͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: สธ.จับตา 6 จังหวัด ยังติดโควิดสูง 'เชียงใหม่' ผู้ป่วยยังพุ่ง เฝ้าระวังแรงงานข้ามชาติ  (อ่าน 13 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ kaidee20

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 16451
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
สธ.จับตา 6 จังหวัด ยังติดโควิดสูง ‘เชียงใหม่’ ผู้ป่วยยังพุ่งสูง เฝ้าระวังแรงงานข้ามชาติ เร่งคุมติดเชื้อในเรือนจำสุรินทร์-ขอนแก่น คลัสเตอร์แคมป์คนงาน ใช้บับเบิลแอนด์ซีล


วันที่ 1 พ.ย.64 นพ.เฉวตสรร นามวาท ผอ.กองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โควิด 19 ว่า สถานการณ์โรคโควิด 19 ในหลายจังหวัดมีแนวโน้มค่อนข้างคงที่ ผู้ป่วยใส่เครื่องช่วยหายใจลดต่ำกว่า 500 ราย ซึ่งเป็นรายเดิมที่ก่อนหน้านี้ หวังว่าจะลดลงเรื่อยๆ

ขณะที่การเสียชีวิตมีการแกว่งตัวค่อนข้างสูงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนการติดเชื้อในกทม.ช่วง 7 วันที่ผ่านมามีแนวโน้มลมลด ขณะนี้ยังมี 6 จังหวัดที่ต้องระวังเพิ่มอย่างใกล้ชิด คือ นครศรีธรรมราช เชียงใหม่ ตาก ระยอง จันทบุรี และ ขอนแก่น จะเห็นว่า 3-4 สัปดาห์ที่ผ่านมามีการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนและเพิ่มสูงขึ้นจึงต้องมีการจับตามอง

โดยที่ จ.เชียงใหม่ พบการติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์ในตลาดและสถานประกอบการ พบเปอร์เซ็นต์การสัมผัสสูงในชุมชนและครอบครัว


ทั้งนี้ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ประชุมติดตามสถานการณ์และวิเคราะห์ โดยตามสมมติฐานก่อนหน้านี้ว่ามีการเชื่อมโยงกับแรงงานข้ามชาติ เพราะมีการเคลื่อนย้ายเข้าพื้นที่ ส่วนนี้จึงสำคัญมากในการทำให้ได้รับการฉีดวัคซีนและมีมาตรการป้องกันต่างๆ รวมถึงการจะรับแรงงานข้ามชาติเข้ามาจะต้องเข้ามาตามช่องทางที่ถูกต้องจะช่วยลดความเสี่ยงเป็นอย่างดี




อย่างไรก็ตาม เชียงใหม่เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวจึงมีความเข้มงวด มีการประเมินมาตรการต่างๆ โดยส่วนใหญ่ถือว่าการเตรียมพร้อมทำได้เต็มที่ มีการเร่งรัดตรวจหาเชื้อด้วย ATK มีที่กักตัวที่บ้าน ที่ชุมชน เพื่อลดความหนาแน่นในรพ. ให้รพ.พร้อมรับผู้ป่วยอาการสีเหลือง สีแดง

นพ.เฉวตสรร กล่าวต่อว่า บางจังหวัดที่พบการติดเชื้อในเรือนจำสูงขึ้น เช่น สุรินทร์ และขอนแก่น มีเลข 2 หลักต่อวัน ต่อมาเมื่อวันที่ 31 ต.ค. สุรินทร์มีผู้ติดเชื้อ 184 ราย และวันนี้ 328 ราย ส่วนขอนแก่น วันที่ 31 ต.ค. คิดเชื้อ 95 ราย และวันนี้มีรายงานติดเชื้อ 100 ราย ซึ่งจะมีมาตรการควบคุมโรคโดยใช้จากประสบการณ์เดิม

นอกจากนี้ ยังพบการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนอื่น ๆ เช่น การติดเชื้อในบุคลากรการแพทย์ในกทม. 30 ราย ปริมณฑล 5 ราย และต่างจังหวัดรวม 25 ราย งานบุญบั้งไฟที่อุดรธานี 5 ราย งานแข่งฟุต. จ.เลย 10 ราย แรงงานจันทบุรี 12 ราย ตราด 15 ราย โรงเรียน/วิทยาลัยที่แม่ฮ่องสอน 2 ราย เชียงใหม่ 2 ราย งานแต่งที่เชียงใหม่ 9 ราย กาญจนบุรี 8 ราย ร้านอาหารทะเลที่อุดรธานี 7 ราย แคมป์คนงานที่ชลบุรี 30 ราย นครนายก 36 ราย เชียงใหม่ 9 ราย

“กรณีพบผู้ติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์ต่างๆ รวมถึงแคมป์คนงานภายในกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ย้ำว่าจะอยู่ร่วมกันได้ อยู่ที่มาตรฐานควบคุม จึงไม่อยากให้วิตกกังวลเกินไป วิธีการคือมีการสอบสวนโรค ดูขอบเขตความสัมพันธ์ เชื่อมโยงเกี่ยวข้อง และมีบับเบิล แอนด์ ซีล ยังมีคนที่ไม่ติดเชื้อ จึงสามารถทำงานต่อได้ โดยไม่จำเป็นต้องปิด หรือหยุดกิจกรรมนั้นๆ ตอนนี้แคมป์คนงานก่อสร้างใน สธ.ได้รับการดูแลอย่างดี ขอให้อย่ากังวล เรามีการเฝ้าระวังสังเกตคนเกี่ยวข้องเพื่อให้แน่ใจในความปลอดภัย” นพ.เฉวตสรร กล่าว

นพ.เฉวตสรร กล่าวต่อว่า การเปิดรับนักท่องเที่ยว 63 ประเทศ ซึ่งก่อนเดินทางตรวจไม่พบเชื้อ เมื่อมาถึงประเทศไทยก็ตรวจซ้ำ หากไม่พบเชื้อ ก็ไปเที่ยวที่พื้นที่ใดก็ได้ ไม่มีการจำกัด ไม่มีการกักตัว ดังนั้น ทั้ง 77 จังหวัดอาจจะมีโอกาสเจอนักท่องเที่ยวเข้าไปในพื้นที่ได้ แต่ส่วนใหญ่คาดว่าน่าจะมีการเดินทางใน 17 จังหวัดนำร่องท่องเที่ยวหนาแน่นกว่า

ซึ่งนักท่องเที่ยวฉีดวัคซีนแล้ว ผู้ประกอบการเตรียมการรองรับ หน่วยงานด้านสาธารณสุขและภาคอื่นๆ มีการเตรียมการรับรองหากเกิดเหตุการณ์สถานการณ์โรคระดับใดก็จะใช้แผนเผชิญเหตุดำเนินการอย่างไร และมีการเตรียมเอาไว้ให้หมดแล้ว แต่ก็ขอความร่วมมือประชาชนในการป้องกันตนเองสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ เป็นต้น