͸Ժ

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - iammu

หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 12
76


โดยทั่วไปแล้วในห้องนอนส่วนใหญ่นั้น เฟอร์นิเจอร์ที่มีความสำคัญและขาดไปไม่ได้เลยก็คือตู้เสื้อผ้า  ทั้งนี้เพราะโดยทั่วไปแล้วถ้าหากที่บ้านไม่มีห้องสำหรับแต่งตัวแยกออกมาต่างหากก็มักจะมีตู้เสื้อผ้าเอาไว้ในห้องนอนด้วยกันทั้งนั้น ด้วยเหตุนั้นจึงต้องมีการเลือกให้พอเหมาะทั้งในแง่ของฟังก์ชันการใช้งานและสัดส่วนที่พอเหมาะกับห้องนอนด้วย คราวนี้เราจึงมีคำแนะนำดีๆเกี่ยวกับการเลือกตู้เสื้อผ้ามาฝากกัน

จัดเก็บเสื้อผ้าให้เป็นระเบียบด้วยตู้เสื้อผ้าแต่ละแบบ 
แบบลอยตัว เป็นรูปแบบที่เห็นกันได้บ่อยและหาซื้อได้สะดวกเนื่องมาจากมีขายอยู่ทั่วไป เป็นตู้เสื้อผ้า ราคาถูก ไปจนถึงราคาแพง เพราะว่ามีขนาดให้เลือกหลากหลาย และใช้วัสดุที่มีความแตกต่างกันออกไป สามารถเคลื่อนย้ายได้ ประกอบได้ง่าย เหมาะกับห้องนอนที่มีพื้นที่จำกัดหรือคนที่ชอบมีการตกแต่งเปลี่ยนการจัดวางของห้องอยู่บ่อยครั้ง รวมไปถึงผู้ที่ยังต้องเช่าบ้านหรือเช่าห้องอยู่เนื่องด้วยสามารถเคลื่อนย้ายได้หากมีการย้ายที่อยู่ 

แบบบิ้วท์อิน เป็นการติดตั้งโดยคำนึงถึงพื้นที่การใช้งานของห้องให้มีพื้นที่ใช้สอยมากที่สุด สามารถออกแบบได้ตามความต้องการ มีความสวยงาม แต่ส่วนมากก็จะมีราคาค่อนข้างแพงและจะต้องมีการออกแบบและติดตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญ ที่สำคัญคือไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ จึงเหมาะกับผู้ที่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองและต้องการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ลักษณะและจำนวนของประตูที่นิยมใช้
สำหรับลักษณะประตูที่ใช้งานกันโดยทั่วไปก็จะมีทั้งแบบบานพับ โดยเป็นการเปิดดึงบานประตูออกมาเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเก็บเสื้อผ้าแบบปิดทึบเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและป้องกันฝุ่น แต่ก็ต้องมีพื้นที่สำหรับการเปิดประตูออกมาด้วย ในขณะที่ตู้เสื้อผ้าบานเลื่อนก็จะมีลักษณะการเปิดประตูเป็นแบบเลื่อนจึงไม่เปลืองพื้นที่ในการเปิดประตูออกมา เหมาะกับห้องที่มีพื้นที่จำกัดหรือต้องการความสวยหรู นอกจากนี้ก็ยังสามารถดีไซน์ให้ประตูของตู้นั้นเป็นกระจกเสื้อส่องสำรวจความเรียบร้อยในขณะที่แต่งตัวได้อีกด้วย ในขณะที่จำนวนประตูตู้เสื้อผ้าก็มีให้เลือกตั้งแต่ขนาดเล็ก 2 ประตูซ้ายขวา เหมาะกับห้องที่มีขนาดเล็ก แบบ 3 ประตูก็จะเหมาะสำหรับห้องที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาโดยจะมีประตูตรงกลางเพิ่มเข้ามาทำให้มีพื้นที่ในการจัดเก็บมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าหากห้องนอนมีขนาดใหญ่และมีเสื้อผ้าจำนวนมาก การเลือกใช้ขนาด 4 ประตูก็ถือว่าตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี 

ดังนั้นการเลือกตู้เสื้อผ้าจึงควรพินิจพิเคราะห์จากขนาดของห้องก่อนว่ามีพื้นที่มากน้อยเท่าใด ต่อจากนั้นจึงค่อยเลือกรูปแบบและการออกแบบรวมไปถึงฟังก์ชั่นการใช้งานว่าตอบโจทย์ตรงกับความต้องการหรือไม่ และข้อสำคัญก็คือควรจะมีราคาที่พอเหมาะ อยู่ในงบประมาณที่ตั้งเอาไว้ด้วย

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/FUR0104

77


อีกหนึ่งอุปกรณ์สำคัญในห้องน้ำที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คืออ่างล้างหน้า  ซึ่งในปัจจุบันก็มีการออกแบบ ฟังก์ชั่นการใช้งาน และรูปแบบให้เลือกอย่างหลากหลาย เพื่อให้สามารถตอบสนองสำหรับความต้องการใช้งานของห้องน้ำในแต่ละบ้านได้อย่างตรงจุดมากที่สุด มาดูกันว่าห้องน้ำของบ้านท่านนั้นควรที่จะเลือกอ่างล้างหน้า แบบไหนมาใช้งานถึงจะเหมาะและตรงกับความต้องการใช้งานได้มากที่สุด

อ่างล้างหน้า อุปกรณ์สำคัญที่ต้องใช้งานแทบตลอดทั้งวันโดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนเช้าและก่อนนอน 

แบบวางบนเคาน์เตอร์ ถูกออกแบบมาสำหรับการติดตั้งหรือฝังอยู่ใน เคาน์เตอร์ อ่างล้างหน้า ซึ่งก็จะมีทั้งแบบฝังด้านบนเคาน์เตอร์ ฝังครึ่งเคาน์เตอร์ และฝังใต้เคาน์เตอร์ ซึ่งภายใต้เคาน์เตอร์ก็อาจจะทำเป็นตู้สำหรับเก็บของใช้เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยและจัดระเบียบข้าวของ รวมไปถึงปกปิดท่อระบายน้ำทิ้งทำให้ห้องน้ำดูเรียบร้อยสะอาดตา อีกทั้งยังทำให้ห้องน้ำดูสวยงามหรูหรามากยิ่งขึ้น โดยตัวเค้าเตอร์ที่ใช้วางอ่างก็ควรเลือกวัสดุที่มีความแข็งแรงทนทานและสามารถกันน้ำได้ดี สามารถซ่อมบำรุงได้ไม่ยาก เหมาะกับห้องน้ำที่มีพื้นที่กว้าง

แบบแขวนผนัง สามารถติดตั้งเข้ากับผนังของห้องน้ำได้ทุกมุม เป็นส่วนใหญ่ก็จะมีขนาดเล็กกระทัดรัดจึงเหมาะกับการใช้งานในห้องน้ำที่มีพื้นที่ไม่มากนัก มีราคาไม่แพง สามารถหาซื้อได้ง่าย การดูแลรักษาทำได้ไม่ยาก แต่ด้วยความที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนักจึงอาจทำให้เกิดการกระเด็นของน้ำในขณะที่ใช้งานได้ง่ายกว่าและไม่สามารถจัดเก็บหรือวางอุปกรณ์ที่ต้องใช้งานในห้องน้ำได้อย่างเต็มที่

แบบตั้งพื้น ดีไซน์มาให้มีขาตั้งพื้นที่เพื่อรองรับน้ำหนักของตัวอ่าง จึงมีความมั่นคงแข็งแรงและยังช่วยซ่อนระบบท่อระบายน้ำทิ้งเอาไว้ด้านในเพื่อความสวยงาม เหมาะสำหรับห้องน้ำที่มีพื้นที่จำกัดแต่อาจจะเข้าไปทำความสะอาดด้านหลังของขาตั้งได้ยาก

แบบขาตั้งลอย เป็นการนำเอาจุดเด่นของแบบแขวนผนังและแบบตั้งพื้นมารวมไว้ด้วยกัน โดยจะมีลักษณะเป็นแบบแขวนผนังแต่จะมีขาตั้งลอยมาให้เพื่อสำหรับปกปิดท่อระบายน้ำทิ้งเพื่อความสวยงาม

ดังนั้นการเลือกอ่างล้างหน้า สำหรับติดตั้งในห้องน้ำ ก็ควรที่จะดูในเรื่องของพื้นที่สำหรับการติดตั้งก่อนว่ามีขนาดกว้างมากน้อยเท่าใด แล้วจึงพินิจพิจารณาเลือกใช้งานตามความเหมาะสม และนอกจากนี้ก็คือควรเลือกยี่ห้อที่ไว้ใจได้ตัวอย่างเช่น อ่างล้างหน้า cotto, American Standard, MOYA, KARAT เป็นต้น ก็เพราะว่านอกจากจะเชื่อมั่นได้ถึงคุณภาพแล้วก็ยังสามารถหาซื้อได้ง่าย และอะไหล่หรือชิ้นส่วนต่าง ๆ ก็หาได้ง่ายอีกด้วย 
    
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/BAT01

78


ไอเทมที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับระบบประปาภายในบ้านก็คือก๊อกน้ำ ด้วยเหตุว่าบริเวณต่าง ๆ ภายในบ้านและนอกบ้านก็ต้องมีจุดที่ติดตั้งก๊อกเอาไว้สำหรับจ่ายน้ำได้อย่างทั่วถึง ไม่ว่าจะเป็นในห้องน้ำ ห้องครัว รวมไปถึงห้องซักล้าง เพราะฉะนั้นการเลือกใช้ก๊อกน้ำ ให้เหมาะกับความต้องการใช้งานในแต่ละจุดจึงเป็นเรื่องที่ควรเลือกให้ถูกต้องเพื่อความสะดวกในการใช้งาน 

การเลือกก๊อกน้ำให้เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละจุด
พื้นที่นอกบ้าน
 
นิยมใช้เป็นแบบก๊อกเดี่ยว ซึ่งเป็นรูปแบบที่เรานั้นมักพบเห็นกันได้เสมอ มีราคาไม่แพงมากนัก สามารถสวมใส่สายยางเพื่อใช้งานในระยะไกลได้ นิยมใช้เป็นก๊อกภายนอก ใช้สำหรับการซักผ้า ล้างรถ รดน้ำต้นไม้ หรือต่อเข้ากับเครื่องซักผ้า เป็นต้น      

ห้องน้ำ 
เป็นห้องที่จำเป็นต้องมีการใช้น้ำมากที่สุดในบ้านเลยก็ว่าได้ สำหรับจุดติดตั้งภายในห้องน้ำก็จะประกอบไปด้วย ก๊อกน้ำอ่างล้างหน้า ซึ่งจะเป็นก๊อกที่มีความยาวไม่มากนัก คล้ายกับก๊อกแบบเดี่ยวแต่จะมีรูปแบบที่สวยงามมากกว่าสำหรับติดตั้งตรงบริเวณเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า ซึ่งก็มีฟังก์ชันให้เลือกทั้งแบบเดี่ยว แบบผสมที่สามารถใช้ได้ทั้งน้ำร้อนและน้ำเย็น และแบบมีเซ็นเซอร์เพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน นอกจากนี้ก็ยังสามารถใช้ก๊อกแบบเดี่ยวติดตั้งตรงใต้ฝักบัวเพื่อเปิดใช้น้ำสำหรับการซักล้าง นอกจากนี้ก็ยังต้องมีการติดตั้งฝักบัวรวม สายฉีดชำระ ฟลัชวาล์ว ไปถึงวาล์วสำหรับปิดเปิดน้ำด้วย

ห้องครัว 
เป็นอีกจุดหนึ่งที่มีความจำเป็นต้องใช้น้ำด้วยเช่นกัน โดยรวมแล้วก็จะใช้เป็นก๊อกน้ำอ่างล้างจาน ติดตั้งสำหรับใช้งานร่วมกับอ่างล้างจาน หรือตามเคาน์เตอร์บาร์ ซึ่งก็จะมีรูปแบบที่เป็นจุดเด่นก็คือจะมีลักษณะของตัวก๊อกที่ค่อนข้างยาวและมีก้านสำหรับเปิดปิดน้ำ สามารถปรับเปลี่ยนทิศทางของหัวก๊อกได้ทั้งซ้ายและขวาเพื่อความสะดวกในการใช้งาน โดยในบางครั้งก็จะถูกออกแบบเพื่อเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานที่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นเช่น มีทั้งระบบน้ำร้อนและน้ำเย็นภายในตัว มีระบบกรองน้ำติดตั้งมาให้ มาพร้อมกับเครื่องปั๊มสบู่ หรือติดตั้งเซ็นเซอร์มาให้เพื่อความสะดวกในการใช้งาน
    
สำหรับการเลือกก๊อกน้ำ นอกจากจะดูที่ความเหมาะสมสำหรับการใช้งานในแต่ละตำแหน่งแล้ว ก็ควรพินิจพิจารณาในเรื่องของวัสดุที่ใช้ว่ามีความแข็งแรงทนทานมากน้อยเพียงใด ซึ่งโดยปกติแล้วก็มักจะใช้วัสดุเป็นทองเหลืองก็เพราะว่าสามารถทนทานต่อการกัดกร่อนได้เป็นอย่างดี ไม่เป็นสนิม และใช้การเคลือบผิวด้วยโครเมียมให้มีลักษณะมันวาวสามารถทนต่อสารเคมีรวมไปถึงรอยขีดข่วนได้ดี และก็ควรที่จะดูในเรื่องของความสะดวกและความยากง่ายในการติดตั้ง เนื่องมาจากในกรณีที่ต้องการเปลี่ยนก๊อกใหม่ก็จะได้สามารถทำการเปลี่ยนด้วยตนเองได้ ไม่ต้องตามช่างประปามาทุกครั้ง 

เข้าชมเว็บไซต์ได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/BAT06

79


ถึงแม้ว่าในช่วงนี้หลาย ๆ ท่านจะ work from home อยู่กับบ้าน จึงอาจจะทำให้ไม่มีความจำเป็นต้องรีดผ้ามากนัก แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่จะต้องรีดเสื้อผ้าก่อนที่จะเก็บเข้าตู้หรือสวมใส่ทุกครั้ง ซึ่งในปัจจุบันนี้ตัวช่วยสำหรับการรีดผ้านั้นก็มีให้เลือกกันหลายแบบเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น เตารีดแบบธรรมดา เตารีดไอน้ำ รวมไปถึงเตารีดที่สามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้ ซึ่งในวันนี้เราก็จะมาทำความรู้จักกับเตารีดแต่ละชนิดว่าแบบไหนถึงจะตอบโจทย์การรีดผ้าของคุณ ๆได้มากที่สุด

รีดผ้าเรียบได้ดั่งใจเลือกใช้เตารีดแบบไหนดี
เตารีดธรรมดา เป็นเตารีดไฟฟ้าแบบดั้งเดิมที่มีราคาถูก มีขนาดเล็กกะทัดรัดและมีน้ำหนักเบา มีการใช้งานไม่ยุ่งยากเพียงแค่เสียบปลั๊กแล้วปรับระดับความร้อน แต่เวลาที่จะรีดผ้าก็จะต้องฉีดพรมน้ำก่อนทุกครั้งเพื่อให้เส้นใยของผ้าเรียงตัว 
เตารีดไอน้ำแบบเติมน้ำ พัฒนามาจากเตารีดไฟฟ้าธรรมดาแต่จะมีช่องสำหรับเติมน้ำที่ตัวเตารีด ซึ่งเมื่อเวลารีดผ้าก็จะมีปุ่มสำหรับกดให้ไอน้ำออกมาในระหว่างที่รีดผ้า จึงทำให้ไม่ต้องฉีดพรมน้ำที่ผ้าก่อน เหมาะกับการรีดผ้าที่ไม่มากนักเพราะช่องสำหรับเก็บน้ำมีค่อนข้างน้อยและแรงดันไม่สูง 
เตารีดไอน้ำแบบหม้อต้มแยก เป็นการแยกหม้อต้มไอน้ำกับตัวเตารีดออกจากกันจึงสามารถเติมน้ำได้มากขึ้นตามขนาดของหม้อต้มที่แยกออกมาให้ ให้ไอน้ำที่มีแรงดันสูงทำให้รีดผ้าได้เรียบลื่นยิ่งขึ้นรวมไปถึงใช้พ่นรีดไอน้ำได้ในแนวตั้ง สามารถใช้รีดผ้าได้ทุกชนิด นอกจากนี้ก็ยังสามารถฆ่าเชื้อโรคและลดกลิ่นอับได้อีกด้วย
เตารีดไอน้ำแบบยืน เป็นรูปแบบของเตารีดที่ค่อนข้างได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน ด้วยเหตุว่าสามารถใช้งานได้สะดวกสบายไม่ต้องใช้ที่รองรีดผ้า ถูกออกแบบมาให้ใช้ยืนพ่นรีดผ้าในแนวตั้งโดยมีไอน้ำออกมาจากหัวพ่น เหมาะสำหรับการรีดผ้าทั่วไป ผ้าใยสังเคราะห์ เสื้อผ้าที่แขวนเอาไว้และยับเล็กน้อย รวมไปถึงเสื้อผ้าที่ทำการรีดในแนวราบได้ยาก 
เตารีดผ้าแบบกดทับ ส่วนมากมักพบเห็นกันตามร้านซักรีดเพราะว่ามีขนาดใหญ่และมีระบบแรงกดทับอัตโนมัติ สามารถรีดผ้าในปริมาณมากได้อย่างรวดเร็วแต่เวลารีดก็จะต้องทำการฉีดพรมน้ำที่เสื้อผ้าก่อนเหมือนกับเตารีดแบบธรรมดา 
เตารีดไอน้ำพกพา มีคุณสมบัติการใช้งานเหมือนกับ เตารีดไอน้ำ ตามปกติ แต่เตารีดไอน้ำพกพาจะถูกออกแบบมาให้มีขนาดเล็ก มีน้ำหนักเบา สามารถพกพาใส่กระเป๋าไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก ซึ่งก็จะมีทั้งแบบเป็นแผ่นความร้อนเหมือนเตารีดปกติแต่จะมีขนาดเล็ก และเป็นแบบยืนพ่นไอน้ำที่สามารถรีดผ้าแนวตั้งได้อย่างสะดวก

แต่อย่าลืมว่า เตารีดไอน้ำ ก็คืออุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดหนึ่ง ดังนั้นจึงควรเลือกยี่ห้อที่ไว้ใจได้เพื่อให้มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยในการใช้งาน เช่นว่า เตารีดไอน้ํา philips, Electrolux, Tefal เป็นต้น  

ติดต่อสอบถามได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/APP0703
 

80


ในสถานการณ์ที่หลายคนต้อง work from home ทำงานอยู่กับบ้าน บางครั้งเก้าอี้ทำงานที่บ้านก็รู้สึกนั่งทำงานไม่สุขสบายเหมือนกับเก้าอี้สำนักงานที่ออฟฟิศเท่าไหร่นัก หากใครกำลังอยากได้เก้าอี้เอาไว้นั่งทำงานที่บ้าน เราก็มีข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับการเลือกเก้าอี้ทำงานมาฝากกัน


การเลือกเก้าอี้ทำงานให้นั่งสบายเหมือนกับอยู่ในออฟฟิศ
มีความยืดหยุ่นสามารถปรับเปลี่ยนอิริยาบถได้
การนั่งทำงานนาน ๆ แน่นอนว่าต้องมีอาการเมื่อยล้า ปวดหลัง ปวดไหล่กันบ้าง อย่างนั้นจึงควรเลือกเก้าอี้ทำงานที่มีความยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนอิริยาบถได้ ไม่แข็งทื่อเมื่อต้องการเปลี่ยนอิริยาบถ ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ก็ต้องดูว่าพนักพิงด้านหลังมีความลาดเอียงที่พอเหมาะ สามารถโยกหรือเอียงตามเมื่อมีการพิงมาด้านหลังหรือไม่  โดยอาจจะเลือกชนิดที่สามารถหมุนเก้าอี้ได้รอบ หรือมีล้อเลื่อนแบบเก้าอี้สำนักงานด้วยก็ได้ 

วัสดุที่ใช้
เก้าอี้สำนักงานโดยรวมก็มักจะใช้วัสดุเป็นหนังหรือผ้าหุ้มภายนอก โดยที่เบาะด้านในก็จะใช้ฟองน้ำหรือโฟม รวมไปถึงฟองน้ำ Memory Foam ซึ่งหากอยากนั่งสบายเหมือนกับเก้าอี้ที่ออฟฟิศ ไม่รู้สึกปวดเมื่อยและช่วยป้องกันการกดทับของเส้นเลือดที่ขาจากการนั่งทำงานเป็นระยะเวลานานก็ควรเลือกใช้วัสดุภายในที่เป็นเบาะแบบ Memory Foam ซึ่งอาจจะมีราคาแพงกว่าเก้าอี้ทำงานชนิดอื่นอยู่พอสมควร แต่ก็เพื่อสุขภาพในการนั่งทำงานที่ดีกว่าในระยะยาวนั่นเอง  

ควรมีที่วางแขน
การนั่งทำงานที่โต๊ะทำงานซึ่งเป็นส่วนใหญ่ก็มักจะมีคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ หรือโน้ตบุ๊คสำหรับทำงาน ซึ่งแน่นอนว่าก็จะต้องมีการพิมพ์ การใช้เมาส์ ซึ่งถ้าหากเก้าอี้ที่ใช้นั่งทำงานไม่มีในส่วนของที่วางแขนก็จะทำให้เราต้องยกแขนโดยไม่มีอะไรรองรับอยู่บ่อย ๆ จนส่งผลให้รู้สึกปวดเมื่อยได้ ดังนั้นจึงควรเลือกเก้าอี้ทำงานแบบมีที่วางแขน ก็จะช่วยให้สามารถนั่งทำงานได้อย่างสบายมากยิ่งขึ้น

สามารถรองรับน้ำหนักได้ดี
ควรดูด้วยว่าเก้าอี้สามารถรองรับน้ำหนักได้มากน้อยเท่าใด สามารถรองรับน้ำหนักตัวของคุณได้หรือไม่ ยิ่งไปกว่านี้ก็ต้องดูในเรื่องของความสมดุลในการถ่ายเทน้ำหนักโดยตรวจสอบดูว่าเมื่อนั่งลงไปแล้วพิงเอนไปด้านหลังเก้าอี้ก็สามารถเอียงตามได้โดยที่ไม่เสียสมดุลไม่หงายหลัง รวมถึงมีระยะฐานล้อที่ค่อนข้างกว้าง
แต่ถ้าใครต้องการเก้าอี้ทำงานที่นั่งสบายสามารถรองรับการใช้งานได้ทุกแบบ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเล่นเกม การนั่งดูซีรีส์หรือดูหนัง ไม่ใช่เพียงแค่นั่งทำงานเพียงอย่างเดียว ก็อาจจะเลือกเก้าอี้คอมพิวเตอร์ หรือเก้าอี้เกมมิ่ง ที่ถูกออกแบบมาให้รองรับกับสรีระช่วยให้สามารถนั่งได้อย่างสบายไม่รู้สึกปวดเมื่อยเมื่อต้องใช้เวลาอยู่บนเก้าอี้เป็นเวลานาน ซึ่งโดยทั่วไปก็มักจะมีดีไซน์ที่คล้ายกับเก้าอี้รถแข่ง แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะมีราคาแพงกว่าเก้าอี้สำนักงานตามปกติ

เข้าชมเว็บไซต์ได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/FUR1004

81



ในปัจจุบันการเลือกใช้หลอดไฟสำหรับให้แสงสว่างภายในบ้านก็มักจะนิยมเลือกเป็นหลอดไฟ led กันเป็นส่วนมาก ก็เพราะว่าหลอด led นั้นสามารถให้ทั้งความสว่างและการประหยัดไฟรวมถึงมีแบบที่มีความสวยงาม ซึ่งเราก็มีคำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกใช้หลอดไฟ led สำหรับบ้านของคุณมาฝากกัน 

เลือกหลอดไฟ led เช่นไรให้เหมาะกับการใช้งานในบ้านคุณ 

ดูที่ระดับความสว่าง
ต้องดูด้วยว่าห้องนั้น ๆ ต้องการแสงสว่างมากน้อยแค่ไหน โดยปกติความสว่างก็จะใช้หน่วยเป็น ลักซ์ (Lux) ซึ่งก็หมายถึงปริมาณของแสงที่ตกกระทบลงบนวัตถุต่อพื้นที่ ในขณะที่ปริมาณของแสงก็จะมีหน่วยเป็น ลูเมน (Lumen) ซึ่งจะบอกค่าปริมาณแสงที่ออกมาจากหลอดไฟ รวมถึงการดูที่กำลังไฟฟ้าซึ่งจะมีหน่วยเป็น วัตต์ (Watt) ซึ่งถ้ามีค่ามากก็แสดงว่ามีความสว่างมากนั่นเอง แต่ก็จะกินไฟมากขึ้นด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุนั้นจึงควรเลือกใช้หลอดไฟ led ที่มีความสว่างเหมาะสมและเพียงพอสำหรับการใช้งานในแต่ละห้อง 

ดูที่อุณหภูมิสีของแสง 
นอกจากดูที่ความสว่างแล้ว การเลือกสีของแสงไฟก็เป็นตัวช่วยในการสร้างบรรยากาศภายในห้องได้เป็นอย่างดี ซึ่งอุณหภูมิสีของแสงก็จะมีหน่วยเป็น เคลวิน (K) ซึ่งถ้าหากเป็นแสงแบบ  Warm White  ก็จะมีค่าอุณหภูมิสีของแสงอยู่ที่ 2700K - 3000K ซึ่งจะเป็นสีที่ออกไปในโทนส้มหรือสีเหลือง เหมาะกับใช้งานในห้องที่ต้องการความอบอุ่นสบายตา หรือประดับตกแต่งเพื่อสร้างบรรยากาศ ในขณะที่อุณหภูมิสีของแสง 4000K ก็จะเรียกว่า Cool White จะมีลักษณะของแสงเป็นสีขาวนวลตา มีความเป็นธรรมชาติสามารถใช้งานได้ในทุกห้อง และอุณหภูมิสีของแสงอยู่ในช่วง 6500K ก็จะเป็นแสงแบบ Day Light ซึ่งเป็นสีที่ได้รับความนิยมมาก โดยจะมีความสว่างสูงและออกไปทางโทนสีฟ้า สามารถใช้งานได้ทุกห้อง มักนิยมนำไปใช้ในห้องที่ต้องการแสงสว่างมากและกระตุ้นให้รู้สึกกระฉับกระเฉงตัวอย่างเช่น ห้องทำงาน รวมไปถึงใช้ในออฟฟิศ 

ดูที่ขั้วหลอดและรูปทรง
ในเวลานี้หลอด led ที่วางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบันก็มีให้เลือกมากมายหลายแบบ ซึ่งก็จะต้องเลือกขั้วหลอดให้ตรงกับโคมไฟหรือจุดที่ต้องการติดตั้ง โดยมากแล้วก็มักจะเป็นขั้วแบบ E27 ที่เป็นลักษณะเกลียวหมุน สามารถติดตั้งด้วยตนเองได้ง่าย ในขณะที่รูปทรงก็มีให้เลือกหลายรูปแบบตามความต้องการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นแบบหลอดตะเกียบ หลอดทรงกลม หลอดจำปา หลอดทรงยาว เป็นต้น 
    
ด้วยเหตุนั้นจึงควรพิจารณาว่าห้องต่าง ๆ ภายในบ้านของเราต้องการความสว่างมากน้อยเพียงใด ต้องให้บรรยากาศภายในห้องเป็นเช่นไร รวมไปถึงพิจารณาในเรื่องของการประหยัดไฟ เพื่อที่จะได้แสงสว่างภายในบ้านที่เพียงพอและช่วยสร้างบรรยากาศให้น่าอยู่ในทุกมุมของบ้านนั่นเอง 
    
ติดต่อสอบถามได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/LIG0406
 

82


การนอนหลับที่ดีก็ขึ้นอยู่กับการเลือกที่ที่นอนให้เหมาะสมด้วยเช่นกัน การที่เราสามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ก็จะทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นและมีพลังสำหรับการทำสิ่งต่าง ๆ ในแต่ละวันได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้นในคราวนี้เราก็มีข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับการเลือกซื้อที่นอนมาฝากกัน

เลือกจากวัสดุ
สำหรับที่นอนที่วางจำหน่ายกันอยู่ในปัจจุบันก็มีให้เลือกมากมายหลากหลายแบบ ซึ่งก็สามารถแบ่งออกได้ตามวัสดุที่ใช้ ดังนี้
· ยางพารา หรือที่เรียกกันว่าที่นอน ยางพารา นั่นเอง โดยเป็นการใช้วัสดุจากยางพาราที่มีความยืดหยุ่น มีแรงต้านสูง ไม่ยุบตัว สามารถปรับตามสรีระได้ดี จึงขึ้นชื่อในเรื่องของการนอนหลับสบายไม่ทำให้ปวดหลัง แต่มีน้ำหนักค่อนข้างมากและมีราคาแพงกว่าที่นอนแบบอื่น ๆ
· นุ่น  มีน้ำหนักค่อนข้างเบา ระบายอากาศได้ดีและทำให้รู้สึกเย็น มีราคาไม่แพง แต่สามารถเสียรูปทรงได้ง่ายและมีอายุการใช้งานที่ไม่ยาวนานนัก และเมื่อเกิดการยุบตัวก็จะทำให้นอนปวดหลังได้
· ใยมะพร้าว จุดเด่นก็คือสามารถระบายอากาศได้ดี มีราคาไม่แพง สามารถคงสภาพได้ดีพอสมควร แต่ก็ค่อนข้างจะแข็ง มีน้ำหนักมาก และมีความยืดหยุ่นน้อย เมื่อใช้ไปนาน ๆ ใยมะพร้าวก็อาจเกิดการเสื่อมสภาพและเกิดเป็นขุยหรือฝุ่นที่อาจส่งผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจได้
· ฟองน้ำ เป็นการนำเอาฟองน้ำมาบีบอัดแล้วขึ้นรูปซึ่งส่วนมากก็มักจะนำไปผสมกับวัสดุประเภทอื่นเพื่อเพิ่มความแข็งแรงทนทานให้สามารถรองรับน้ำหนักในการนอนได้ดียิ่งขึ้น มีความนุ่มและมีน้ำหนักเบาแต่มีอายุการใช้งานที่สั้น ระบายอากาศไม่ดี เกิดการยุบตัวได้ง่าย
· สปริง เป็นการนำเอาสปริงมาใช้เพื่อช่วยรองรับและกระจายน้ำหนักให้ดียิ่งขึ้น ทำให้มีคุณสมบัติที่มีความยืดหยุ่นและสามารถคืนตัวได้ดี โดยจะมีความหนามากกว่าปกติเนื่องมาจากต้องมีการใส่สปริงเอาไว้ด้านใน นิยมนำมาใช้ร่วมกับที่นอนจากวัสดุต่าง ๆ

เลือกจากขนาด
· ขนาด 3 ฟุต (Single Size) มีขนาดกว้าง 3 ฟุต ยาว 6.5 ฟุต หรือกว้าง 91 เซ็นติเมตร ยาว 192 เซ็นติเมตร เหมาะกับห้องที่มีขนาดพื้นที่จำกัดและใช้นอนคนเดียว
· ขนาด 3.5 ฟุต (Twin Size) มีขนาดกว้างขึ้นมาเป็น 3.5 ฟุต หรือ 106 ซม. ยาว 6.5 ฟุต เหมาะกับการนอนคนเดียวหรือใช้ในห้องนอนเด็ก รวมไปถึงห้องที่มีพื้นที่ไม่ใหญ่มากนัก และยังนิยมนำไปใช้ในโรงแรมที่เป็นเตียงแบบ Twin bed อีกด้วย
· ขนาด 5 ฟุต  (Queen Size) มีขนาดกว้างขึ้นมาเป็น 5 ฟุต ยาว 6.5 ฟุต สามารถใช้นอนได้ 2 คน หรือนอนคนเดียวแต่ต้องการพื้นที่ในการนอนมากขึ้น หรือเป็นห้องที่ต้องนอนด้วยกันสองคนแต่มีพื้นที่จำกัด ก็สามารถช่วยประหยัดพื้นที่ในการวางเตียงได้
· ขนาด 6 ฟุต ( King Size) ที่นอน 6 ฟุตถือได้ว่าเป็นขนาดที่ใหญ่ที่สุด โดยมีขนาดกว้าง 6 ฟุต ยาว 6.5 ฟุต สามารถนอนได้ 2 คน เหมาะกับห้องนอนที่มีขนาดใหญ่

การเลือกที่นอนจึงควรพิจารณาในเรื่องของพื้นที่ของห้องนอนว่าสมควรจะใช้เตียงขนาดไหน ที่สำคัญก็คือควรเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ เพื่อการนอนหลับอย่างสบายตลอดทั้งคืน และตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่นผ่อนคลาย ไม่รู้สึกปวดหลัง

เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/BED03
 
 

83


ในยุคที่หลาย ๆ ท่านต้องอยู่กับบ้านกันมากขึ้น แน่นอนว่าการทานข้าวที่บ้านก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ขาดไปไม่ได้สำหรับทุกคนในครอบครัว ซึ่งนอกจากจะต้องมีอุปกรณ์สำหรับทำครัวอย่างครบครันแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือหม้อหุงข้าว ยิ่งถ้าหากได้ข้าวสารคุณภาพดีก็จะยิ่งทำให้ข้าวที่หุงออกมานั้นหอมอร่อยมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ดังนั้นในคราวนี้เราก็จะมาเลือกหม้อหุงข้าวให้กับห้องครัวของคุณ 

ประเภทของหม้อหุงข้าว ของคู่ครัวที่ขาดไม่ได้
หม้อหุงข้าวไฟฟ้า
หม้อหุงข้าวไฟฟ้าแบ่งออกเป็นแบบฝาปิดธรรมดาซึ่งมีราคาถูกและมีขนาดให้เลือกตั้งแต่ขนาดเล็ก ไปจนถึงขนาดใหญ่ โดยจะประกอบไปด้วยฝาหม้อ หม้อชั้นใน และหม้อชั้นนอก อาจมีหรือไม่มีระบบอุ่นอัตโนมัติก็ได้ ส่วนหม้อหุงข้าวไฟฟ้าอีกแบบก็คือแบบฝาล็อค ซึ่งจะมีราคาสูงขึ้นมาจากแบบธรรมดา โดยจะมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก โดยฝาหม้อก็จะถูกออกแบบให้อยู่ติดกับตัวมอบชั้นนอกโดยใช้บานพับ มีฉนวนกันความร้อนและฝาที่ปิดสนิทจึงสามารถเก็บความร้อนได้นานยิ่งขึ้น  

หม้อหุงข้าวดิจิตอล 
เป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมกันมากในปัจจุบันเนื่องด้วยนอกจากจะใช้หุงข้าวแล้วก็ยังสามารถประกอบอาหารได้หลากหลายมากกว่า เพราะว่ามีระบบควบคุมอุณหภูมิและการทำงานต่าง ๆ ด้วยคอมพิวเตอร์ จึงสามารถประกอบอาหารอื่น ๆ ได้ไม่ว่าจะเป็นการนึ่ง การทำข้าวต้ม การทำเค้ก โดยมีโปรแกรมในการเลือกเมนูต่าง ๆ และตั้งค่าสำหรับการใช้งาน สามารถควบคุมเวลาและอุณหภูมิได้ นอกจากนี้ก็ยังสามารถหุงข้าวออกมาได้สวยและรวดเร็ว มีการติดตั้งสัญญาณแจ้งเตือนเมื่อหุงข้าวหรือโรงอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ก็ยังมีดีไซน์สวยงามล้ำสมัยเหมาะกับครัวยุคใหม่อีกด้วย 

ในการเลือกซื้อหม้อหุงข้าวนอกจากจะดูที่รูปแบบการทำงานแล้ว สิ่งที่จะต้องพิจารณาถึงด้วยก็คือจำนวนสมาชิกในบ้านว่ามีจำนวนมากน้อยแค่ไหน จะได้เลือกขนาดได้อย่างเหมาะสมเพียงพอสำหรับความต้องการของสมาชิกทุกคนในครอบครัว นอกจากนี้ก็ควรจะดูไปถึงกำลังไฟฟ้าที่ใช้เพราะเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ต้องมีการใช้งานอยู่ทุกวันและอาจจะต้องเสียบปลั๊กค้างเอาไว้เพื่อทำการอุ่นอยู่ตลอดเวลา และถ้าหากเลือกเป็นหม้อหุงข้าวดิจิตอลก็ควรที่จะดูในเรื่องของฟังก์ชันหรือเมนูต่าง ๆ ที่ให้มาว่าตอบสนองความต้องการในการประกอบอาหารของเรานั้นหรือไม่ เช่น สามารถหุงโจ๊กหรือข้าวต้มได้ สามารถทำขนมเค้กได้ ใช้นึ่งข้าวเหนียวได้ หรือมีเมนูหุงข้าวด่วน เป็นต้น

ติดต่อสอบถามได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP0810

84


สำหรับระบบประปาภายในบ้าน นอกจากจะต้องมีการติดตั้งปั๊มน้ำเพื่อให้แรงดันของน้ำมีความสม่ำเสมอทำให้น้ำไหลแรงได้ในทุกจุดทั่วบ้านแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่จำเป็นจะต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กันก็คือระบบกรองน้ำ ไม่ว่าทางน้ำที่ใช้อุปโภคและบริโภค หากท่านไหนกำลังมองหาเครื่องกรองน้ำเอามาไว้ใช้งานกัน วันนี้ก็มีข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องกรองน้ำใช้ และเครื่องกรองน้ำดื่ม มาฝากกัน

เครื่องกรองน้ำใช้
ใช้สำหรับปรับปรุงคุณภาพน้ำใช้ให้ดีขึ้นสำหรับการอุปโภคโดยทั่วไป หรืออาจจะใช้กรองน้ำก่อนในเบื้องต้นเพื่อผ่านไปยังเครื่องกรองที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า โดยส่วนใหญ่แล้วก็มักจะใช้ในกรณีที่แหล่งน้ำมาจากธรรมชาติหรือเป็นน้ำบาดาล น้ำกร่อย น้ำเค็ม ซึ่งที่ได้รับความนิยมก็จะใช้วัสดุเป็นถังกรองน้ำไฟเบอร์ เหตุเพราะมีราคาถูกและมีน้ำหนักเบา อายุการใช้งานยาวนาน ราว 10-15 ปี ส่วนอีกแบบหนึ่งก็จะเป็นถังสแตนเลสที่มีอายุการใช้งานนานกว่าแต่ค่อนข้างมีน้ำหนักมากและดูแลรักษาได้ลำบาก ฉะนั้นตามบ้านเรือนโดยทั่วไปก็มักจะเลือกใช้เป็นถังไฟเบอร์มากกว่าถังสแตนเลส 

เครื่องกรองน้ำดื่ม
มีหลักการทำงานคล้ายกับเครื่องกรองน้ำใช้แต่จะมีประสิทธิภาพในการกรองที่สูงกว่า เพราะเป็นน้ำที่จะต้องนำไปทานจึงต้องมีการกำจัดสิ่งปนเปื้อนรวมไปถึงเชื้อโรคต่าง ๆ ในระบบกรองน้ำด้วย โดยสามารถติดตั้งเอาไว้ได้หลายจุดในบริเวณบ้านที่ต้องการใช้น้ำสำหรับบริโภค โดยทั่วไปแล้วก็จะมีอยู่ด้วยกัน 3 ชนิดคือ 
· แบบ UF (Ultra Filtration System) เป็นเครื่องกรองชนิด 3 ขั้นตอน โดยเป็นการใช้ไส้กรองที่มีการกรองละเอียดมากสามารถกรองเชื้อจุลินทรีย์ไวรัสและแบคทีเรียได้ทุกชนิด รวมไปถึงโลหะหนักและคลอรีน สามารถทำงานโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า  
· แบบ UV (Ultra Violet Filtration System) เป็นระบบการฆ่าเชื้อด้วยหลอด UV ดังนั้นจึงต้องมีการติดตั้งมาพร้อมกับระบบกรองน้ำเพราะแสง UV ทำได้เพียงแค่ฆ่าเชื้อไม่สามารถกรองสิ่งสกปรกที่มีอยู่ในน้ำได้ 
· แบบ RO (Reverse Osmosis System) เป็นการกรองโดยใช้แรงดันน้ำผ่านไส้กรองเมมเบรนที่มีความละเอียดสูง ส่วนมากก็จะเป็นเครื่องกรองแบบ 5 ขั้นตอน จึงสามารถกำจัดสิ่งสกปรก เชื้อโรค และโลหะหนักได้อย่างสะอาดหมดจด ทำให้ได้น้ำที่มีความสะอาดมากกว่าการกรองแบบอื่น เรียกได้ว่าเป็นระบบกรองน้ำที่มีประสิทธิภาพสูงมากที่สุด แต่เนื่องจากต้องอาศัยแรงดันจึงต้องมีการทำงานร่วมกับระบบไฟฟ้าซึ่งจะทำให้ค่อนข้างมีราคาแพงมากกว่าเครื่องกรองน้ำระบบอื่นนั่นเอง 
    
ในการติดตั้งเครื่องกรองน้ำก็ควรที่จะพิจารณาดูก่อนว่าแหล่งน้ำที่มายังระบบประปาของบ้านนั้นเป็นแบบไหน เพราะถ้าเป็นแหล่งน้ำที่จำเป็นต้องมีการกรอง ก็ควรที่จะติดตั้งเครื่องกรองน้ำใช้เสียก่อน ส่วนในบ้านก็ลองพิจารณาดูว่าจำเป็นที่จะต้องติดตั้งเครื่องกรองน้ำดื่มหรือเปล่า และควรติดตั้งทั้งหมดกี่จุด จะได้วางแผนในการติดตั้งได้อย่างเหมาะสมและเพียงพอสำหรับความต้องการใช้งาน 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/KIT09
 

85


ในการสร้างบ้านรวมถึงการรีโนเวทบ้าน สิ่งหนึ่งที่เราจำเป็นจะต้องให้ความสำคัญก็คือการเลือกกระเบื้อง ให้เหมาะสมสำหรับการใช้งานในบริเวณต่าง ๆ ของบ้าน วันนี้เราจึงมีวิธีการเลือกกระเบื้องปูพื้นสำหรับประกอบการตัดสินใจเพื่อทำให้บ้านของคุณ ๆดูสวยงามด้วยการเลือกใช้กระเบื้องให้เหมาะสมมาฝากกัน
    
วิธีการเลือกกระเบื้องปูพื้นควรพิจารณาจากอะไรบ้าง 

ขนาดของพื้นที่
อันดับแรกก็ลองคำนวณพื้นที่ของห้องหรือบริเวณนั้น ๆ ดูก่อน ว่ามีขนาดกว้างมากน้อยเท่าใด จะได้เลือกขนาดกระเบื้อง ให้พอเหมาะกับพื้นที่ให้ได้มากที่สุด เช่นในบริเวณห้องรับแขกก็อาจจะเลือกเป็นขนาด 12 x 12 นิ้ว ขนาด 40 x 40 ซม. หรือในห้องโถงที่มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างก็อาจจะเลือกใช้เป็นขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ในห้องน้ำที่มีพื้นที่ไม่กว้างมากนักก็แนะนำให้ใช้ขนาดที่เล็กลงมาอยู่ที่ 8 x 8 นิ้ว เป็นต้น 

พื้นที่การใช้งาน 
กระเบื้องปูพื้นก็มีอยู่หลายประเภทด้วยกันซึ่งก็เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ต่าง ๆ ที่แตกต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่น ในห้องน้ำก็ควรที่จะใช้แผ่นขนาดเล็กและมีพื้นผิวด้านหน้าที่ค่อนข้างหยาบเพื่อช่วยเพิ่มพื้นที่ของผิวสัมผัสในการระบายน้ำและช่วยลดอุบัติเหตุจากการลื่นล้ม ตัวอย่างเช่น เซรามิค แกรนิตโต้ หรือโมเสค ในห้องครัวซึ่งมักจะเลอะคราบอาหารและคราบไขมันก็อาจจะเลือกเป็นหินอ่อนที่มีความทนทานและมีคุณสมบัติในการทำความสะอาดได้ง่ายและไม่สะสมคราบสกปรก ส่วนในห้องทำงานที่มีอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ก็อาจใช้เป็นแบบยางที่มีคุณสมบัติเป็นฉนวนกันไฟฟ้าได้ 

สีสันและลวดลาย
การเลือกสีสันและลวดลายของกระเบื้องก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ส่งเสริมความสวยงามให้กับบ้านของท่าน เช่นเลือกใช้โทนสีอ่อนสบายตาหรือลายไม้ภายในห้องนอนเพื่อช่วยเพิ่มบรรยากาศที่ดูผ่อนคลายเหมาะสำหรับการพักผ่อน รวมไปถึงช่วยทำให้พื้นที่บริเวณนั้นดูกว้างขวางมากขึ้น ใช้โทนสีเข้มหรือมีลวดลายกราฟฟิกในบริเวณที่สามารถเกิดคราบสกปรกได้ง่ายเพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด เช่นในห้องครัว ห้องซักล้าง หรือห้องน้ำ รวมถึงการเลือกแบบที่มีลวดลายแบบสวยงามเพื่อเพิ่มจุดเด่นให้กับพื้นที่บริเวณนั้น ๆ เป็นพิเศษ ตัวอย่างเช่นในห้องโถงรับแขก เป็นต้น 

ราคา
ราคา กระเบื้องปูพื้น ก็มีอยู่ด้วยกันหลากหลายราคา ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะคิดเป็นราคาต่อตารางเมตร ฉะนั้นก็ต้องดูงบประมาณที่มีว่าในแต่ละห้องจะใช้อย่างใด ซึ่งถ้าหากมีงบไม่มากก็อาจเลือกเป็นแบบเซรามิคที่มีราคาไม่แพงและมีความสวยงามรวมไปถึงมีรูปแบบให้เลือกหลากหลาย หรือถ้าอยากให้บ้านดูภูมิฐานมากขึ้นก็อาจจะเลือกเป็นหินอ่อนหรือแกรนิตโต้ที่มีราคาแพงขึ้นมาก็ได้   

โดยรวมแล้วการเลือกกระเบื้องปูพื้นก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของเราเป็นหลักว่าต้องการเป็นอย่างไหน แต่ก็ควรที่จะพิจารณาดูด้วยว่าได้เลือกใช้อย่างเหมาะสมแล้วหรือยัง จะได้ไม่ต้องเสียทั้งเงินและเวลาเพื่อรื้อเปลี่ยนใหม่กันอีกรอบ
แวะชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/FLO0203

86
Biohyalux ไฮยาเซรั่มนวัตกรรม HHAF ในรูปแบบซอฟต์ แอมพูล ที่สุดของการดูแลผิวจากศูนย์ Biotech ระดับโลก ช่วยฟื้นบำรุงยิ่งกว่าด้วยไฮยา 4 โมเลกุล มอบผิวอิ่มน้ำ สุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก

Biohyalux (ไบโอยาลักซ์) สกินแคร์เพื่อการดูแลอย่างล้ำลึกจากผู้เชี่ยวชาญด้านไฮยารูลอน จุดบรรจบที่สามารถนำสุนทรียะแห่งความงามมาผนวกเข้ากับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้อย่างลงตัว จากจุดเริ่มต้นของศูนย์กลางด้านวิจัยและพัฒนา ตลอดจนผลิต “กรดไฮยารูลอน” ส่วนผสมสำคัญในสกินแคร์ให้กับแบรนด์ชั้นนำทั่วโลก นำมาสู่การพลิกผันบทบาทใหม่ ในฐานะสกินแคร์ผู้เชี่ยวชาญด้านไฮยารูลอนที่มีนวัตกรรมการฟื้นบำรุงที่เหนือกว่า ด้วย Hexagonal Hyaluronic Acid Formulation (HHAF) กรดไฮยารูลอน 4 โมเลกุล เอกสิทธ์เฉพาะของทางแบรนด์ บรรจุลงในซอฟต์แอมพูลหลอดเล็กกระทัดรัด ใช้งานง่าย ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เพียงแค่บิด บีบ และทา! ก็ช่วยบำรุงล้ำลึกถึงเซลล์ผิวชั้นใน ให้ผิวสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก ตอบโจทย์ทุกการดูแลผิวที่แตกต่าง การันตีความปังด้วยยอดขายมากกว่า 200 ล้านแอมพูล และเดินหน้ากวาดรางวัล Beauty Awards ที่สุดของสกินแคร์มาแล้วทั่วโลก

จุดเริ่มต้นจากศูนย์วิจัยระดับเวิล์ดคลาสสู่แบรนด์สกินแคร์จากงานวิจัย
Bloomage Biotech R&D Center ศูนย์วิจัยไบโอเทคระดับเวิล์ดคลาส แหล่งผลิต HA ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และส่งออกให้กับแบรนด์สกินแคร์ชั้นนำทั่วโลก ซึ่งได้รับรางวัลกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อม ISO 14001: 2015 โรงงานมาตรฐานระดับสากล ด้วยประสบการณ์มากกว่า 20 ปี และมีทีมวิจัยและพัฒนากว่า 300 ทีม อัดแน่นไปด้วยข้อมูลและผลการวิจัยที่ทันสมัย ก่อนจะพลิกผันมาสู่การพัฒนาสกินแคร์ยี่ห้อ Biohyalux ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม Hexagonal Hyaluronic Acid Formulation (HHAF) เอกสิทธิ์เฉพาะของทางแบรนด์ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเทคโนโลยีการผลิต และบรรจุซอฟต์ แอมพูลประสิทธิภาพสูงด้วย BFS (Blow-fill-seal) เทคโนโลยีการผลิตแบบปลอดเชื้อขั้นสุด เพื่อคงความสดใหม่ของเนื้อผลิตภัณฑ์ มอบการบำรุงอย่างเต็มประสิทธิภาพ


การค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ จุดหมายใหม่ของการฟื้นบำรุงผิว
คุณสมบัติอันน่าทึ่งของ HA ที่ทำให้หลาย ๆ ท่าน เลือกใช้เพื่อแก้ไขปัญหาผิว ด้วยสรรพคุณที่สามารถอุ้มน้ำได้มากถึง 1,000 เท่าต่อ 1 หน่วยโมเลกุล แต่ Biohyalux ค้นพบที่สุดของนวัตกรรมการดูแลผิวจาก HHAF (Hexagonal Hyaluronic Acid Formulation) ช่วยฟื้นบำรุงยิ่งกว่า HA ทั่วๆ ไป โดยการพัฒนาให้ HA แทรกซึมเข้าสู่ชั้นผิวหนังในระดับที่แตกต่างกัน ยิ่งโมเลกุลใหญ่ยิ่งป้องกันผิวได้ดี ยิ่งโมเลกุลเล็กยิ่งซึมซาบได้อย่างล้ำลึก ซึ่งประกอบด้วย โมเลกุล HA ขนาดใหญ่ - เกราะป้องกันผิวชั้นนอก ป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้น ปกป้องผิวจากมลภาวะ โมเลกุล HA ขนาดกลาง - ให้ความชุ่มชื้นแก่เซลล์ใต้ผิวหนัง เพื่อความยืดหยุ่น ลดเลือนริ้วรอย โมเลกุล HA ขนาดเล็ก - ให้ความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก ประสานชั้นผิวเข้าด้วยกัน ลดเลือนริ้วรอย กระตุ้นการทำงานของเซลล์ โมเลกุล HA ขนาดเล็กพิเศษ - บำรุงอย่างล้ำลึก ป้องกันการอักเสบ เสริมเกราะป้องกันผิว ปรับสมดุลผิว ให้ผิวแข็งแรงสุขภาพดี และป้องการผิวที่เกิดจากผลกระทบจากรังสียูวี

ยิ่งไปกว่านั้นยังอัดแน่นด้วยส่วนผสมที่ช่วยฟื้นบำรุงผิว เพื่อการดูแลผิวที่แตกต่าง และแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด อาทิ “กลาบิดิน” ช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสี ให้ผิวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ “กาบาแคร์” ช่วยลดเลือนริ้วรอย ให้ผิวกระชับเต่งตึง “เอ็กโทอิน” ช่วยปกป้องรังสียูวีเอ ลดการสูญเสียน้ำ ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองแม้ผิวบอบบางแพ้ง่าย และ “ไนอาซินาไมด์” ลดเลือนริ้วรอย รอยแผลเป็นจากสิว ลดอาการแดง/ระคายเคืองบนผิว กระตุ้นการผลิตเซราไมด์ และยังไม่มีน้ำหอม และสารสังเคราะห์กลิ่น ไม่ทดลองกับสัตว์

 
ผลิตภัณฑ์ขายดี เพื่อการบำรุงทุกสภาพผิว 
⭐️⭐️HA Hydro Intense Serum มอบความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึกถึงผิวชั้นใน เหมาะกับทุกสภาพผิว⭐️⭐️
 
 
เซรั่มเนื้อเข้มข้นในรูปแบบซอฟต์ แอมพูล เป็นผลิตภัณฑ์ยอดฮิตตลอดกาลของ Biohyalux เหมาะสมกับทุกสภาพผิว มีส่วนผสมของ Patented mini HA “ไฮยาลูรอนโมเลกุลเล็ก” มอบความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึกถึงผิวชั้นใน ซ่อมแซมและฟื้นบำรุงถึงเซลล์ผิว ช่วยตรงเข้าเอาใจใส่ดูแลผิวได้อย่างล้ำลึก ตลอดจนเสริมเกราะป้องกันผิว ปกป้องผิวจากมลภาวะและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังมีอย่าง “ครีเอทิน” ช่วยฟื้นบำรุงเซลล์ผิวอย่างล้ำลึก เพิ่มความยืดหยุ่นผิว เผยผิวสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก 
✔️ ขนาด 1.5 มล..จำนวน 30 แอมพูล ราคา 1,990 บาท



⭐️⭐️HA Lifting & Firming Serum ให้ผิวกระชับอิ่มน้ำตลอดทั้งวัน เหมาะกับทุกสภาพผิว⭐️⭐️

 
มอบความยืดหยุ่นให้ผิวกว่า 70% ด้วยสารสกัดจากสารแบคทีเรียหมักบ่ม Bifida Ferment และ Natto ช่วยลดเลือนริ้วรอย กระตุ้นให้ผิวซ่อมแซมตัวเองถึงระดับเซลล์ พร้อม Hyacross ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื่นได้ยาวนานกว่า 24 ชม. ให้ผิวเนียนเด้ง กระชับตลอดวัน *ผิวกระชับเพิ่มขึ้น 60% เมื่อใช้ต่อเนื่องเป็นเวลา 8 สัปดาห์
✔️ ขนาด 1.5 มล. จำนวน 30 แอมพูล ราคา 2,290 บาท



⭐️⭐️HA Brightening & Boosting Serum คืนความชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง และผิวอิ่มน้ำ เหมาะกับผิวหมองคล้ำ⭐️⭐️

 
เผยผิวคุณ ๆให้เปล่งประกายจากภายในสู่ภายนอกอย่างแท้จริง ด้วยการฟื้นบำรุงจาก Glabridin ช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสีผิว ให้ผิวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ ป้องกันการระคายเคือง มอบผิวที่เนียนนุ่ม อิ่มน้ำ ด้วยสารสกัดจากพืช Anastatica *ผิวสว่างขึ้นกว่า50% เมื่อใช้ต่อเนื่องเป็นเวลา 4 สัปดาห์
✔️ ขนาด 1.5 มล. จำนวน 30 แอมพูล ราคา 2,190 บาท



⭐️⭐️HA Soothing Recovery Serum ปกป้องและดูแลผิวบอบบางเป็นพิเศษ เหมาะกับผิวบอบบางแพ้ง่าย⭐️⭐️

 
อัดแน่นคุณประโยชน์ที่ช่วยลดรอยแดง ลดการอักเสบด้วยสารสกัดจากดอกคาโมมายล์ เติมน้ำให้ผิวด้วยเซราไมด์ พร้อม Ectoin ช่วยปกป้องรังสียูวีเอ ลดการสูญเสียน้ำ ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง แม้ผิวบอบบางแพ้ง่าย *อาการระคายเคืองลดลง 75% เมื่อใช้ต่อเนื่องเป็นเวลา 4 สัปดาห์
✔️ ขนาด 1.5 มล. จำนวน 30 แอมพูล ราคา 2,190 บาท



⭐️⭐️HA Purifying Serum เติมเต็มความชุ่มชื่นให้ผิว เหมาะกับผิวมัน⭐️⭐️

 
ช่วยผลัดเซลล์อย่างอ่อนโยน ดูแลให้รูขุมขนสะอาดด้วยพลังจาก 3D Salicylic acid พร้อมควบคุมความมัน และเพิ่มความกระจ่างใน เติมน้ำให้ผิวอิ่มเด้ง และลดการอักเสบ บวมแดงด้วย Niacinamide acid (Vitamin B3) *อ่อนโยน ปราศจากน้ำหอม ผิวกระจ่างใสและผุดผ่องยิ่งขึ้น
✔️ ขนาด 1.5 มิลลิลิตร จำนวน 30 แอมพูล ราคา 2,190 บาท



⭐️⭐️HA Ultimate Hydration Mask มาส์กบำรุงผิว เติมความชุ่มชื้น เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว⭐️⭐️

 
แผ่นมาส์กจากส่วนผสมฟื้นบำรุงผิวจากธรรมชาติ อ่อนโยนต่อผิว แผ่นบางแต่มอบความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยพลังการเติมน้ำให้ผิวจาก HHAF มอบการบำรุงล้ำลึกทุกชั้นผิว พร้อมพลังการบำรุงให้ผิวกระจ่างใส ปลอบประโลมผิวจากมลภาวะ และเติมน้ำให้ผิวด้วย Niacinamide acid และสารสกัดจากDendrobium Nobile 
✔️ ขนาด 28 มก. จำนวน 7 แผ่น ราคา 950 บาท



สัมผัสการฟื้นบำรุงผิวขั้นสุดจากศูนย์วิจัยไบโอเทคระดับโลก พร้อมนวัตกรรม HHAF ในรูปแบบซอฟต์แอมพูล เพื่อการดูแลอย่างตรงจุดได้แล้ววันนี้ ที่ Shopee Official Store: https://shopee.co.th/biohyaluxthailand
และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ได้ 
Facebook : https://www.facebook.com/Biohyalux-Thailand-103453905329768/
IG : https://www.instagram.com/biohyaluxthailand/


Biohyalux ไบโอยาลักซ์ Biohyalux ไฮยาเซรั่ม เติมน้ำให้ผิวด้วย Biohyalux เซรั่มจากกรดไฮยารูลอน เซรั่ม Biohyalux เซรั่มไบโอยาลักซ์

87
Biohyalux ไฮยาเซรั่มนวัตกรรม HHAF ในรูปแบบซอฟต์ แอมพูล ที่สุดของการดูแลผิวจากศูนย์ Biotech ระดับโลก ช่วยฟื้นบำรุงยิ่งกว่าด้วยไฮยา 4 โมเลกุล มอบผิวอิ่มน้ำ สุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก

Biohyalux (ไบโอยาลักซ์) สกินแคร์สำหรับการดูแลอย่างล้ำลึกจากผู้เชี่ยวชาญด้านไฮยารูลอน จุดบรรจบที่สามารถนำสุนทรียะแห่งความงามมาผนวกเข้ากับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้อย่างลงตัว จากจุดเริ่มต้นของศูนย์กลางด้านวิจัยและพัฒนา ตลอดจนผลิต “กรดไฮยารูลอน” ส่วนผสมสำคัญในสกินแคร์ให้กับแบรนด์ชั้นนำทั่วโลก นำมาสู่การพลิกผันบทบาทใหม่ ในฐานะสกินแคร์ผู้เชี่ยวชาญด้านไฮยารูลอนที่มีนวัตกรรมการฟื้นบำรุงที่เหนือกว่า ด้วย Hexagonal Hyaluronic Acid Formulation (HHAF) กรดไฮยารูลอน 4 โมเลกุล เอกสิทธ์เฉพาะของทางแบรนด์ บรรจุลงในซอฟต์แอมพูลหลอดเล็กกระทัดรัด ใช้งานสะดวก ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เพียงแค่บิด บีบ และทา! ก็ช่วยบำรุงล้ำลึกถึงเซลล์ผิวชั้นใน ให้ผิวสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก ตอบโจทย์ทุกการดูแลผิวที่แตกต่าง รับประกันความปังด้วยยอดขายมากกว่า 200 ล้านแอมพูล และเดินหน้ากวาดรางวัล Beauty Awards ที่สุดของสกินแคร์มาแล้วทั่วโลก

จุดเริ่มต้นจากศูนย์วิจัยระดับเวิล์ดคลาสสู่แบรนด์สกินแคร์จากงานวิจัย
Bloomage Biotech R&D Center ศูนย์วิจัยไบโอเทคระดับเวิล์ดคลาส แหล่งผลิต HA ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และส่งออกให้กับแบรนด์สกินแคร์ชั้นนำทั่วโลก ซึ่งได้รับรางวัลกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อม ISO 14001: 2015 โรงงานมาตรฐานระดับสากล ด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปี และมีฝ่ายวิจัยและพัฒนากว่า 300 ทีม อัดแน่นไปด้วยข้อมูลและผลการวิจัยที่ทันสมัย ก่อนจะพลิกผันมาสู่การพัฒนาสกินแคร์ยี่ห้อ Biohyalux ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม Hexagonal Hyaluronic Acid Formulation (HHAF) เอกสิทธิ์เฉพาะของทางแบรนด์ อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีการผลิต และบรรจุซอฟต์ แอมพูลประสิทธิภาพสูงด้วย BFS (Blow-fill-seal) เทคโนโลยีการผลิตแบบปลอดเชื้อขั้นสุด เพื่อคงความสดใหม่ของเนื้อผลิตภัณฑ์ มอบการบำรุงอย่างเต็มประสิทธิภาพ


การค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ จุดหมายใหม่ของการฟื้นบำรุงผิว
คุณสมบัติอันน่าทึ่งของ HA ที่ทำให้หลายๆ คน เลือกใช้เพื่อแก้ไขปัญหาผิว ด้วยสรรพคุณที่สามารถอุ้มน้ำได้มากถึง 1,000 เท่าต่อ 1 หน่วยโมเลกุล แต่ Biohyalux ค้นพบที่สุดของนวัตกรรมการดูแลผิวจาก HHAF (Hexagonal Hyaluronic Acid Formulation) ช่วยฟื้นบำรุงยิ่งกว่า HA ทั่วๆ ไป โดยการพัฒนาให้ HA แทรกซึมเข้าสู่ชั้นผิวหนังในระดับที่แตกต่างกัน ยิ่งโมเลกุลใหญ่ยิ่งป้องกันผิวได้ดี ยิ่งโมเลกุลเล็กยิ่งซึมซาบได้อย่างล้ำลึก ซึ่งประกอบด้วย โมเลกุล HA ขนาดใหญ่ - เกราะป้องกันผิวชั้นนอก ป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้น ปกป้องผิวจากมลภาวะ โมเลกุล HA ขนาดกลาง - ให้ความชุ่มชื้นแก่เซลล์ใต้ผิวหนัง เพื่อความยืดหยุ่น ลดเลือนริ้วรอย โมเลกุล HA ขนาดเล็ก - ให้ความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก ประสานชั้นผิวเข้าด้วยกัน ลดเลือนริ้วรอย กระตุ้นการทำงานของเซลล์ โมเลกุล HA ขนาดเล็กพิเศษ - บำรุงอย่างล้ำลึก ป้องกันการอักเสบ เสริมเกราะป้องกันผิว ปรับสมดุลผิว ให้ผิวแข็งแรงสุขภาพดี และป้องการผิวที่เกิดจากผลกระทบจากรังสียูวี

อีกทั้งยังอัดแน่นด้วยส่วนผสมที่ช่วยฟื้นบำรุงผิว เพื่อการดูแลผิวที่แตกต่าง และแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด อาทิเช่น “กลาบิดิน” ช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสี ให้ผิวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ “กาบาแคร์” ช่วยลดเลือนริ้วรอย ให้ผิวกระชับเต่งตึง “เอ็กโทอิน” ช่วยปกป้องรังสียูวีเอ ลดการสูญเสียน้ำ ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองแม้ผิวบอบบางแพ้ง่าย และ “ไนอาซินาไมด์” ลดเลือนริ้วรอย รอยแผลเป็นจากสิว ลดอาการแดง/ระคายเคืองบนผิว กระตุ้นการผลิตเซราไมด์ และยังไร้น้ำหอม และสารสังเคราะห์กลิ่น ไม่ทดลองกับสัตว์

 
ผลิตภัณฑ์ขายดี เพื่อการบำรุงทุกสภาพผิว 
⭐️⭐️HA Hydro Intense Serum มอบความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึกถึงผิวชั้นใน เหมาะกับทุกสภาพผิว⭐️⭐️
 
 
เซรั่มเนื้อเข้มข้นในรูปแบบซอฟต์ แอมพูล เป็นผลิตภัณฑ์ยอดฮิตตลอดกาลของ Biohyalux เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว มีส่วนผสมของ Patented mini HA “ไฮยาลูรอนโมเลกุลเล็ก” มอบความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึกถึงผิวชั้นใน ซ่อมแซมและฟื้นบำรุงถึงเซลล์ผิว ช่วยตรงเข้าเอาใจใส่ดูแลผิวได้อย่างล้ำลึก ตลอดจนเสริมเกราะป้องกันผิว ปกป้องผิวจากมลภาวะและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังมีอย่าง “ครีเอทิน” ช่วยฟื้นบำรุงเซลล์ผิวอย่างล้ำลึก เพิ่มความยืดหยุ่นผิว เผยผิวสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก 
✔️ ขนาด 1.5 มล..จำนวน 30 แอมพูล ราคา 1,990 บาท



⭐️⭐️HA Lifting & Firming Serum ให้ผิวกระชับอิ่มน้ำตลอดทั้งวัน เหมาะกับทุกสภาพผิว⭐️⭐️

 
มอบความยืดหยุ่นให้ผิวกว่า 70% ด้วยสารสกัดจากสารแบคทีเรียหมักบ่ม Bifida Ferment และ Natto ช่วยลดเลือนริ้วรอย กระตุ้นให้ผิวซ่อมแซมตัวเองถึงระดับเซลล์ พร้อม Hyacross ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื่นได้ยาวนานกว่า 24 ชั่วโมง ให้ผิวเนียนเด้ง กระชับตลอดวัน *ผิวกระชับเพิ่มขึ้น 60% เมื่อใช้ต่อเนื่องเป็นเวลา 8 สัปดาห์
✔️ ขนาด 1.5 มล. จำนวน 30 แอมพูล ราคา 2,290 บาท



⭐️⭐️HA Brightening & Boosting Serum คืนความชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง และผิวอิ่มน้ำ เหมาะกับผิวหมองคล้ำ⭐️⭐️

 
เผยผิวคุณให้เปล่งประกายจากภายในสู่ภายนอกอย่างแท้จริง ด้วยการฟื้นบำรุงจาก Glabridin ช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสีผิว ให้ผิวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ ป้องกันการระคายเคือง มอบผิวที่เนียนนุ่ม อิ่มน้ำ ด้วยสารสกัดจากพืช Anastatica *ผิวสว่างขึ้นกว่า50% เมื่อใช้ต่อเนื่องเป็นเวลา 4 สัปดาห์
✔️ ขนาด 1.5 มิลลิลิตร จำนวน 30 แอมพูล ราคา 2,190 บาท



⭐️⭐️HA Soothing Recovery Serum ปกป้องและดูแลผิวบอบบางเป็นพิเศษ เหมาะกับผิวบอบบางแพ้ง่าย⭐️⭐️

 
อัดแน่นคุณประโยชน์ที่ช่วยลดรอยแดง ลดการอักเสบด้วยสารสกัดจากดอกคาโมมายล์ เติมน้ำให้ผิวด้วยเซราไมด์ พร้อม Ectoin ช่วยปกป้องรังสียูวีเอ ลดการสูญเสียน้ำ ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง แม้ผิวบอบบางแพ้ง่าย *อาการระคายเคืองลดลง 75% เมื่อใช้ต่อเนื่องเป็นเวลา 4 สัปดาห์
✔️ ขนาด 1.5 มิลลิลิตร จำนวน 30 แอมพูล ราคา 2,190 บาท



⭐️⭐️HA Purifying Serum เติมเต็มความชุ่มชื่นให้ผิว เหมาะสำหรับผิวมัน⭐️⭐️

 
ช่วยผลัดเซลล์อย่างอ่อนโยน ดูแลให้รูขุมขนสะอาดด้วยพลังจาก 3D Salicylic acid พร้อมควบคุมความมัน และเพิ่มความกระจ่างใน เติมน้ำให้ผิวอิ่มเด้ง และลดการอักเสบ บวมแดงด้วย Niacinamide acid (Vitamin B3) *อ่อนโยน ปราศจากน้ำหอม ผิวกระจ่างใสและผุดผ่องยิ่งขึ้น
✔️ ขนาด 1.5 มล. จำนวน 30 แอมพูล ราคา 2,190 บาท



⭐️⭐️HA Ultimate Hydration Mask มาส์กบำรุงผิว เติมความชุ่มชื้น เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว⭐️⭐️

 
แผ่นมาส์กจากส่วนผสมฟื้นบำรุงผิวจากธรรมชาติ อ่อนโยนต่อผิว แผ่นบางแต่มอบความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยพลังการเติมน้ำให้ผิวจาก HHAF มอบการบำรุงล้ำลึกทุกชั้นผิว พร้อมพลังการบำรุงให้ผิวกระจ่างใส ปลอบประโลมผิวจากมลภาวะ และเติมน้ำให้ผิวด้วย Niacinamide acid และสารสกัดจากDendrobium Nobile 
✔️ ขนาด 28 มิลลิกรัม จำนวน 7 แผ่น ราคา 950 บาท



สัมผัสการฟื้นบำรุงผิวขั้นสุดจากศูนย์วิจัยไบโอเทคระดับโลก พร้อมนวัตกรรม HHAF ในรูปแบบซอฟต์แอมพูล เพื่อการดูแลอย่างตรงจุดได้แล้ววันนี้ ที่ Shopee Official Store: https://shopee.co.th/biohyaluxthailand
และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารอื่น ๆเพิ่มเติมที่ได้ 
เฟสบุ๊ค : https://www.facebook.com/Biohyalux-Thailand-103453905329768/
Instagram : https://www.instagram.com/biohyaluxthailand/


Biohyalux ไบโอยาลักซ์ Biohyalux ไฮยาเซรั่ม เติมน้ำให้ผิวด้วย Biohyalux เซรั่มจากกรดไฮยารูลอน เซรั่ม Biohyalux เซรั่มไบโอยาลักซ์

88

อีกหนึ่งวิธีในการจัดเก็บข้าวของภายในบ้านให้เรียบร้อยและสวยงามก็คือการเลือกใช้ตู้เก็บของ  เพราะนอกจากจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ช่วยให้ความสวยงามกับบ้านแล้วก็ยังสามารถใช้ประโยชน์ในการเก็บเครื่องใช้ต่าง ๆ ให้เป็นระเบียบเพื่อทำให้บ้านดูสวยงามน่าอยู่มากยิ่งขึ้น ซึ่งในครั้งนี้เราก็มีข้อมูลดี ๆ ของการเลือกใช้ตู้เก็บของมาฝากกัน เพื่อช่วยให้คุณ ๆได้นำไปพิจารณาเพื่อประกอบการตัดสินใจว่าจะเลือกใช้ตู้ชนิดไหนกันดี

ห้องรับแขก/ห้องนั่งเล่น
ก่อนที่จะเข้ามาในบ้านก็ควรมีการใช้ตู้เก็บรองเท้าตั้งเอาไว้ใกล้ๆกับประตูเข้าบ้านเพื่อจัดเก็บรองเท้าให้เรียบร้อย ส่วนภายในก็อาจจะมีตู้เก็บรองเท้าอีกอันเอาไว้เก็บพวกรองเท้าสลิปเปอร์สำหรับใส่ในบ้าน โดยปกติแล้วห้องรับแขกและห้องนั่งเล่นก็มักจะมีการติดตั้งชั้นวางทีวีที่มีตู้สำหรับเก็บของในตัวและมีชั้นวางของแบบติดผนัง นอกจากนี้ก็ยังสามารถใช้ตู้เตี้ยแบบมีลิ้นชักในการจัดเก็บเครื่องใช้จุกจิกให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ส่วนของตกแต่งหรือสิ่งที่ต้องการตั้งโชว์ก็สามารถเลือกใช้ตู้โชว์มาตั้งไว้ก็ได้ รวมไปถึงเลือกใช้ตู้วางของที่มีลักษณะเป็นชั้นวางแบบเปิดโล่ง ซึ่งนอกจากจะตั้งโชว์ของตกแต่งได้แล้วก็ยังสามารถช่วยจัดเก็บข้าวของให้เป็นระเบียบเรียบร้อยและช่วยเพิ่มลูกเล่นให้กับห้องได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว 

ห้องครัว
ในห้องครัวโดยมากก็มักจะใช้เก็บพวกอุปกรณ์การทำครัวต่าง ๆ โดยจะแบ่งเป็นของที่ไม่ค่อยได้เอาออกมาใช้และของที่นำมาใช้เป็นประจำ ด้วยเหตุนั้นของที่ใช้เป็นประจำก็ควรที่จะวางอยู่ในจุดที่หยิบมาใช้งานได้ง่ายๆ ซึ่งก็อาจจะใช้ได้ทั้งราวแขวน ชั้นวางของ รวมไปถึงตู้วางของแบบที่ไม่ต้องมีบานปิด ส่วนของที่นาน ๆ ทีจะหยิบเอามาใช้งานกันสักครั้ง ก็ควรหาตู้ที่มีบานปิดมิดชิดเพื่อป้องกันสิ่งสกปรก 

ห้องน้ำ 
ส่วนมากแล้วลักษณะของตู้ที่นำมาใช้เก็บของในห้องน้ำก็จะเป็นพวกตู้ใต้บานซิงค์ล้างหน้า ตู้ข้างเคาน์เตอร์ ตู้แบบแขวนติดผนัง ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ก็มักจะใช้วัสดุที่มีความทนทานต่อความชื้นอย่างเช่นพลาสติก  PVC  รวมไปถึงอาจจะเป็นไม้จริงเช่นไม้ยางพาราที่มีการปิดผิวหน้ากันน้ำ และมีขาตั้งเป็นเหล็ก โดยหน้าห้องน้ำก็อาจจะมีการนำเอาตู้เก็บรองเท้ามาตั้งเอาไว้เพื่อใส่รองเท้าสำหรับเปลี่ยนเวลาที่เข้าไปใช้ห้องน้ำด้วย 

ห้องนอน
สำหรับห้องนอนก็มักจะมีตู้เสื้อผ้าเอาไว้จัดเก็บเสื้อผ้า แต่ต้องบอกว่าห้องนอนนั้นเป็นห้องที่มีข้าวของกระจุกกระจิกอยู่เยอะมากที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะฉะนั้นการเลือกใช้ตู้วางของ หรือตู้เก็บของก็เป็นตัวช่วยจัดระเบียบภายในห้องนอนได้เป็นอย่างดี ซึ่งก็อาจจะเลือกใช้เป็นชั้นวางของแบบติดผนัง ตู้วางของแบบประตูบานเลื่อนเพื่อช่วยประหยัดพื้นที่ หรืออาจจะเลือกเตียงที่มีช่องเก็บของอยู่ด้านใต้และมีชั้นวางของอยู่ที่หัวเตียง รวมถึงโต๊ะข้างเตียงหรือตู้ข้างเตียง เป็นต้น

เป้าหมายหลักของตู้เก็บของ  ก็คือการกำหนดระเบียบข้าวของต่าง ๆ ภายในบ้าน แต่ทั้งนี้ก็ควรเลือกรูปแบบที่มีความสวยงามทันสมัยเข้ากับการตกแต่งบ้านได้เป็นอย่างดีและตอบโจทย์การใช้งานได้ตามความต้องการ ก็จะทำให้บ้านของคุณนั้นทั้งดูเป็นระเบียบและดูสวยงามได้มากยิ่งขึ้น

สั่งซื้อสินค้าได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/FUR0902

89


การจัดระเบียบให้กับบ้านนอกจากจะเลือกใช้ตู้เก็บของแล้ว ก็ยังมีชั้นวางของซึ่งนิยมใช้กันเพื่อเก็บของใช้รวมไปถึงเอาไว้วางของแต่งบ้านต่าง ๆ ในแนวตั้งเพื่อเป็นการประหยัดพื้นที่ และเป็นการใช้พื้นที่ในแนวตั้งของบ้านให้เกิดประโยชน์สูงสุด ท่านใดกำลังมองหาชั้นวางของมาใช้ในบ้าน คราวนี้เราก็มีข้อมูลดี ๆ ของทั้งชั้นวางของเหล็กและชั้นวางของไม้มาฝากกัน 


ใช้พื้นที่ในแนวตั้งให้เป็นประโยชน์ด้วยชั้นวางของ 
ชั้นวางของเหล็ก
 
ในปัจจุบันการตกแต่งบ้านในสไตล์ลอฟท์รวมไปถึงสไตล์โมเดิร์นก็นิยมที่จะเลือกใช้ชั้นวางของเหล็กกันเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งก็มีทั้งชั้นวางของเหล็กที่เป็นเหล็กทั้งอันมาประกอบกัน และแบบที่เป็นโครงเหล็กและใช้ไม้เป็นชั้นสำหรับวางของ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นชั้นลอยไม่มีบานปิด โดยมีให้เลือกทั้งแบบตั้งพื้นธรรมดาและแบบแขวนติดผนัง จุดดีของชั้นวางของเหล็กก็คือมีความแข็งแรงทนทาน สามารถรองรับน้ำหนักได้มาก มีอายุการใช้งานที่นานกว่าชั้นวางของไม้เพียงอย่างเดียว อีกทั้งยังสามารถใช้วางของได้อย่างหลากหลายมากกว่า เช่นสามารถใช้วางจานชามในห้องครัวที่เปียกน้ำได้ นอกจากนี้ด้วยดีไซน์ที่มีความเรียบง่ายทันสมัยจึงสามารถเข้ากับสไตล์การแต่งบ้านได้ทุกแบบ  

ชั้นวางของไม้
ชั้นวางของไม้นั้นก็มีให้เลือกหลากหลายแบบหลายราคา แล้วแต่วัสดุของไม้ที่นำมาใช้ เช่น ชั้นวางของที่ใช้ไม้จริงก็จะมีราคาที่ค่อนข้างสูง มีน้ำหนักมาก แต่ก็มีความทนทานสามารถใช้วางของเปียกได้ ซึ่งก็มีทั้งแบบไม้เนื้อแข็งและไม้เนื้ออ่อน แต่ถ้าหากใช้เป็นพวกไม้อัดที่มีการเคลือบปิดผิว ก็จะมีราคาถูกกว่า มีน้ำหนักเบา ส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นชั้นที่สามารถถอดประกอบได้ แต่ก็ไม่ค่อยมีความทนทานมากนัก โดยทั่วไปแล้วชั้นวางของไม้ก็มักจะมาในรูปแบบ ชั้นวางติดผนัง ชั้นวางตั้งพื้น และชั้นวางแบบ Built in ที่มีความสวยงามและประหยัดพื้นที่  มีดีไซน์และขนาดให้เลือกหลากหลาย ซึ่งชั้นวางของไม้ก็อาจจะมีการทำบานปิดทึบ หรือใช้กระจกปิดเอาไว้สำหรับตั้งโชว์ของแต่งบ้านหรือของสะสมต่าง ๆ คล้ายกับตู้โชว์ก็ได้ รวมถึงใช้ร่วมกับโครงเหล็กทำให้มีความสวยงามและแข็งแรงทนทานมากยิ่งขึ้น 

ฉะนั้นในการเลือกชั้นสำหรับวางของต่าง ๆ ภายในบ้าน นอกจากจะดูในเรื่องของวัสดุที่ใช้ การออกแบบที่มีความสวยงามเข้ากับสไตล์การแต่งบ้านแล้ว ความแข็งแรงทนทานและความสามารถในการวางข้าวของต่าง ๆ ก็เป็นอีกเรื่องที่ควรพิจารณาควบคู่กันไปด้วย ก็จะช่วยทำให้บ้านของท่านมีทั้งความเป็นระเบียบเรียบร้อยและมีความสวยงามไปได้พร้อม ๆ กัน

สั่งซื้อสินค้าได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/FUR0906

90


ในการสร้างบ้านรวมไปถึงการรีโนเวทบ้าน สิ่งหนึ่งที่เราจำเป็นจะต้องให้ความสำคัญก็คือการเลือกกระเบื้อง ให้เหมาะสมสำหรับการใช้งานในบริเวณต่าง ๆ ของบ้าน ในคราวนี้เราจึงมีวิธีการเลือกกระเบื้องปูพื้นสำหรับประกอบการตัดสินใจเพื่อทำให้บ้านของท่านดูสวยงามด้วยการเลือกใช้กระเบื้องให้เหมาะสมมาฝากกัน
    
วิธีการเลือกสรรกระเบื้องปูพื้นควรพิจารณาจากอะไรบ้าง 

ขนาดของพื้นที่
อันดับแรกก็ลองคำนวณพื้นที่ของห้องหรือบริเวณนั้น ๆ ดูก่อน ว่ามีขนาดกว้างมากน้อยเท่าใด จะได้เลือกขนาดกระเบื้อง ให้พอเหมาะกับพื้นที่ให้ได้มากที่สุด ตัวอย่างเช่นในบริเวณห้องรับแขกก็อาจจะเลือกเป็นขนาด 12 x 12 นิ้ว ขนาด 40 x 40 เซนติเมตร หรือในห้องโถงที่มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างก็อาจจะเลือกใช้เป็นขนาด 60 x 60 ซม. ในห้องน้ำที่มีพื้นที่ไม่กว้างมากนักก็แนะนำให้ใช้ขนาดที่เล็กลงมาอยู่ที่ 8 x 8 นิ้ว เป็นต้น 

พื้นที่การใช้งาน 
กระเบื้องปูพื้นก็มีอยู่หลายประเภทด้วยกันซึ่งก็พอดีสำหรับการใช้งานในพื้นที่ต่าง ๆ ที่แตกต่างกันออกไป เช่น ในห้องน้ำก็ควรที่จะใช้กระเบื้องแผ่นขนาดเล็กและมีพื้นผิวด้านหน้าที่ค่อนข้างหยาบเพื่อช่วยเพิ่มพื้นที่ของผิวสัมผัสในการระบายน้ำและช่วยลดอุบัติเหตุจากการลื่นล้ม อย่างเช่น เซรามิค แกรนิตโต้ หรือโมเสค ในห้องครัวซึ่งมักจะเลอะคราบอาหารและคราบไขมันก็อาจจะเลือกเป็นหินอ่อนที่มีความทนทานและมีคุณสมบัติในการทำความสะอาดได้ง่ายและไม่สะสมคราบสกปรก ส่วนในห้องทำงานที่มีอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ก็อาจใช้เป็นแบบยางที่มีคุณสมบัติเป็นฉนวนกันไฟฟ้าได้ 

สีสันและลวดลาย
การเลือกสีสันและลวดลายของกระเบื้องก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ส่งเสริมความงดงามให้กับบ้านของท่าน อย่างเช่นเลือกใช้โทนสีอ่อนสบายตาหรือลายไม้ภายในห้องนอนเพื่อช่วยเพิ่มบรรยากาศที่ดูผ่อนคลายเหมาะสำหรับการพักผ่อน รวมไปถึงช่วยทำให้พื้นที่บริเวณนั้นดูกว้างขวางมากยิ่งขึ้น ใช้โทนสีเข้มหรือมีลวดลายกราฟฟิกในบริเวณที่สามารถเกิดคราบสกปรกได้ง่ายเพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด ตัวอย่างเช่นในห้องครัว ห้องซักล้าง หรือห้องน้ำ รวมถึงการเลือกแบบที่มีลวดลายแบบสวยงามเพื่อเพิ่มจุดเด่นให้กับพื้นที่บริเวณนั้น ๆ เป็นพิเศษ อย่างเช่นในห้องโถงรับแขก เป็นต้น 

ราคา
ราคา กระเบื้องปูพื้น ก็มีอยู่ด้วยกันหลากหลายราคา ซึ่งส่วนมากก็มักจะคิดเป็นราคาต่อตารางเมตร เพราะฉะนั้นก็ต้องดูงบประมาณที่มีว่าในแต่ละห้องจะใช้อย่างใด ซึ่งถ้าหากมีงบประมาณไม่มากก็อาจเลือกเป็นแบบเซรามิคที่มีราคาไม่แพงและมีความสวยงามรวมไปถึงมีรูปแบบให้เลือกหลากหลาย หรือถ้าอยากให้บ้านดูหรูหรามากขึ้นก็อาจจะเลือกเป็นหินอ่อนหรือแกรนิตโต้ที่มีราคาแพงขึ้นมาก็ได้   

โดยรวมแล้วการเลือกกระเบื้องปูพื้นก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของเราเป็นหลักว่าอยากได้เป็นอย่างใด แต่ก็ควรที่จะพิจารณาดูด้วยว่าได้เลือกใช้อย่างเหมาะสมแล้วหรือไม่ จะได้ไม่ต้องเสียทั้งเงินและเวลาเพื่อรื้อเปลี่ยนใหม่กันอีกรอบ
ติดต่อสอบถามได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/FLO0203

หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 12