม่น้อยเกิดความสงสัยอยากรู้ถึงความแตกต่าง จึงได้รวบรวมมาบอกต่อ เพื่อการเลือกใช้งานเหมาะสม
ทำความรู้จักถุงมือธรรมชาติแบบมีแป้งและไม่มีแป้ง
ถุงมือยางแบบมีแป้งนั้นต้องบอกว่าแป้งทีสัมผัสคือแป้งข้าวโพด มีความปลอดภัยต่อร่างกาย เหตุผลที่ต้องใส่เนื่องด้วยเวลาที่มือเข้าไปอาจมีความเหนียวติด เกิดความรำคาญ จึงต้องใส่แป้งไว้หล่อลื่น สวมมือเข้าไปได้ง่าย แต่จะใส่ปริมาณน้อย หากใครแพ้แป้งอยู่แล้วไม่แนะนำด้วยเหตุว่าจะทำให้เกิดอาการแพ้ได้ 
ส่วนชนิดที่ไม่มีแป้งจะมีราคาสูงกว่า จุดเด่นคือไม่มีแป้งอยู่ด้านใน ทำให้คนมีปัญหาแพ้แป้งใช้งานได้ดี ไม่ต้องกลัวมีผงแป้งเลอะเปื้อน หรือหล่นออกมาข้างนอก แต่ก็อาจเหนียวติดมือเพราะว่าเหงื่อที่ออก
ความแตกต่างของทั้งแบบมีแป้งและแบบไม่มีแป้ง
1. ถุงมือยางแบบมีแป้งจะมีผงแป้งขาว ๆ อยู่ด้านใน เวลาถอดออกหรือสวมเข้าไปจะเห็นผงขาว ๆ ติดมือ กลับกันแบบไม่มีแป้งก็จะไม่มีผงขาวติดมือ 
2. การใส่ของแบบมีแป้งอย่างที่บอกคอยหล่อลื่นทำให้มือที่สวมใส่มีความสบายมากกว่า แป้งช่วยซับเหงื่อได้ดีกว่า ขณะที่แบบไม่มีแป้งถอดเข้า - ออกยากด้วยเหตุว่าเหงื่อเหนียวติด
3. การใช้งานแบบที่มีแป้งจะเสี่ยงต่อผงที่ร่วงออกมาขณะทำงาน จึงไม่เหมาะกับการใส่ทำอาหาร ขณะที่แบบไม่มีแป้งจะสะอาดกว่า ไม่มีอะไรหล่นร่วง ใส่ทำอาหารได้สบาย
4. สนนราคามีความแตกต่างกันซึ่งแบบมีแป้งจะถูกกว่า ก็เพราะว่าแบบไม่มีแป้งมีกระบวนการผลิตที่ยาก ซับซ้อนกว่านั่นเอง
แต่ถึงอย่างไร อย่าลืมว่ายังมีถุงมือพลาสติกให้เลือกใช้งานอยู่อีก ใส่ง่ายดาย สบาย แต่อาจหยิบจับวัตถุอื่น ๆ ยากทั้งนี้เพราะมีความลื่นไหลง่าย หาซื้อไม่ยาก มีราคาที่ถูกกว่าทั้งแบบมีแป้ง - ไม่มีแป้งด้วย ไม่ต้องห่วงว่าใส่แล้วจะเกิดอาการแพ้
ถุงมือแบบมีแป้งและไม่มีแป้ง คือความแตกต่างทั้งด้านการใช้งาน การสวมใส่ ราคา ไปจนถึงอาการแพ้ง่าย ซึ่งหากท่านไหนกลัวว่าจะมีปัญหาก็อาจเลือกใช้ถุงมือพลาสติกแทนก็ได้ อยู่ที่ความพึงพอใจของตัวเอง พินิจพิจารณาเยอะ ๆ ก่อนตกลงใจใช้งานดีที่สุด
สามารถดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/HHP0211

96

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเทคโนโลยีในปัจจุบันนั้นปรับเปลี่ยนพัฒนาอย่างก้าวกระโดดจนมีสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ประเภทหูฟังไร้สาย แต่ถึงอย่างไรหลายคนยังคงมีความเชื่อแบบผิด ๆ ฝังหัวจนไม่กล้าเปลี่ยนมาใช้ เอาเป็นว่ามาปรับเปลี่ยนทำความเข้าใจร่วมกันใหม่ผ่านข้อเขียนนี้ดีกว่า ช่วยให้เลือกใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น หรือท่านไหนลังเลอยู่ก็จะตกลงใจได้ว่องไว สะดวก ดูเท่ มีระดับมากขึ้นกว่าเดิม
หยุดความเชื่อแบบผิด ๆ เกี่ยวกับหูฟังไร้สายต่อไปนี้
1. แบบไร้สายดีไม่เท่าแบบมีสาย
คนทั่วไปมักมีความคิดว่าหูฟังแบบไม่มีสายจะทำให้การได้ยินเสียงลดลง หรือไม่ดีเท่าแบบมีสายที่ต่อเสียงออกจากเครื่อง ทั้งที่จริงแล้วเสียงแทบไม่ต่างกันเลย ซึ่งหูฟังแบบไม่มีสาย หรือหูฟังบลูทูธ จะได้รับเสียงส่งผ่านบลูทูธที่รองรับ apt - X ให้เข้ามามากขึ้น จึงไม่มีความแตกต่างของเสียง คุณภาพของเสียงนั้นยังคงดีเท่ากัน แอบบอกว่าบางแบรนด์พัฒนาให้เป็นการฟังเพลงแบบ Hi-Res เสียงดีไม่แพ้แบบมีสาย
2. ไม่คิดว่าจะมีความสะดวกเพิ่ม
เหมือนข้อนี้จะไม่มีคนเชื่อแบบผิด ๆ แต่หากลองไปสำรวจแล้วมีคนเชื่อแบบนี้อยู่จริง คือการรู้สึกว่าหูฟังทั้ง 2 ชนิด ใช้งานสะดวกแทบไม่ต่างกัน ทั้งที่ในความเป็นจริงหูฟังบลทูธหรือไร้สายนี้ค่อนข้างสะดวกสบายมากกว่า อย่างน้อยก็ไม่มีสายมาให้เกะกะรำคาญใจ เวลาสวมใส่หรือเก็บก็ง่ายมากขึ้น แต่แบบไร้สายก็ต้องขยันชาร์จแบตเตอรี่ด้วย เพื่อให้การใช้งานไม่ติดขัด
3. กลัวว่าจะมีเสียงกระตุก
บางคนเชื่อว่าใช้หูฟัง Bluetooth อาจกระตุกหรือล่าช้ากว่าเสียงที่ส่งผ่านมาจริง ทำให้ปากพูดไปก่อนเสียง แต่ต้องบอกเลยว่าปัจจุบันนี้ไม่มีปัญหานี้เกิดขึ้นแล้ว สามารถฟังเพลง ดูหนังได้สสบายใจ ซึ่งบลูทูธส่วนใหญ่ตอนนี้เวอร์ชันมากกว่า 3 แล้ว คือ 4.0 ถึง 4.2 จึงไม่ต้องห่วงเรื่องเสียงขาดหายระหว่างใช้งาน
4. ราคาแพงมากกว่าแบบไร้สาย
สุดท้ายคือเรื่องของราคาที่มักจะเชื่อแบบผิด ๆ ว่าหูฟัง Bluetooth ราคาแพงกว่า ซึ่งปัจจุบันนี้อยากบอกว่าราคาแทบไม่ต่างกันแล้ว อาจขึ้นอยู่กับฟังก์ชันการทำงานอื่น ๆ ที่ออกแบบเพิ่มเติมขึ้นมาด้วย เช่น ป้องกันเสียงรบกวน กันน้ำ หรือรองรับ NFC เป็นต้น ก่อนสั่งซื้อจึงควรศึกษารายละเอียดหูฟังให้ดี
มาถึงตรงนี้แล้วจะเห็นเลยว่าหูฟังไร้สายไม่ได้เป็นทั้งหูฟังที่กระตุก เสียงขาดหาย ราคาสูงเกิน ใช้งานไม่สะดวก หรือเสียงดีไม่เท่าแบบหูฟังมีสาย ซึ่งใครจะเลือกใช้งานแบบไหนไม่มีผิดถูก แค่เพียงต้องทำความเข้าใจเรื่องที่มีข้อมูลถูกต้อง เผลอ ๆ ลองซื้อมาใช้อาจติดใจจนไม่อยากเลิกใช้เลยก็เป็นได้
ชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/TVA1003

97


ด้วยสภาพอากาศในบ้านเราที่ร้อนจัดทำให้เกิดไอเท็มพัดลมน่าสนใจอย่างพัดลมไอเย็นขึ้น แต่เรื่องนี้จำเป็นต้องทำความเข้าใจเนื่องจากเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทดังกล่าวไม่เหมือนพัดลมแบบไอน้ำที่หลายคนกำลังเข้าใจอยู่ แล้วพัดลมแบบไอเย็นมีลักษณะอย่างไร จะดูแลรักษาความสะอาดยากหรือเปล่า? อยากทราบต้องไปหาคำตอบโดยด่วน 
ความต่างของพัดลมไอเย็น VS พัดลมแบบไอน้ำ
ความต่างที่ต้องทราบ คือ พัดลมแบบไอเย็นจะส่งความเย็นเป็นลมผ่านแผ่นทำความเย็นที่อยู่ภายในเครื่อง แต่ถ้าเป็นพัดลมไอน้ำระหว่างที่เปิดใช้งานจะมีละอองน้ำออกมาด้วย และเป่าให้ละอองกระจายไปทั่วด้วยลม จึงจัดได้ว่าพัดลมแบบไอเย็นเหมาะกับการใช้งานภายในห้องต่าง ๆ ที่ลมพัดผ่าน ถ่ายเทสะดวก ขณะที่พัดลมแบบไอน้ำจะเหมาะกับการใช้งานในพื้นที่โล่งแจ้ง
หากอธิบายให้เข้าใจถึงหลักการทำงานของพัดลมแบบไอเย็นต้องบอกว่าเป็นการระเหยของน้ำผ่านแผงเปลี่ยนความร้อน หรือ Cooling Pad, Evaporation Pad แล้วถูกส่งขึ้นไปในระบบจ่ายน้ำให้ถูกปล่อยผ่านแผง จากลมที่ร้อนก็จะเย็นขึ้นและเป่าออกมา กรณีแลกเปลี่ยนความร้อนเป็นความเย็นไม่พอ สามารถนำ Cooling Pack ไปแช่เย็นแล้วเอามาใส่ในถังเก็บน้ำได้ ก็จะทำให้เย็นขึ้น อาทิ พัดลมไอเย็น hatari หรือแบรนด์อื่น ๆ ที่มี Cooling pack อย่างดีให้ใช้งาน
แล้วเราจะดูแลรักษาหลังใช้งานอย่างไร?
หลังจากทราบเรื่องความต่างของพัดลมแบบไอเย็น และพัดลมไอน้ำ ถึงเวลาต้องดูแลรักษากันหน่อย เริ่มต้นหลังจากเลิกใช้งานแล้วทุกครั้งให้กดปุ่มทำงานเครื่องแบบไม่ทำความเย็น เพื่อเป็นการไล่ความชื้น ลดการเกิดเชื้อราบน Cooling Pad ออก นำน้ำที่เหลือไปเททิ้ง ต่อจากนั้นถอดแผ่นกรองออกมา ฉีดน้ำเบา ๆ ไล่ฝุ่น แล้วไปตากในที่อากาศถ่ายเท ลมพัดผ่าน (ห้ามตากแดดจัด) 
เสร็จแล้วก็เปิดแผ่นกรองออก นำแผงทำความเย็นมาล้างเปิดน้ำให้ไหลผ่านไล่ฝุ่น ไม่จำเป็นต้องผสมกับน้ำยาใด ๆ บางยี่ห้ออาจมีแผงทำความเย็นมากกว่า 1 แผง เช่น พัดลมไอเย็น hatari ก็ถอดออกมาล้างให้หมด ส่วนถังเก็บน้ำแบรนด์ไหนถอดได้ก็ถอดออกมาล้าง แต่หากไม่ได้ก็เปิดช่องระบาย ใช้ฟองน้ำชุบน้ำแล้วบิดให้แห้งหมาด ๆ มาเช็ดภายใน รวมถึงเช็ดใบพัดด้วย
หลังจากทุก ๆ อุปกรณ์ที่ถอดออกมาดูแลรักษาความสะอาดแห้งหมดแล้ว ให้ประกอบชิ้นส่วนพัดลมไอเย็นเข้าไปให้เหมือนเดิมตามลำดับ ที่สำคัญต้องระวังแผงควบคุมความเย็นด้วยเพราะทำจากกระดาษ เสียหายง่าย เท่านี้สิ่งสกปรกก็จางหาย ใช้งานได้ความเย็นเหมือนเดิม 
เชิญชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP0507

98


ด้วยคนสมัยใหม่ต้องใช้เวลาอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊กเพื่อทำงานก็ดี หรือเล่นเกมก็ดี เก้าอี้นั่งจึงเป็นสิ่งสำคัญสุด ๆ เนื่องมาจากบ่งบอกได้ถึงความสบายตลอดเวลาที่ใช้งาน ไม่ต้องเจอปัญหาสุขภาพ แต่สิ่งที่ทำให้เพื่อน ๆสงสัยคือปัจจุบันมีเก้าอี้เกมมิ่งเป็นอีกทางเลือกที่สามารถใช้นั่งทำงานได้ด้วย ที่จริงมันแตกต่างกับเก้าอี้สำนักงานอย่างไร? ท่านใดอยากรู้ไปติดตามเลยดีกว่า
ความแตกต่างระหว่างเก้าอี้เกมมิ่ง VS เก้าอี้สำนักงาน
1. สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับเก้าอี้เกมเมอร์
- สำหรับเก้าอี้เล่นเกม หรือเก้าอี้เกมเมอร์ มีการออกแบบมาเพื่อให้เหล่าเกมเมอร์ได้ใช้กันโดยเฉพาะ ลักษณะของเก้าอี้ที่แตกต่างออกไป
- มีฟังก์ชันให้เลือกหลายระดับ สามารถปรับให้เข้ากับผู้นั่งได้อย่างดีที่สุด
- ระหว่างนั่งใช้งานเก้าอี้เล่นเกม หรือนั่งทำงานก็ตามช่วยสร้างความสะดวกสบาย ไม่ทำให้เมื่อยล้า อึดอัดตัว
- ตัวเก้าอี้จะใช้เป็นหนัง PU ซึ่งเป็นวัสดุที่หนา แข็งแรง ทนทานกว่าเก้าอี้อื่น ๆ พร้อมป้องกันรอยเปื้อนต่าง ๆ ระหว่างใช้งาน
- ยิ่งไปกว่านี้หนัง PU ยังลดกลิ่นที่เกิดจากอาหาร หรือกลิ่นเหงื่อที่นั่งเป็นเวลานาน ที่สำคัญทำความสะอาดสะดวกมาก
- พนักพิงสามารถปรับเอนในองศาที่เหมาะได้ตามต้องการ ทั้งนี้ บางรุ่นปรับได้ถึงขั้นนอนเล่นเลยทีเดียว
- หรือท่านไหนอยากจะปรับช่วงแขน - ขาก็สามารถทำได้เช่นกัน อย่างที่บอกสร้างความสะดวกสบายต่อการนั่งเวลานานอย่างมาก
2. สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับเก้าอี้สำนักงาน
- เป็นเก้าอี้ที่ออกแบบมาเพื่อให้นั่งทำงาน สร้างความสะดวกสบายต่อผู้นั่ง ให้การทำงานออกมาในทิศทางที่ดี
- ปกติแล้วบริเวณพนักพิงจะโค้งรับกับแผ่นหลัง ซึ่งช่วยป้องกันปัญหาปวดหลัง
- บริเวณด้านบนพนักพิงจะเป็นมีฟองน้ำหนา หรือลักษณะคล้ายหมอนมาหนุนพอดีกับช่วงคอผู้ใช้งาน ลดอาการปวดคอ
- แต่บางรุ่นพนักพิงสั้น และช่วงฟองน้ำหนุนคอไม่มี ก็ทำให้อาการปวดกำเริบได้
- ส่วนใหญ่ออกแบบมาให้สามารถเลื่อนเก้าอี้ไปไหนมาไหนด้วยล้อแบบสบาย ๆ พร้อมมีที่เท้าแขนให้ได้วางขณะพิมพ์งานได้ด้วย
- บางรุ่นสามารถปรับความสูงหรือต่ำของเก้าอี้ได้ ช่วยให้เข้ากับสรีระผู้ใช้งานมากขึ้น
จะเห็นได้ว่าทั้งเก้าอี้เกมมิ่ง และเก้าอี้สำนักงานมีความแตกต่างกันอยู่ ดังนั้น ท้ายที่สุดแล้วจึงต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุด ตอบสนองระหว่างใช้งาน โดยการเปรียบเทียบฟังก์ชันการใช้งานอย่างครบถ้วน ท่านใดที่ใช้เวลานาน ๆ ในการนั่งจะมีความสุขอย่างสมบูรณ์มากที่สุด ไม่เกิดปัญหาออฟฟิศซินโดรม ไม่ปวดหลัง ปวดคอตามมา ซึ่งหากใครอยากนำข้อมูลดี ๆ นี้ไปฝากคนอื่นสามารถเผยแพร่ได้ตามต้องการ เพื่อสุขภาพการนั่งที่ดีในอนาคต
สามารถชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/FUR1402
 
 

99


ต้องมีบ้างที่ลูก ๆ หรือตัวเองเผลอติดสติ๊กเกอร์ที่ลิ้นชักพลาสติก และเมื่อติดไว้นาน ๆ วันดีคืนดีอยากแกะออก แต่เจ้ากรรมสิ่งที่หลงเหลือคือคราบเหนียวพาให้ดูสกปรกมากขึ้นไปกว่าเดิม ใครเป็นแบบนี้คงอยากจะแก้ไข จึงไม่ทำให้ผิดหวังมีวิธีการทำความสะอาดเอาคราบเหนียวหลุดออก ได้ตู้กลับมาสวยเหมือนใหม่อีกครั้ง
จัดการคราบเหนียวที่ลิ้นชักพลาสติก พาตู้กลับมาสวยเหมือนใหม่
1. จัดการด้วยน้ำยาล้างจาน + น้ำ
เป็นวิธีจัดการที่ง่ายมาก ๆ เริ่มต้นโดยผสมน้ำยาล้างจานที่มีฤทธิ์อ่อน ๆ 1 ช้อนโต๊ะ กับน้ำอุ่นแล้วคนจนเกิดฟอง ใช้ผ้าสะอาด (แนะนำเป็นผ้าไมโครไฟเบอร์) พันนิ้วข้างที่ถนัด จุ่มที่น้ำยาล้างจานแบบเร็ว ๆ แล้วเช็ดคราบให้ทั่ว หลังจากเช็ดเสร็จให้ใช้ผ้าสะอาดมาเช็ดซ้ำจนตู้ลิ้นชักแห้ง
2. จัดการด้วยครีมเบกกิ้งโซดา
ต่อมาเลือกใช้ครีมมเบกกิ้งโซดาโดยเอาไปผสมกับน้ำในสัดส่วนที่เท่ากันให้เกิดความเหนียวข้นขึ้น สัดส่วนขึ้นอยู่ขนาดคราบที่จะเช็ดทำความสะอาด ต่อไปให้แต้มหยดเบกกิ้งโซดาที่ปลายนิ้ว แล้วไปถูคราบที่ตู้ลิ้นชักพลาสติก ไม่แนะนำให้ใช้พื้นสัมผัสหยาบ อย่างสก็อตไบรท์มาขัด ทั้งนี้เพราะจะเกิดรอยได้ สุดท้ายให้ใช้ผ้านุ่ม ๆ ที่ชุบน้ำบิดจนแห้งหมาดมาเช็ดเอาครีมเบกกิ้งโซดาออกไป แล้วผึ่งจนแห้ง
3. จัดการด้วยแอลกอฮอล์
ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือการจัดการด้วยแอลกอฮอล์ เริ่มต้นให้นำผ้าสะอาด ๆ มาพับเป็นสี่เหลี่ยม หรือถ้าไม่มีผ้าจริง ๆ ให้ใช้ทิชชูแบบธรรมดาหรือซับน้ำมันได้หมด หงายผ้าในมือข้างที่ถนัด แล้วเทแอลกอฮอล์ใส่ผ้าให้ไว พอผ้าเปียกได้หมาด ๆ ก็รีบนำไปเช็ดคราบที่ติดอยู่ตู้ลิ้นชักได้
4. จัดการด้วยเทป
สุดท้ายเป็นวิธีการที่ง่ายดาย ไม่ต้องผสมอะไรทั้งสิ้น แค่มีเทปก็เพียงพอแล้ว จะเป็นเทปใส เทปพันสายไฟฟ้าสีดำ หรือเทปน้ำตาลได้หมด โดยให้ตัดเทปออกมาตามขนาดของคราบที่จะจัดการ ต่อจากนั้นก็นำเทปไปแตะ ๆ ตรงคราบย้ำซ้ำ ๆ เอาออกจนหมด ซึ่งความเหนียวเจอความเหนียวจึงช่วยให้คราบหลุดออกจากตู้ลิ้นชักพลาสติกได้ดี
สิ่งที่อยากฝากไว้เลยก็คือหากคุณเลือกใช้แอลกอฮอล์ทำความสะอาดต้องทดสอบแค่จุดเล็ก ๆ ก่อนเพื่อดูว่าทำลายสีของลิ้นชักพลาสติกหรือไม่ เนื่องด้วยพลาสติกบางแบบไม่ถูกกับสิ่งนี้ รวมถึงหลังการทำความสะอาดไม่ว่าจะวิธีใดก็ตาม ห้ามนำความร้อนจากไดร์เป่าผมมาเป่าหวังทำให้แห้งไวโดยเด็ดขาด ก็เพราะว่าจะทำให้สีตู้เปลี่ยนไป อย่างที่บอกให้เช็ดจนแห้ง หรือผึ่งลมเท่านั้น แล้วคราบจากตู้จะหลุดออกหายห่วงไปโดยปริยาย ติดกี่ชิ้น คราบใหญ่แค่ไหนก็ไม่หวั่น
รับชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/HHP1207

100

หม้อทอดไร้น้ำมัน” นับเป็นอีกไอเท็มเด็ดในครัวไปโดยปริยาย เพราะใช้งานง่ายมาก ๆ แถมช่วยให้สุขภาพดีขึ้น ห่างไกลจากโรคอันตรายหลากหลายแบบ ด้วยมีนวัตกรรมดูดซับเอาน้ำมันออกจากอาหาร ลดระดับไขมันเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งใครที่ไม่รู้ว่าจะทำเมนูอะไรดีแต่มีหม้อทอดแล้ว ไม่ต้องไปหาสูตรที่ไหนไกล เพราะขอบอกต่อกับ 4 เมนูง่าย ๆ แค่จับใส่หม้อ ตั้งไฟ ก็อิ่มอร่อยได้สบาย
4 เมนูทำไม่ยาก อิ่มอร่อยสบายท้องเพียงใช้หม้อทอดไร้น้ำมัน
1. อิ่มอร่อยกับเฟรนช์ฟรายทอด
ทุกคนสามารถทอดได้ทั้งแบบไร้น้ำมัน หรือมีน้ำมันคลุกเล็กน้อยตามความชอบ ซึ่งหากเป็นแบบไร้น้ำมันเลยก็จะต้องวอร์มหม้อรอก่อนทอด ด้วยอุณหภูมิที่ 200 องศาฯ ประมาณ 3 นาที จากนั้นจึงใส่เฟรนช์ฟรายลงไปในอุณหภูมิเดิม คือ 200 องศาเซลเซียส แต่ให้เวลานานขึ้นคือ 12 นาที กรณีทอดแบบมีน้ำมันคลุกเล็กน้อยให้วอร์มหม้อในอุณหภูมิและระยะเวลาเดียวกัน แล้วใส่เฟรนช์ฟรายลงไปโดยใช้ความร้อนที่ 180 องศาฯ พอ ทิ้งไว้ 18 นาที
2. เกี๊ยวซ่าไส้หมู สไตล์ญี่ปุ่น
ปัจจุบันมีหม้อทอดให้เลือกหลากยี่ห้อ หลายการทำงาน ไม่ว่าจะ หม้อทอดไร้น้ำมัน tefal หม้อทอดไร้น้ำมัน Philips หรืออื่น ๆ แต่กระนั้นไม่ว่าจะแบรนด์ไหนก็สามารถทำเมนูเกี๊ยวซ่าไส้หมูได้หมด โดยวิธีการไม่ว่าต้องการทอดแบบไร้น้ำมัน หรือแบบมีน้ำมันคลุกเล็กน้อยให้วอร์มหม้อด้วยอุณหภูมิที่ 200 องศาฯ ประมาณ 3 นาที แล้วใส่อาหารลงไปจากนั้นตั้งอุณหภูมิที่ 180 องศาฯ ใช้เวลาในการทอด 5 นาที 
3. ไก่ป๊อป กรุบกรอบยวนใจ
สำหรับใครที่ซื้อไก่ป๊อปมาแล้วเก็บไว้ค้างคืน สามารถหยิบมาอุ่นในหม้อทอดได้สบาย ๆ ด้วยนวัตกรรมสุดล้ำของหม้อทอดไร้น้ำมัน tefal ไม่ต้องหมุนหาความร้อน แค่กดเพิ่มความร้อน และเลือกประเภทอาหารที่อุ่นก็เสร็จสรรพแล้ว โดยให้วอร์มหม้อด้วยอุณหภูมิที่ 200 องศาฯ ราว 3 นาที แล้วใส่ไก่ป๊อปลงไป ก่อนตั้งไฟที่ 180 องศาเซลเซียส
4. น่องไก่ทอดก็อร่อยไม่แพ้กัน
ปิดท้ายที่น่องไก่เมนูแสนง่ายดาย ที่ไม่ว่าจะอุ่นหรือทำสดใหม่แค่ใส่น่องเรียงกันให้สวยงามก็เพียงพอ ไม่ต้องกลัวน้ำมันกระเด็น เริ่มต้นให้วอร์มหม้อในอุณหภูมิที่ 200 องศาฯ ระยะเวลา 3 นาที แล้วนำน่องไก่ใส่เรียงไว้ อย่าทับกัน จากนั้นก็ทอดอุณหภูมิที่ 180 องศาฯ ใช้เวลา 5 นาที กลับด้านน่องไก่ ใส่เข้าหม้อใหม่อีกรอบใช้อุณหภูมิที่ 180 องศาเซลเซียส เวลา 5 นาที จะหม้อทอดไร้น้ำมัน Philips หรือยี่ห้อไหนก็ใช้งานง่าย อร่อยชัวร์
เป็นยังไงกันบ้างกับเมนูอาหารต่าง ๆ ที่ใช้หม้อทอดไร้น้ำมันทำได้ง่าย ๆ พร้อมอิ่มอร่อยสบายท้อง สุขภาพดีไม่มีไขมันส่วนเกิน หลังจากนี้คงไม่มีใครบ่นเรื่องเมนูอาหารทำเองที่บ้านอีกต่อไป ส่วนใครยังไม่มีก็รีบหาซื้อมาใช้งานด่วน ๆ เลย
เข้ารับชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/APP080503
 
 

101


เมื่อใช้งานทีวีไปสักระยะ ต้องมีสิ่งสกปรกต่าง ๆ ไปจนถึงรอยขีดข่วนเกิดขึ้นที่หน้าจอ พาให้รำคาญตาเวลาดูเป็นอย่างมาก แต่กระนั้นก็สามารถทำความสะอาดด้วยวิธีไม่ยาก ราวกับว่าเพิ่งซื้อTVใหม่มาไม่กี่วันก่อนหน้า แล้วจะมีวิธีทำความสะอาดเช่นไร? บอกเลยเทคนิคที่จะเสนอแนะต่อไปนี้ไม่ยุ่งยาก แม้มีเวลาไม่มากก็จัดการให้โทรทัศน์เครื่องโปรดดูใหม่ได้จริง
3 วิธีหลักทำความสะอาด TV ที่ใครก็ทำได้ง่าย ๆ
1. เลือกใช้น้ำส้มสายชู + น้ำ
วิธีแรกที่จะช่วยทำความสะอาดได้เป็นอย่างดีก็คือการใช้น้ำส้มสายชูนำไปผสมกับน้ำในอัตราส่วนที่เท่ากันโดยทั่วไปน้ำส้มสายชูจะมีฤทธิ์เป็นสารซักฟอกทางธรรมชาติ แถมราคาถูก เริ่มต้นให้ปิดทีวีก่อน จากนั้นใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์มาชุบส่วนผสมแล้วบิดให้แห้งหมาด ๆ เช็ดจนทั่วไปในทิศทางเดียวกัน ลงน้ำหนักโดยเฉพาะบริเวณคราบที่สกปรกมาก
ทั้งนี้เนื่องด้วยราคา ทีวีตั้งแต่หลักพันปลาย ๆ ไปจนถึงหลักหลายหมื่น แนะนำว่าไม่ควรใช้สารเคมี ได้แก่ แอมโมเนีย เอทิลคลอไรด์ เอทิลแอลกอฮอล์ หรือแอสซิโทน เนื่องมาจากจะทำลายหน้าจอ อีกสิ่งสำคัญไม่ควรฉีดหรือเทส่วนผสมน้ำส้มสายชูลงไปบนหน้าจอโดยตรง จะทำให้จอเสียหาย และถ้าใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดโดยเฉพาะ แนะนำให้หาซื้อที่ร้านอุปกรณ์คอมพิวเตอร์
2. ใช้แค่ผ้าไมโครไฟเบอร์
ต่อมาเลือกใช้แค่ผ้าไมโครไฟเบอร์เท่านั้น เริ่มต้นเหมือนกันคือปิด TV ก่อน เพื่อให้พิกเซลหยุดทำงาน และยังมองเห็นฝุ่น สิ่งสกปรกมากขึ้น ต่อจากนั้นก็เอาผ้าไมโครไฟเบอร์ที่มีลักษณะคล้ายผ้าเช็ดแว่นมาเช็ดอย่างหมดจด แต่ต้องเป็นผ้าแห้งเท่านั้นเพื่อไม่ทำให้มีขุยผ้าติดจอ ทั้งนี้ไม่ควรใช้กระดาษทิชชู เศษผ้าเก่า หรือกระดาษอเนกประสงค์ใด ๆ มาเช็ด ด้วยเหตุว่าสิ่งเหล่านี้มีผิวสัมผัสหยาบ ทำให้เกิดทั้งรอยและขุยขึ้นได้ ที่สำคัญไม่ควรเช็ดถูหน้าจอด้วยความรุนแรง ถ้าสิ่งสกปรกต่าง ๆ ไม่ออกให้กลับไปใช้วิธีแรก
3. กำจัดรอยขีดข่วนต่าง ๆ บนจอ
การกำจัดรอยขีดข่วนนั้นก็สามารถทำได้ด้วยวิธีต่าง ๆ อาทิเช่น ใช้สำลีชุบวาสลีนแล้วป้ายบริเวณที่รอย หรือใช้น้ำมันเคลือบเงา แลคเกอร์ฉีดตรงรอย รอให้แห้ง สุดท้ายเลือกใช้อุปกรณ์กำจัดรอยขีดข่วนบนหน้าจอโดยเฉพาะที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขาย - ซ่อม TV บางแหล่ง 
ปฏิเสธไม่ได้ว่าทีวี ราคามีหลากหลาย ตามฟังก์ชัน ตามยี่ห้อ รุ่น ขนาดหน้าจอ ดังนั้นเมื่อซื้อมาใช้งานแล้วควรดูแลรักษาทำความสะอาดสม่ำเสมอ ด้วยการใช้วิธีที่เหมาะสม เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานให้คงอยู่ เหมือนเพิ่งซื้อมาใหม่เมื่อวาน หวังว่าวิธีทำความสะอาดทีวีทั้ง 3 นี้จะช่วยหลายคนได้ เลือกไปปรับใช้กันดู เห็นผลลัพธ์น่าประทับใจแน่นอน
เชิญรับชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/TVA07
 
 

102


ตัวปัญหาดาดฟ้ารั่วคงต้องเลือกซื้อเลือกหาวัสดุกันซึมมาใช้งาน ซึ่งหากลองค้นหาข้อมูลจะพบว่ามีให้เลือกมากมาย อาทิเช่น โพลียูริเทน และหนึ่งในนั้นคืออะคริลิค ที่ได้รับรับรองว่าดีจริง แต่ถึงอย่างไรอย่าเพิ่ง่รีบมั่นใจเชื่อโดยทันที จึงขอรวบรวมข้อมูลมาให้ศึกษาอย่างเต็มที่ ไขข้อสงสัยต้องการมีระบบกันซึมดาดฟ้าเต็มประสิทธิภาพ ควรเลือกใช้จริงหรือ?
อะคริลิคช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับดาดฟ้าได้ดี
คงต้องบอกเลยว่าสิ่งนี้เป็นน้ำยากันซึมที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่ง ปกป้องการแตกร้าวของตัวดาดฟ้าได้ดี แต่ต้องมีการใช้งานร่วมกับเส้นใยอย่าง Fiberglass ที่ถูกถักทอเป็นเส้นใยแก้วเชื่อมไขว้กันแน่นหนา และ Polyester Mat ที่เกิดจากการทำปฏิกิริยาทางเคมี ช่วยให้ทนความร้อนและมีความเหนียวคงทน เมื่อนำเส้นใยทั้ง 2 ชนิดที่อยู่ในน้ำยากันซึมแล้วใช้ทาเคลือบดาดฟ้า ก็จะได้รับการปกป้องอย่างดี ไม่มีเกิดรอยแตกให้เห็น
อย่างไรแล้วให้โพลียูรีเทรนช่วยอีกแรงได้นะ
อย่างที่บอกให้ทราบว่ามีให้เลือกเป็นตัวนี้ด้วย ดังนั้นอาจเลือกเพิ่มประสิทธิภาพอีกแรงได้ โดยโพลียูรีเทรน หรือกันซึมพียู สามารถใช้เคลือบคอนกรีตโดยเฉพาะดาดฟ้าได้ดีเยี่ยม ไม่ทำให้ผิวคอนกรีตถูกน้ำไหลรั่วซึม พร้อมมีความยืดหยุ่นอยู่ที่ 300 - 500% ยอมรับว่าความยืดหยุ่นเยอะมาก เจอแดดแรงมากแค่ไหน หรือโครงสร้างอาคารจะสั่นสะเทือนยังไง ก็ไม่เป็นผล เนื่องด้วยสิ่งนี้จะช่วยยึดการขยายตัว ปกปิดรอยร้าวได้ดีเหมือนใหม่ ที่สำคัญไม่ว่าจะเจอน้ำท่วมขังสูงมากเท่าใดก็สบาย ๆ หรือขังนาน 10 วันก็ไม่หวั่น เนื่องมาจากจะช่วยรองรับน้ำฝน พร้อมป้องกันผิวดาดฟ้าปราศจากน้ำไหลรั่วซึม
แนะนำวิธีการทากันซึมให้เกิดประสิทธิภาพที่สุด
- เริ่มต้นสำรวจบริเวณดาดฟ้าที่เกิดปัญหารั่วซึม เป็นแอ่ง หรือมีรอยแตกร้าวตรงไหนบ้าง
- ใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงมาล้างทำความสะอาดดาดฟ้า
- อุดโป๊วบริเวณที่มีปัญหาแตกร้าว ซึ่งให้ขยายร่องรอยร้าวให้กว้าง 2 - 3 มิลลิเมตร 
- ทำการทาสีรองพื้นโดยเลือกสีรองพื้นปูนเก่าเอามาทาผิวดาดฟ้าให้ชุ่ม 1 ครั้ง แล้วทิ้งให้แห้ง 2 - 3 ชั่วโมง
- ในขั้นสุดท้ายให้ทาน้ำยากันซึมของพวกเราลงไปได้เลย
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทุกท่านสามารถเลือกสั่งซื้ออะคริลิคได้ผ่านออนไลน์แล้ว ซึ่งหากมองมุมบวกนี่เป็นเรื่องที่ดีเหตุเพราะสะดวกสบาย ไม่ต้องออกไปไหน รอของส่งถึงหน้าบ้าน ฯลฯ กระนั้นก็ควรเลือกร้านมีมาตรฐาน คุณภาพดี น่าเชื่อถือที่สุด ระบุรายละเอียดต่าง ๆ ได้ครบถ้วน สามารถเปรียบเทียบตกลงใจซื้ออย่างเหมาะสม การันตีได้ดาดฟ้าเหมือนใหม่ ไม่มีรั่วซึมให้กวนใจอีกต่อไป
เข้าดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/CON0305
 
 

103

ผู้ที่ต้องการใช้งานเก้าอี้สนามวางไว้นอกบ้าน ไม่ว่าประเภทหวาย พลาสติก ไม้ หรือสเตนเลส คำถามที่มักเกิดข้อสงสัยคือ จะเลือกเช่นไรให้เกิดความคุ้มค่าคุ้มราคา ใช้งานได้ยาว ๆ ไม่ต้องเสียสตางค์ในการซื้อใหม่บ่อยให้เปลือง เพื่อตอบโจทย์กับคำถามดังกล่าวอย่างชัดเจน ตรงประเด็น นำไปใช้งานต่อได้เลย จะขอนำเสนอเทคนิคต่าง ๆ ในการเลือกซื้อเลือกหามาฝาก
เทคนิคการเลือกเก้าอี้สนามใช้งาน ไปเที่ยวไปอย่างสุขใจ
1. เก้าอี้บางรุ่นสามารถปรับเอนได้
ต้องเข้าใจไว้เลยว่าเก้าอี้ที่วางนอกบ้าน หรือใช้ในสนามหน้าบ้าน ทั้งเก้าอี้พลาสติก หรือหวายบางรุ่น บางยี่ห้อสามารถปรับเอนได้ ซึ่งหากใครรู้สึกว่าอยากนั่งเอนหลังสบาย ๆ หรือจะนอนพักชิลล์ ๆ ก็สามารถเลือกเปรียบเทียบดู อย่างน้อยควรปรับ 3 ระดับ เพื่อท่วงท่าที่เหมาะสม
2. สามารถรับน้ำหนักได้ดี
เรื่องน้ำหนักเวลานั่งอย่างสบายใจก็จำเป็นต้องรับน้ำหนักคนนั่งได้ ไม่ว่าจะหนักมากแค่ไหนก็ตาม ต้องเน้นที่โครงสร้างมีความแข็งแรง ดูเรื่องการดีไซน์ตามจุดเชื่อมต่าง ๆ ซึ่งหากใครสนใจเก้าอี้พลาสติกภายนอกเหมือนดูแข็งแรง แต่กระนั้นเก้าอี้หวายก็มีความแข็งแรงและรับน้ำหนักได้ดีไม่แพ้กัน แนะนำว่าใช้เสร็จแล้วให้เก็บเข้าบ้านจะดีที่สุดป้องกันเก้าอี้ผุพัง หรืออายุการใช้งานน้อยลง
3. มีหลากหลายขนาดให้เลือก
จำเป็นต้องดูขนาดผู้นั่งด้วย บางบ้านอาจอยากนั่งด้วยกัน 2-3 คน ก็ควรเลือกแบบตัวยาวไปเลย หรืออยากนั่งจับวงคุยรอบโต๊ะแบบสบาย ๆ ก็เลือก 1 ตัว เป็นต้น ยิ่งมีให้เลือกมากก็ยิ่งเป็นตัวเลือกให้ได้ตัดสินใจ
4. รองรับการทำความสะอาดได้ง่ายดาย
ต้องดูเรื่องการทำความสะอาดด้วย เพราะถือเป็นอีกปัจจัยในการใช้งาน เผื่อว่าใครเอาไว้นอกบ้านเลยก็ควรเลือกแบบที่ทนแดดทนลม ทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย ดังเช่น เก้าอี้พลาสติกที่สามารถใช้น้ำล้างทำความสะอาดได้เลย หรือเก้าอี้หวายจริง ๆ ก็สามารถใช้น้ำทำความสะอาดได้เช่นกัน เพียงแต่ต้องนำผ้าชุบแล้วบิดหมาด ๆ มาเช็ด แล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดซ้ำทันที
5. สนนราคาต้องสมเหตุสมผล
ท้ายที่สุดคงหนีไม่พ้นเรื่องสนนราคาที่ควรต้องมีอย่างสมเหตุสมผล อย่างถ้าเป็นแบบพลาสติก มีน้ำหนักเบา ออกแบบไม่ยากมาก ก็อาจมีราคาที่ย่อมเยาว์กว่าเก้าอี้หวายที่ต้องใช้ฝีมือการผลิต เป็นต้น ต้องเปรียบเทียบราคาหลาย ๆ ร้านดูความเหมาะสมคุ้มค่า
เมื่อรู้อย่างนี้แล้วก็หวังว่าใครที่อยากมีเก้าอี้สนามใช้งานสบายใจจะสามารถนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ได้อย่างราบรื่น เหมาะสมตรงความต้องการใช้งานยาว ๆ อย่างแท้จริง ทั้งนี้ท่านใดไม่อยากเดินทางไปเลือกซื้อเลือกหาด้วยตนเอง สามารถเลือกผ่านออนไลน์แล้วกดสั่งได้เลย มีทั้งขนาด ชื่อรุ่น ราคา วัสดุที่ใช้ทำ ฯลฯ บอกพร้อม ไม่นานเก้าอี้มาส่งถึงหน้าบ้านเลยล่ะ
เข้าชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/OUT060503
 
 

104

ภูมิอากาศอันแสนอบอ้าวของประเทศไทย ทำให้หลากหลายบ้านต้องติดตั้งแอร์เพื่อเพิ่มความเย็นให้ร่างกาย แต่คุณ ๆเคยพบปัญหาเปิดแล้วไม่เย็นกันบ้างหรือเปล่า? โดยจริงเป็นเพราะอะไร สามารถสังเกตอาการได้เพื่อลดความผิดพลาดดังกล่าวได้อย่างไร เอาเป็นว่าเรื่องนี้ไม่ยุ่งยาก ขอนำเสนอข้อมูลมาช่วยไขข้อสงสัยให้การใช้งานของคุณ ๆเย็นฉ่ำโดนใจ อากาศร้อนแค่ไหนก็หมดห่วง
ทำไมแอร์ที่ใช้งานอยู่ถึงไม่เย็น?
จริง ๆ แล้วต้นสายปลายเหตุที่เครื่องปรับอากาศที่ใช้งานอยู่ไม่เย็นขึ้นมาดื้อ ๆ มีหลายปัจจัยด้วยกัน อาจมาจากผู้ใช้เปลี่ยนโหมดใช้งานผิดเพี้ยนไป กลายเป็นเปิดแบบใช้พัดลมบ้าง หรืออื่น ๆ ซึ่งปกติแล้วก็แค่เปิด - ปิด และเพิ่ม - ลดอุณหภูมิเท่านั้น แนะนำว่าให้ศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับระบบการทำงานให้ชัวร์ 
ทั้งนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ อาทิเช่น เครื่องมีรอยรั่ว คอมเพรสเซอร์ทำงานผิดปกติ หรือน้ำยาหมด เป็นต้น และหากระดับความเย็นลดลงจากปัจจัยเหล่านี้ควรเรียกผู้เชี่ยวชาญมาช่วยแก้ไข ทั้งนี้เพราะด้วยราคาแอร์แต่ละเครื่องค่อนข้างสูง จึงไม่ควรเสี่ยงแก้ไขเอง
พาไปสังเกตสาเหตุที่เครื่องปรับอากาศไม่เย็น
1. ให้ตรวจสอบโหมดหรือฟังก์ชันใช้งาน
อย่างที่บอกว่าการเปลี่ยนโหมดของผู้ใช้งานเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เครื่องไม่เย็น จึงควรสังเกตโหมด หรือฟังก์ชันที่ใช้งานอยู่ ดูว่าตอนนี้เครื่องอยู่ในโหมดปกติหรือไม่ โดยสังเกตที่รูปไอคอน กรณีไม่เย็นจะอยู่ในรูปไอคอนพัดลม ก็ให้เปลี่ยนกลับให้อยู่ในโหมดเย็น โดยจะเป็นรูปไอคอนเหมือนหิมะ มีแฉก ๆ รับรองว่ากลับมาเย็นฉ่ำเหมือนเดิม
2. ให้ตรวจสอบที่คอมเพรสเซอร์
ด้วยกลไกของเครื่องปรับอากาศในบางรุ่นป้องกันเวลาไฟตก เมื่อไฟตกขึ้นมาเครื่องจะยังสามารถทำงานได้ปกติ แต่ก็มีบ้างที่ความเย็นลดลง และเมื่อยกเบรกเกอร์ขึ้นความเย็นก็จะกลับมา นอกจากนี้ยังอาจมีสาเหตุอื่น ๆ อาทิเช่น เครื่องมีเสียงดังแปลก ๆ หรือตัวเครื่องคอมเพรสเซอร์ไม่ทำงาน ควรเรียกผู้เชี่ยวชาญมาช่วยดีกว่า 
3. ให้ตรวจสอบที่ฟิลเตอร์ หรือแผ่นกรอง
สุดท้ายให้ลองไปตรวจสอบฟิลเตอร์ หรือแผ่นกรองดู เปิดหน้ากากของเครื่องออก ดูว่ามีสิ่งสกปรก ฝุ่น เส้นผม เส้นขนเกาะตามแผงหรือไม่ หากพบว่ามีเป็นจำนวนมาก หรืออุดตันการไหลเวียนให้ถอดออกแล้วทำความสะอาดใส่กลับเข้าไปใหม่ ทำให้อากาศไหลเวียนดีขึ้นได้ อุณหภูมิก็จะกลับมาเย็นฉ่ำเหมือนเดิม ซึ่งผู้ใช้งานควรตรวจสอบเรื่องนี้อย่างสม่ำเสมอ
เมื่อทราบว่ามูลเหตุที่แอร์ไม่เย็นเป็นเพราะอะไรแบบนี้แล้ว ต่อไปเมื่อเกิดปัญหาขึ้นรับรองว่าผู้ใช้งานทุก ๆ คนจะสามารถตั้งรับ และตรวจสอบด้วยตนเอง พร้อมแก้ไขได้หากไม่เหนือบ่ากว่าแรง แต่ถ้าไม่ได้จริง ๆ ต้องเรียกผู้เชี่ยวชาญมาช่วยทันที ทั้งนี้ บ้านเราก็มีขายอยู่หลากหลายยี่ห้อ ราคาแอร์ก็มีตั้งแต่หลักหมื่นต้น ๆ ไปจนถึงหลายหมื่นเลยทีเดียว อย่าลืมเลือกที่ตอบโจทย์กันนะ
ชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/APP01

105


ในช่วงที่การแพร่ระบาดของโควิด - 19 ยังคงทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จะให้สวมแค่หน้ากากอนามัย หรืออยู่ห่างกัน 1 -2 เมตร เห็นทีคงไม่พอ ไอเท็มเด็ดที่จำเป็นต้องใช้อย่าง แอลกอฮอล์ล้างมือจึงไม่อาจมองข้ามได้ แต่ถึงกระนั้นบางคนอาจยังใช้ไม่ถูกต้อง หวังจะฆ่าเชื้อโรคกลายเป็นเชื้อโรคยังอยู่ ฉะนั้น เพื่อให้เกิดความเข้าใจ จึงมีวิธีล้างอย่างถูกต้องมาฝาก
เหตุผลของการพกแอลกอฮอล์ล้างมือที่มากกว่าเชื้อโควิด - 19 
ทุกคนคงคิดว่าการพกเจลล้างมือไปไหนมาไหนเพื่อฆ่าเชื้อโควิด - 19 ทั้งที่จริงแล้วมีเหตุผลที่มากกว่านั้นอยู่หลายประเด็น
- พกไว้เพื่อให้ล้างทำความสะอาดหลังจากใช้มือถือที่ปกติแล้วพบแบคทีเรียได้มากกว่า 30,000 ชนิด
- เนื่องมาจากที่มือสามารถมีเชื้อแบคทีเรียเกาะติดได้นาน 3 ชั่วโมง และหากเรานั้นไม่ล้างทำความสะอาด ก็จะมีแบคทีเรียที่แบ่งตัวเอง 4 ล้านตัวใน 8 ชั่วโมง เข้าสู่ร่างกายได้
- มือที่เปียกชื้นแล้วไม่ล้างให้สะอาดแพร่กระจายเชื้อแบคทีเรียได้ถึง 1,000 เท่า มากกว่ามือที่แห้งปกติ ทั้งจุลินทรีย์อีก 85% ยังถูกส่งผ่านมือที่เปียกชื้นอีกด้วย
- บนโต๊ะทำงานที่เรานั้นใช้งานกันอยู่มีโอกาสพบแบคทีเรียได้ถึง 400 เท่าของที่นั่งสุขา
- บนธนบัตรที่ใช้ซื้อสินค้าพบแบคทีเรียได้ต่อฉบับที่ 26,000 ตัว
- แน่นอนว่าการเจลล้างมืออย่างถูกต้อง ช่วยให้เกิดประสิทธิภาพเทียบเท่าฉีดวัคซีน
แนะนำวิธีการใช้เจล - สเปรย์แอลกอฮอล์ล้างมืออย่างถูกต้อง
เพื่อเป็นการกำจัดสิ่งสกปรกที่อยู่บนมือ หรือลดจำนวนเชื้อแบคทีเรียให้ออกไป ควรล้างมืออย่างถูกต้อง ไม่ว่าเจล หรือสเปรย์แอลกอฮอล์ก็ตาม โดยเริ่มต้นให้บีบ หรือฉีดผลิตภัณฑ์ลงที่ฝ่ามือทั้งสองข้าง จากนั้นถูทั้งฝ่ามือ + ง่ามนิ้ว หลังมือ + ง่ามนิ้ว ต่อด้วยการหมุนที่นิ้วโป้งทั้ง 2 ข้าง ถูบริเวณปลายนิ้วมือ 2 ข้าง จีบนิ้วมาถูที่ฝ่ามือทั้งซ้าย - ขวา สุดท้ายถูรอบข้อมือทั้ง 2 ข้าง 
สิ่งสำคัญการล้างด้วยผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ ไม่จำเป็นล้างออกด้วยน้ำสะอาดแต่อย่างใด รวมทั้งไม่ต้องเช็ดด้วยผ้าเช็ดมือ ปล่อยให้แห้งไปตามธรรมชาติระหว่างที่กำลังล้างตามวิธีข้างต้น บอกเลยว่าวิธีการเหล่านี้ไม่ได้ลำบากลำบน และไม่ได้ช้าอย่างที่คิด
ปกติแล้วการล้างมือตามหลักสากลมีด้วยกัน 4 แบบ ซึ่งแอลกอฮอล์ล้างมือเป็นหนึ่งในนั้น โดยจะล้างเมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่เร่งด่วน สร้างความรวดเร็ว หรือไม่มีเวลาล้างมือกับสบู่ + น้ำสะอาด ควรบีบหรือฉีดใส่ฝ่ามือให้ได้ปริมาณ 10 มิลลิลิตร และใช้เวลาล้างประมาณ 15 - 25 วินาที ยืนยันว่าสิ่งสกปรก เชื้อโรคเชื้อแบคทีเรียหายเกลี้ยง สุขภาพร่างกายแข็งแรงปลอดภัยโดยเฉพาะในยุคโควิด - 19 แบบนี้
เข้าชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/HHP0607
 
 

หน้า: 1 ... 5 6 [7] 8 9 ... 12