͸Ժ

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Naprapats

หน้า: 1 ... 809 810 [811] 812 813 ... 996
12154


เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยได้ยินเรื่อง 'สเต็มเซลล์' แต่ส่วนใหญ่มองข้ามไป เพราะมองว่าไกลตัว อาจจะไม่เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ รวมถึงคิดว่าตนเองคงเข้าไม่ถึงหรือสุดท้ายคงอาจไม่เข้าใจและไม่ได้รับข้อมูลมากเพียงพอ เนื่องจากหากเราทราบประโยชน์ก็จะเห็นความสำคัญของสิ่งนี้อย่างแท้จริง

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าร่างกายของคนเรามีสเต็มเซลล์ซ่อนอยู่ในทุกอวัยวะเริ่มตั้งแต่ชีวิตก่อกำเนิดจากเซลล์แรก เป็นเซลล์ตัวอ่อนและเจริญเติบโตเป็นอวัยวะต่างๆ เป็นร่างกายที่สมบูรณ์ในที่สุด ซึ่งระหว่างที่เราเจริญเติบโตหรือมีอายุมากขึ้นก็จะมีสเต็มเซลล์ที่มีคุณสมบัติแตกต่างกันไป แต่ที่สำคัญที่สุดคือสเต็มเซลล์ทำหน้าที่ฟื้นฟู ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของอวัยวะต่างๆ ยิ่งถ้าเป็นในแง่ของนักกีฬายิ่งมีประโยชน์มาก สามารถยืดระยะเวลาการใช้งานร่างกาย รวมถึงทำให้ส่วนที่บาดเจ็บนั้นหายเร็วขึ้นอีกด้วย

ดังนั้นจะดีแค่ไหนถ้ามีการจัดเก็บเต็มเซลล์ไว้สำหรับใช้บำบัดรักษาโรคและฟื้นฟูสภาพความเสื่อมของร่างกายสำหรับตนเองรวมถึงคนในครอบครัว เมื่อถึงเวลาจำเป็นก็สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทันที นอกจากนี้เรื่องค่าใช้จ่ายที่ใครๆ กังวล ทุกวันนี้มีระบบผ่อนจ่ายที่ช่วยให้เข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้นอีกด้วย

ระบบการจัดเก็บระดับสากลของ “ไครโอวิวา”
ระบบการจัดเก็บระดับสากลของ “ไครโอวิวา”

- เก็บสเต็มเซลล์เพื่อคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน

“สเต็มเซลล์” หรือ “เซลล์ต้นกำเนิด” เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากขึ้นว่า มีบทบาทในทางบำบัดรักษาโรคให้กับผู้เป็นเจ้าของและบุคคลในครอบครัว แบ่งได้เป็น สเต็มเซลล์ ที่เก็บเกี่ยวได้จากตัวอ่อน (Embryonic stem cell) และสเต็มเซลล์ชนิดโตเต็มวัย (Adult stem cell) ได้จากมนุษย์ที่เติบโตแล้ว เซลล์จากตัวอ่อนยังเป็นสิ่งต้องห้ามในทางศีลธรรม เพราะการสกัดสเต็มเซลล์ จำเป็นต้องทำลายตัวอ่อน ในขณะที่เซลล์ชนิดโตเต็มวัยที่ได้จากตัวผู้รักษาเองไม่มีการทำลายชีวิตตัวอ่อน จึงเป็นที่ยอมรับมากกว่า เช่น สเต็มเซลล์เก็บจากเลือดในสายสะดือ เนื้อเยื่อสายสะดือและเยื่อหุ้มรก

สเต็มเซลล์ จึงถูกมองว่า มีบทบาทความสำคัญยิ่งสำหรับคุณภาพชีวิตที่ดีสำหรับทุกคนในครอบครัว โดยสเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือ เนื้อเยื่อสายสะดือและเยื่อหุ้มรกสามารถจัดเก็บได้ตอนแม่คลอด ไม่เจ็บปวด อีกทั้งจัดเป็นเซลล์ที่มี HLA ตรงกับทารก 100% ซึ่งมีการศึกษาแล้วว่า สเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือสามารถรักษาได้มากกว่า 85 โรค ทั้งแก่ลูกน้อยและพี่น้องร่วมสายโลหิตที่มีเนื้อเยื่อตรงกัน เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาว หรือลูคีเมีย ทั้งชนิดเฉียบพลันและเรื้อรัง มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งไขกระดูก มะเร็งในเด็กบางชนิด และโรคที่ไม่ใช่มะเร็งอย่าง โรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย โรคความบกพร่องทางภูมิคุ้มกันที่เป็นมาแต่กำเนิด โรคเม็ดตา.ิซึมที่เป็นมาแต่กำเนิด เป็นต้น



นอกจากนี้สเต็มเซลล์ชนิดที่เรียกว่า “มีเซนไคมอลสเต็มเซลล์” (Mesenchymal Stem Cells) หรือ “เอ็มเอสซี” (MSC’s) ที่ได้จากเนื้อเยื่อสายสะดือหรือเยื่อหุ้มรกยังมีศักยภาพสูงในการแบ่งตัวและพัฒนาไปเป็นเซลล์ประเภทต่าง ๆ ได้ เช่น เซลล์ไขมัน กระดูกอ่อน กระดูก จึงมีประโยชน์ในการนำมาใช้รักษาฟื้นฟูสภาวะเสื่อมในผู้ใหญ่ โดยมีการศึกษาพบว่า สามารถใช้ฟื้นฟูโรคได้หลายชนิด เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง โรคข้อเสื่อม โรคอัลไซเมอร์ โรคพาร์กินสัน โรคสมองพิการ โรคออสทิสติก โรคหลอดเลือดสมองตีบหรือฉีกขาด โรคไตอักเสบ โรคตับอักเสบ โรคภูมิแพ้ตัวเอง (SLE) และอีกกว่า 45 รายงานการวิจัยจาก 597 การศึกษาวิจัยทั่วโลก ที่พบว่ามีการรักษาโควิด-19 ด้วยสเต็มเซลล์อีกด้วย

จากคุณประโยชน์ของสเต็มเซลล์ ที่เป็นอีกทางเลือกในการรักษาโรค ทำให้สังคมโลกตื่นตัวเรื่องการเก็บสเต็มเซลล์ไว้สำหรับอนาคตและกลายเป็นที่มาของ “ธนาคารสเต็มเซลล์” เกิดขึ้นหลายแห่งทั่วโลก และมีครอบครัวจำนวน ไม่น้อย ยอมจ่ายค่าบริการจัดเก็บรักษา เพื่อแลกกับคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนของครอบครัวในอนาคต

- ธนาคารสเต็มเซลล์คืออะไร

ในปัจจุบันมีหน่วยงานทำหน้าที่เสมือน “ธนาคาร” แต่แตกต่างกันตรงที่ไม่ได้รับฝากเงิน ทว่ารับจัดเก็บเซลล์ของมนุษย์แทน หรือที่เรียกว่า “ธนาคารสเต็มเซลล์” ซึ่งให้บริการจัดเก็บรักษาสเต็มเซลล์ไว้ ใช้ประโยชน์ในการดูแลสุขภาพ สร้างคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนให้กับสมาชิกทุกคนในครอบครัว หรือแม้แต่การบริจาคแก่บุคคลอื่นนำไปใช้รักษาโรคที่ทางการแพทย์ยอมรับว่าสเต็มเซลล์สามารถรักษาได้ และ “ไครโอวิวา” ก็เป็นหนึ่งในธนาคารจัดเก็บสเต็มเซลล์และผู้นำนวัตกรรมสเต็มเซลล์สำหรับใช้ในครอบครัวในประเทศไทย มาตรฐานระดับสากลที่ได้รับความไว้วางใจ

จิรัญญา ประชาเสรี  ประธานกรรมการบริหาร  บริษัท ไครโอวิวา (ประเทศไทย) จำกัดและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
จิรัญญา ประชาเสรี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไครโอวิวา (ประเทศไทย) จำกัดและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

สำหรับในประเทศไทย มีหน่วยงานที่ทำหน้าที่ 'ธนาคารสเต็มเซลล์” หลายแห่งเช่นกัน ทั้งที่เป็นบริษัทของเอกชนและหน่วยงานของภาครัฐ โดยในส่วนธนาคารสเต็มเซลล์ของภาครัฐนั้น ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ได้รับมอบหมายจากแพทยสภา ประกาศเป็นข้อบังคับว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2545 เกี่ยวกับการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต ในราชกิจจานุเบกษากำหนด เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2545 ให้ทำหน้าที่จัดหาอาสาสมัครผู้บริจาคเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตหรือสเต็มเซลล์ ที่ไม่ใช่ญาติให้แก่ผู้ป่วย โดยจัดตั้ง “ธนาคารเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตแห่งชาติ” เพื่อเป็นศูนย์กลางทะเบียน ตั้งแต่ปี 2545 โดยมีคณะกรรมการพัฒนาศักยภาพงานสเต็มเซลล์ ซึ่งเป็นผู้บริหารและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจาก 5 สถาบันมาร่วมงาน ได้แก่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า และโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ และจากหน่วยงานอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ก็เป็นการตั้งของโรงพยาบาลเอง อาทิ ศูนย์ความเป็นเลิศทางงานวิจัยสเต็มเซลล์ของศิริราช ที่มุ่งสร้างงานวิจัยพื้นฐานพัฒนาสเต็มเซลล์ให้เป็นเซลล์ชนิดต่าง ๆ เพื่อนำมาใช้ในการรักษาผู้ป่วยโรคที่เกิดจากความเสื่อมหรือโรคที่มีความผิดปกติของอวัยวะต่าง ๆ เป็นต้น

ส่วนธนาคารสเต็มเซลล์ของเอกชน ในประเทศไทยมีอยู่หลายแห่งเช่นกัน และในจำนวนนี้ “บริษัทไครโอวิวา (ประเทศไทย) จำกัด” คือผู้นำนวัตกรรมสเต็มเซลล์สำหรับใช้ในครอบครัวในประเทศไทย มาตรฐานระดับสากล “บริษัท ไครโอวิวา (ประเทศไทย) จำกัด” ถือเป็นผู้นำทางด้านธนาคารสเต็มเซลล์มีความเป็นเลิศทางวิชาการ ด้วยรางวัลการันตีความสำเร็จมากมาย ด้วยการสร้างมาตรฐานที่แตกต่าง จนได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้บริการมายาวนาน กับความสำเร็จที่พร้อมอยู่เคียงข้างทุกคุณภาพชีวิตของทุกคนในครอบครัว หวังเจาะตลาดกลุ่มลูกค้า “Personal Life” ทุกเพศทุกวัยและทุกไลฟ์สไตล์ ที่สนใจในเรื่องการดูแลสุขภาพและนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพระดับสูง

ร่วมวิจัยเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโควิด-19
ร่วมวิจัยเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโควิด-19

- ความเชื่อมั่นในการเก็บสเต็มเซลล์กับไครโอวิวา

จิรัญญา ประชาเสรี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไครโอวิวา (ประเทศไทย) จำกัดและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยว่าเหตุใดไครโอวิวาฯถึงได้รับการไว้วางใจจากทุกครอบครัวมาเป็นเวลากว่า 14 ปี “ก่อนอื่นต้องขอบคุณความไว้วางใจจากลูกค้าที่มั่นใจในการบริการของเรา และทีมงานที่ทำงานกันอย่างขยันขันแข็งจนในปัจจุบันถ้าพูดถึงไครโอวิวาฯ ในแต่ละสาขาทั่วโลกวันนี้เรามีเก็บสเต็มเซลล์ไว้มากกว่า 1,000,000 ยูนิต และอยู่ใน TOP 10 ของโลก โดยมีการพัฒนาและขยายเครือข่ายที่แข็งแกร่งต่อไป ไม่ว่าจะเป็นเอเชีย ตะวันออกกลาง หรือ ออสเตรเลียก็ไว้ใจให้เราเก็บสเต็มเซลล์ อย่างตอนนี้ดิฉันได้รับมอบหมายให้ไปบริหารที่สาขาสิงคโปร์ ร่วมถึงโซนเอเชียตะวันตกเฉียงใต้เพิ่มอีกด้วย

ทั้งนี้ทุกบริการของไครโอวิวาฯประเทศไทยจะวางแผน 3-5 ปี เพื่อทำการศึกษาและทดลองจนมั่นใจที่จะให้บริการนั้นแก่ลูกค้า ทำให้ล่าสุดเราได้เปิดตัวนิยามใหม่ “Your Life is Your Choice” เจาะกลุ่มลูกค้าทั่วไปที่สนใจในการดูแลสุขภาพ ก่อนหน้านี้เราโฟกัสกลุ่มคุณแม่และครอบครัวเป็นหลัก แต่วันนี้ต้องการให้ทุกคน ทุกเพศมีคุณภาพชีวิตที่ดี จึงศึกษาวิธีการใหม่ ทำให้พบนวัตกรรมที่นำ ”ไขมัน” มาเป็นประโยชน์เพื่อใช้เติมเต็มในส่วนที่เราบกพร่องได้ และยังสามารถนำไปเพาะเลี้ยงให้เป็นสเต็มเซลล์ของตนเองเพื่อใช้ในศาสตร์ชะลอวัย

จัดเก็บ สเต็มเซลล์ เมื่อถึงเวลาสามารถนำมาใช้ได้ทันที
จัดเก็บ สเต็มเซลล์ เมื่อถึงเวลาสามารถนำมาใช้ได้ทันที

- สเต็มเซลล์กับไวรัสโควิด-19

“ดร.นพ. ศุภชัย เอกวัฒนกิจ” โลหิตแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเซลล์และโลหิตวิทยา ผู้อำนวยการแพทย์ พร้อมด้วย “กมลรัตน์ ศรีถวิล” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ไครโอวิวา (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้เราได้รับเชิญไปร่วมสนทนาเพื่ออัพเดตถึงบทบาทของสเต็มเซลล์ในปัจจุบัน รวมถึงความสามารถของสเต็มเซลล์กับการรักษาฟื้นฟูร่างกายจากโรคโควิด-19 ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากในสถานการณ์การระบาดของโรคดังกล่าวในขณะนี้

ด้าน กมลรัตน์ ศรีถวิล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ไครโอวิวา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในการเก็บสเต็มเซลล์ หากเรากลัวเจ็บ เราก็สามารถเก็บได้ตั้งแต่แรกคลอด ซึ่งเป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ในการวางแผนให้ โดยจะเก็บจากเลือดสายสะดือ ซึ่งเป็นเซลล์ที่มี HLA ตรงกับทารก 100% และสามารถให้พี่น้องใช้ได้ นอกจากนี้ในปัจจุบันยังมีการเก็บเนื้อเยื่อเป็นเส้นสายสะดือรวมถึงเนื้อเยื่อหุ้มรกด้วย ซึ่งนำมาใช้ในเรื่องของการฟื้นฟูได้ดี สามารถให้คุณพ่อคุณแม่ ปูย่า ตายาย ที่เป็นญาติสายตรงใช้ได้ แต่ใน14ปีที่ผ่านมามีวิวัฒนาการก้าวหน้าขึ้น โดยผู้ใหญ่ยังสามารถเก็บสเต็มเซลล์ของตัวเองได้จากไขมัน แต่สเต็มเซลล์ที่ได้จากวัยผู้ใหญ่จะมีอายุมากกว่า เมื่อเทียบกับสเต็มเซลล์ของทารก ดังนั้น ณ เวลานี้ กล่าวได้ว่า ทุกคนสามารถใช้สเต็มเซลล์ของตัวเองเพื่อใช้ในการรักษาโรคโคหรือฟื้นฟูภาวะเสื่อม ได้ ครอบครัวในส่วน ผู้ที่เก็บสเต็มเซลล์ไว้จึงโชคดีที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ยามที่ต้องการ อย่างไรก็ดีสเต็มเซลล์ที่เก็บรักษาไว้โดยวิธีการแช่แข็งในไนโตรเจนเหลว จะไม่มีการหมดอายุ

สำหรับท่ามกลางการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบัน สเต็มเซลล์ได้มีบทบาทในการช่วยเสริมการรักษาโรคติดเชื้่อโควิด-19 ด้วยเช่นกัน โดย ดร.นพ. ศุภชัย กล่าวว่า สเต็มเซลล์สามารถมาช่วยต่อสู้กับโควิด-19 ได้ โดยมีงานศึกษาวิจัยล่าสุดจากทีมวิจัยในประเทศจีน ซึ่งศึกษาในผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรงมากและรุนแรงน้อย เปรียบเทียบระหว่างการรักษามาตรฐาน และการรักษามาตรฐาน ควบคู่กับการใช้สเต็มเซลล์ ชนิดที่เรียกว่า Mesenchymal Stem Cells (MSCs) พบว่า กลุ่มคนไข้ที่ได้รับการรักษาควบคู่สเต็มเซลล์ MSCs มีผลการรักษาดีขึ้น คนไข้สามารถออกจากโรงพยาบาลได้เร็วขึ้น

“ดร.นพ. ศุภชัย เอกวัฒนกิจ” โลหิตแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเซลล์และโลหิตวิทยา ผู้อำนวยการแพทย์ (ขวาจากรูป) พร้อมด้วย “กมลรัตน์ ศรีถวิล” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ไครโอวิวา (ประเทศไทย) จำกัด
“ดร.นพ. ศุภชัย เอกวัฒนกิจ” โลหิตแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเซลล์และโลหิตวิทยา ผู้อำนวยการแพทย์ (ขวาจากรูป) พร้อมด้วย “กมลรัตน์ ศรีถวิล” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ไครโอวิวา (ประเทศไทย) จำกัด

“การรักษามี 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการรักษาจำเพาะที่ใช้ยาเพื่อมุ่งเป้าไปทำลายเชื้อไวรัส ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนว่า มียาที่จำเพาะต่อไวรัสชนิดนี้ ส่วนที่สอง เป็นการรักษาแบบสนับสนุน ซึ่งเป็นการรักษาเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน ที่ทำให้คนไข้ต้องนอนโรงพยาบาลเป็นเวลานาน เป็นส่วนที่ทำให้ปอดทำงานไม่ได้ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งกลไกตรงนี้เป็นผลจากการตอบสนองของร่างกายที่มากเกินไป และสเต็มเซลล์ MSCs มีคุณสมบัติที่จะไปลดการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันไม่ให้มากเกินไป”

กมลรัตน์ กล่าวเสริมว่า นอกจากมีการใช้ MSCs มาช่วยลดความรุนแรงของระบบภูมิคุ้มกันแล้ว ยังช่วยในเรื่องการฟื้นฟูด้วย จากที่มีการศึกษาในประเทศอื่นๆ รวมถึงในจีน ทั้งนี้มี รายงานการวิจัยกว่า 45 ชิ้นระบุว่า มี 597 การทดลองทางคลินิกทั่วโลก ที่มีการรักษาโรคโควิด-19 ด้วยวิธี Cell and Gene therapy โดยกลไกในการทำงานของ MSCs ที่ช่วยในการรักษาโรคปอดอักเสบโควิด-19 ได้เช่น สามารถฟื้นฟูเนื้อเยื่อปอด ช่วยป้องกันการทำลายเซลล์เยื่อบุถุงลม ยับยั้งการเกิดพังผืดที่ปอดและรักษาความผิดปกติที่ปอด

ทุกคนสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ด้วยสเต็มเซลล์ที่จะช่วยดูแลสุขภาพและช่วยชะลอวัย มาร่วมดูแลสุขภาพและอนาคตของท่านและคนที่เรารักไปด้วยกัน สอบถามข้อมลเพิ่มเติมได้ที่ 02 203 6982 , 094 449 9445 www.facebook.com/cryoviva, www.cryoviva.com

12155


สสว. หนุน “สุดยอดเอสเอ็มอีจังหวัด” ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ เปิดร้านบน Lazada จัดแคมเปญพิเศษ “ช้อปของดี SME ไทย ไฟต์โควิด” สร้างรายได้ฝ่าวิกฤต

นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า ปีนี้ สสว. ได้ดำเนินโครงการเพิ่มศักยภาพในการประกอบธุรกิจ ให้กับผู้ประกอบการรายย่อย กิจกรรมพัฒนาสู่สุดยอดเอสเอ็มอีจังหวัด (SME Provincial Champions) ปี 2021 ซึ่งมีมหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยศิลปากรเป็นหน่วยร่วมดำเนินการในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ เพื่อสร้างต้นแบบธุรกิจที่มีศักยภาพให้เป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับจังหวัด และเพื่อสนับสนุนธุรกิจต้นแบบให้สามารถถ่ายทอดการจัดการองค์ความรู้ธุรกิจสู่ SME ในภูมิภาคต่อไป โดยหลายกิจกรรมในปีได้ปรับรูปแบบเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยมีเป้าหมายให้สามารถส่งเสริมรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการในช่วงวิกฤตนี้ได้ด้วย

“สสว. และหน่วยร่วมดำเนินการได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะให้กิจกรรมในโครงการสามารถสร้างประโยชน์แก่ผู้ประกอบการได้สูงสุดภายใต้ข้อจำกัดจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจกรรมด้านการตลาดซึ่งจะเป็นการสร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการ จึงได้ปรับรูปแบบกิจกรรมและเชิญชวนให้ผู้ประกอบการ SME Provincial Champions ใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เป็นช่องทางในการจำหน่ายสินค้า โดยได้รับความร่วมมือจากแพลตฟอร์มที่มีศักยภาพอย่าง Lazada เปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการได้มีร้านค้าออนไลน์ สร้างรายได้ในช่วงวิกฤตนี้ และยังได้จัดทำแคมเปญพิเศษ “ช้อปของดี SME ไทย ไฟต์โควิด” เพื่อส่งเสริมการขาย ซึ่งกำหนดจัดระหว่าง 21 สิงหาคม ไปจนถึง 20 กันยายน 2564 จึงขอเชิญชวนช่วยมากันอุดหนุนผู้ประกอบการ SME ได้ที่ lazada.co.th/sme2021 หรือผ่าน application SME Connext” ผอ.สสว. กล่าวเชิญชวน

ด้าน ดร.ธีวินท์ นฤนาท มหาวิทยาลัยศิลปากร หัวหน้าโครงการเพิ่มศักยภาพในการประกอบธุรกิจให้กับผู้ประกอบการรายย่อย กิจกรรมพัฒนาสู่สุดยอดเอสเอ็มอีจังหวัด (SME Provincial Champions) พื้นที่กรุงเทพมหานคร ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ทั้งหมด 40 จังหวัด ปี 2564 กล่าวว่า มหาวิทยาลัยศิลปากร ในฐานะหน่วยร่วมดำเนินการกล่าวว่า ถึงแม้ว่าสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 จะทำให้ต้องยกเลิกการจัดกิจกรรมหลายอย่างในโครงการ แต่กิจกรรมด้านการตลาดซึ่งจะเป็นการสร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการเป็นสิ่งที่ สสว. และ มหาวิทยาลัยศิลปากร พยายามผลักดันปรับเปลี่ยนเพื่อให้สามารถช่วยเหลือและสร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการในสถานการณ์นี้ จึงได้ร่วมมือกับ Lazada ในการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเปิดร้านค้าออนไลน์ ซึ่งนอกจากจะช่วยสร้างรายได้แล้ว ยังเป็นการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการให้สอดคล้องกับรูปแบบการขายที่ทันสมัย ทั้งยังส่งเสริมการขายด้วยแคมเปญพิเศษ “ช้อปของดี SME ไทย ไฟต์โควิด” ที่กำหนดจัดไปจนถึง 20 กันยายน 2564 นี้อีกด้วย

ขณะที่ นายวีระพงศ์ โก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นบริษัทอีคอมเมิร์ซระดับโลกที่ขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานด้วยเทคโนโลยีระดับโลกของกลุ่มอาลีบาบา กล่าวว่า การร่วมมือกับ สสว. จัดทำแคมเปญพิเศษ “ช้อปของดี SME ไทย ไฟต์โควิด” ในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการช่วยยกระดับเอสเอ็มอีทีไทยสู่การเป็นผู้ประกอบการดิจิทัล แต่ยังเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคไทยได้เข้าถึงสินค้าคุณภาพหลากรายการในราคาพิเศษถึงแม้ว่าจะต้องเก็บตัวอยู่บ้านในช่วงนี้ก็ตาม Lazada พร้อมเป็นอย่างยิ่งที่จะนำศักยภาพแพลตฟอร์มและเครือข่ายโลจิสติกส์มาใช้ในการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยและผู้บริโภคในการก้าวผ่านช่วงเวลาที่ท้าทายนี้ไปด้วยกัน

ทั้งนี้ แคมเปญ “ช้อปของดี SME ไทย ไฟต์โควิด” บนแพลตฟอร์ม Lazada จัดขึ้นระหว่าง 21 สิงหาคม - 20 กันยายน 2564 พบกับสินค้าคุณภาพดีที่ได้คัดสรรจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั่วประเทศ ให้ได้เลือกช้อปกันอย่างจุใจในราคาพิเศษ พร้อมโปรโมชั่นและโค้ดส่วนลดมากมาย โดยผู้สนใจสามารถเลือกซื้อสินค้าผ่าน lazada.co.th/sme2021 หรือผ่าน application SME Connext

12156
Room Fiberry รูมไฟเบอรี่ ดีท็อกซ์ชนิดผงชงดื่ม ดื่มง่าย ถ่ายคล่อง
 

สุขภาพดีเริ่มต้นที่.. " การขับถ่าย "ROOM FIBERRY (รูม ไฟเบอร์รี่)ตัวช่วยของคนรักสุขภาพ เติมเต็มส่วนที่ขาด กำจัดส่วนเกินกินทุกวันแต่ไม่ขับถ่ายทุกวัน ต้นเหตุของ "โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง"อาทิเช่น ท้องผูก ท้องเสีย มะเร็งลำไส้ใหญ่อ้วนลงพุง และโรคต่างๆ ที่เกี่ยวกับการดูดซึมของเสีย หรือสารพิษที่ไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ในร่างกายทำให้เซลล์ถูกทำลายจากสารอนุมูลอิสระต่างๆ
 
Room Fiberry (รูม ไฟเบอร์รี่) มีส่วนช่วยในการดีท็อกซ์ร่างกายมากถึง 5 ระบบ
- ระบบลำไส้
- ระบบตับ
- ระบบไต
- ระบบเลือด
- ระบบผิวหนัง
 
•รวบรวมสารสกัดจากผักผลไม้ถึง 36 ชนิด
• อุดมไปด้วยวิตามินและใยอาหารที่จำเป็นจากผักและผลไม้ 7 สี
• เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ 100%
• กวาดเศษปฏิกูลของเสียออกจากส่วนที่ติดค้างในลำไส้
• ดูดสารพิษและกลิ่นเน่าเหม็น
• ขับถ่ายตามเวลาภายใน 8-12 ชั่วโมง
• ช่วยให้ผิวพรรณสดใสมากขึ้น
• ช่วยให้ร่างกานผ่อนคลายและหลับสบายยิ่งขึ้น
• รสชาติมิกซ์เบอร์รี่ หอม อร่อย ทานง่าย
 
Room Fiberry“ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค”“อ่านคำเตือนในฉลากก่อนบริโภค”“ควรกินอาหารหลากหลายครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสมเป็นประจำ”ผ่านการตรวจสอบจากองค์การอาหารและยา
 
ขึ้นทะเบียน เลขที่ 13-1-01760-3-0002
 
บรรจุ 1 กล่อง / 14 ซอง
วิธีรับประทาน ชงน้ำเย็น 50-100 ml/1 ซอง ดื่มก่อนนอน วันละ 1 ซอง
 ราคา  590 บาท

สนใจติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ
Tel. 0846623662
Line id : teerapat999

ข้อมูลเพิ่มเติม   http://porntaywa99.lnwshop.com/p/1233

 
#รูมไฟเบอรี่ดีท็อกซ์กระชับสัดส่วน#ROOMFIBERRY ดูแลผิวพรรณป้องกันความอ้วน##ดีท๊อก#ดีท๊อกลำไส้ #ดีท๊อกของเสีย #วิตามิน #เพื่อสุขภาพที่ดี #ลดพุง #ถ่ายคล่อง #สินค้าดี

12157
เป็นเครื่องพิมพ์ซับที่มีระบบซอฟแวร์ที่เยี่ยมยอดจัดวางงานง่ายที่สุด

12158
ออสซี่ออยล์

12159


รายการ “ถอนหมุดข่าว” ทาง NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันที่ 30 ส.ค.64 นำเสนอรายงานพิเศษ บิ๊กดีล ปีศาลแดง โรนัลโด้ กลับรังเก่า แมนยู+เทพโด้ วิน-วิน

กลายเป็นดีลที่ตื่นตาตื่นใจที่สุดดีลหนึ่งในตลาดซื้อขายนักเตะฟุต.ลีคยุโรปรอบนี้ กับการคืนสู่เหย้า-โฮมคัมมิ่ง ของ “ซีอาร์เซเว่น” คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ย้ายจากสโมสรยูเวนตุส มหาอำนาจลูกหนังในอิตาลี กลับมาร่วมทีม “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด อีกคำรบ

หลังจากที่ซูเปอร์สตาร์ชาวโปรตุกีส เคยค้าแข้งอยู่ในถิ่นโอลด์แทรฟฟอร์ด 6 ปีระหว่างปี 2003-2009 ก่อนเมื่อ 12 ปีก่อนจะไปร่วมทัพ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริดในสเปน และยูเวนตุส ในเวลาต่อมา

มีรายงานว่า การย้ายทีมครั้งนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด จ่ายเป็นค่าฉีกสัญญาของโรนัลโด ที่มีสัญญากับยูเวนตุสอยู่ 1 ปี มูลค่า 25 ล้านยูโร หรือราว 1 พันล้านบาท

ขณะเดียวกันก็ทุ่มค่าเหนื่อยให้ “ซีอาร์เซเว่น” มากถึง 480,000 ปอนด์ ราว 21 ล้านบาทต่อสัปดาห์ แม้น้อยกว่าที่เคยรับจากสังกัดเก่ายูเวนตุส ที่ได้ค่าจ้างมากกว่า 500,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ก็ตาม แต่ก็เพียงพอที่จะสร้างสถิติค่าเหนื่อยมากที่สุดในประวัติการณ์ของพรีเมียร์ลีกอังกฤษทันที

แซงหน้า เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมคเกอร์ ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ปัจจุบันรับค่าเหนื่อยอยู่ที่ 380,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ และมากกว่า ดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตูสเปนของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่รับอยู่ที่ 375,000 ต่อสัปดาห์

แต่กว่าโรนัลโด้จะเลือกมาลงเอยแบบ “แฮปปี้เอนดิ้ง” ที่รังเก่าโอลด์แทรฟฟอร์ดก็ทำเอา “แฟนผีแดง” ทั่วโลกใจหายใจคว่ำไม่น้อย

โดยเฉพาะปฏิบัติการสายฟ้าแลบ ที่ใช้เวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง ตัดหน้าคู่ปรับร่วมเมือง และเต็งแชมป์อย่าง "เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี ที่มีข่าวกำลังปิดดีลคว้าตัวโรนัลโด

เริ่มจากก่อนหน้านี้ราว 1 สัปดาห์ ก่อนการเปิดฤดูกาลฟุต.กัลโซ่ เซเรียอา ของประเทศอิตาลี ได้เริ่มมีกระแสข่าวว่า คริสเตียโน่ โรนัลได้ ได้แจ้งต้นสังกัดยูเวนตุสว่า ต้องการย้ายออกจากทีมในตลาดซื้อขายรอบนี้ เนื่องจากไม่ได้รับการการันตีว่า ตัวเขายังอยู่ในแผนการทำทีมของ มักซี่ อัลเลกรี เฮดโค้ชคนใหม่แต่หน้าเก่าของยูเวนตุส

อีกทั้งต้นสังกัดเอง ก็มีสถานะการเงินไม่สู้ดี อาจจำเป็นต้องปล่อย โรนัลโด้ ออกจากทีม เพื่อลดต้นทุนค่าเหนื่อย

กระทั่งวันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม เกมนัดแรกที่ยูเวนตุสไปเยือนอูดิเนเซ่ ปรากฎว่า โรนัลโด้ มีชื่อเป็นแค่ตัวสำรอง แม้จะได้ลงในช่วงท้ายเกมและเกือบทำประตูชัยได้ แต่ถูก VAR ริบสกอร์ ก่อนเกมจบด้วยการเสมอ 2-2 ก็ยิ่งทำให้กระแสข่าวการขอบ้านทีมของโรนัลโด้หนาหูขึ้น

โดยมีชื่อบิ๊กทีม ทั้ง เรอัลมาดริด แห่งสเปน แมนเชสเตอร์ซิตี้ ของอังกฤษ รวมทั้ง “เปแอชเช” ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ทีมมหาเศรษฐีแห่งแดนน้ำหอม ที่กำลังสร้างตำนาน “กาลาติกอส เวอร์ชั่นฝรั่งเศส” จึงถูกจับโยงว่า อาจดึง โรนัลโด้ มาเล่นร่วมกับ ลีโอเนล เมสซี่ โคตร.แห่งยุคชาวอาเจนไตน์ และคู่ปรับตัวฉกาจของ โรนัลโด้ เองที่ย้ายมาร่วมทีมเปแอชเชก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตาม สุดท้ายเหลือเพียง แมนเชสเตอร์ซิตี้ ที่ผิดหวังจากดีล แฮรี่ เคน กองหน้าสเปอร์ส ที่ยื่นข้อเสนออย่างจริงจังต่อยูเวนตุส และเจรจาข้อตกลงส่วนตัวกับโรนัลโด้ ทำท่าจะจรดปากกาเซ็นสัญญากันอยู่รอมร่อ จนเริ่มมีดราม่า “แฟนผีแดง” ทั่วโลกออกมาเผาเสื้อสาปส่งโรนัลโด้เลยทีเดียว

แต่ระหว่างทางมีการเปิดเผยว่า สตาร์ปีศาจแดงทั้งอดีตและปัจจุบัน ริโอ เฟอร์ดินาน ปาทริส เอฟร่า บรูโน่ เฟอร์นานเดส ระดมต่อสายกล่อม โรนัลโด้ ถึงเหตุผลที่ไม่ควรย้ายไปอยู่กับอริร่วมเมืองอย่างแมนเชสเตอร์ซิตี้

และสายที่สำคัญที่สุดไม่พ้น เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตกุนซือระดับตำนานของปีศาจแดง ที่เสมือนผู้ปลุกปั้น โรนัลโด้ จนมาเป็นซูเปอร์สตาร์ในวันนี้

คู่ขนานไปกับทีมบริหารที่เปิดปฏิบัติการชิงตัว โรนัลโด้ แบบแพ้ไม่ได้ เพื่อขัดขวางไม่ให้อริร่วมเมืองสมหวัง

ที่สุดจะด้วยความผูกพันธ์ เสียงหว่านล้อมจากเพื่อนพ้อง หรือค่าเหนื่อยที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเสนอให้มากกว่าคู่แข่ง โรนัลโด้ ก็ตัดสินใจกลับคืนรังโอลแทรฟฟอร์ด

ต้องนับว่าดีล “ซีอาร์เซเว่น โฮมคัมมิ่ง” ครั้งนี้เป็นจังหวะที่ลงตัว ทั้งต่อทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเอง ที่ต้องการฟื้นศรัทธาจากแฟน. และหวังกอบกู้ผลงานของทีม หลังไม่เคยประสบความสำเร็จ และตกต่ำลงเรื่อยๆ เมื่อพ้นยุคของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

อีกทั้งเจ้าของทีมอย่าง “ตระกูลเกลเซอร์” ก็ต้องการซื้อใจแฟน. ที่ไม่พอใจตระกูลเกลเซอร์ในหลายเรื่อง และหากปล่อยให้ โรนัลโด้ ที่ถือเป็น “ไอคอน” สัญลักษณ์ของทีมไปอยู่กับคู่ปรับร่วมเมือง แม้ถือสิทธิ์เป็น “เจ้าของทีม” ก็เดินไม่สะดวกในเมืองแมนเชสเตอร์

อีกทั้งฤดูกาลนี้ทีมปีศาจแดง มีการเสริมทัพที่ดี ได้ตัว ราฟาเอล วาราน กองหลังระดับโลกจากเรอัล มาดริด เจดอน ซานโซ่ ปีกดาวรุ่งฟอร์มแรง รวมทั้งขุมกำลังคุณภาพเดิม มาร์คัส แรดฟอร์ด พอล ป๊อกบา หรือบรูโน่ เฟอร์นานเดส ที่ทำผลงานน่าพอใจเป็นถึงรองแชมป์พรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว จึงไม่พ้นถูกยกให้เป็นผู้ท้าชิงแชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษอย่างเต็มตัว

ไม่แปลกที่แฟน.จะคาดหวังว่า ทีมรักจะหวนคืนบัลลังค์แชมป์ลีกสูงสุดของประเทศได้เสียที จากที่ห่างหายมาตั้งแต่ฤดูกาล 2013

หรืออย่างน้อยในแง่ธุรกิจก็มีแนวโน้มประสบความสำเร็จแต่ต้น เมื่อหุ้นของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดทะยานขึ้นกว่า 10% หลังปิดดีล โรนัลโด้ ได้ ไม่นับรวมรายได้จากการขายเสื้อ ของที่ระลึก ที่เชื่อว่าจะได้รับความนิยมอย่างสูง

ขณะเดียวกันก็เป็นจังหวะที่ลงตัวของ โรนัลโด้ เองเช่นกัน ปีนี้สตาร์โปรตุกีสอายุครบ 36 ปี หากเป็นนักฟุต.ทั่วไปอาจถือว่าอยู่ในช่วงปลายอาชีพค้าแข้ง แต่ไม่ใช่กับ “ซีอาร์เซเว่น” เพราะเจ้าตัวยังอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยม

ไม่ว่าจะผลงานดาวซัลโวของกัลโช่ เซเรียอา ปีก่อนด้วยจำนวน 29 ประตู และล่าสุดคว้าดาวซัลโวของยูโร 2020 การันตีนักเตะดีกรีบัลลังดอร์ 5 สมัย ได้เป็นอย่างดี

การกลับมาร่วมทัพปีศาจแดง ที่วันนี้ขุมกำลังคุณภาพคับแก้ว ก็เป็นโอกาสสานตำนานความสำเร็จกับต้นสังกัด อย่างน้อยๆใน 2 ปีนี้ตามสัญญาที่มีกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่ดูแล้วสภาพร่างกายของ โรนัลโด้ ยังยืนระยะในระดับท็อปได้สบายๆ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัจจุบัน โรนัลโด้ ปรับบทบาทตัวเองขึ้นไปเล่นกองหน้าตัวผลิตสกอร์มากขึ้น เมื่อมีตัวป้อน.ชั้นดีอย่าง พอล ป๊อกบา หรือ บรูโน่ เฟอร์นานเดส ก็ยิ่งเป็นปัจจัยเอื้อต่อการเล่นของ โรนัลโด้ อย่างแน่นอน

เส้นทางการกลับมาสานต่อ “ตำนานปีศาจแดง” ดูจะสวยหรูไม่น้อย หากจะสรุปดีล “ซีอาร์เซเว่น คัมมิ่งโฮม” ว่า “วิน-วิน” ทั้งค่ายและตัวนักเตะ ตั้งแต่ตอนนี้ก็คงไม่ผิด.

12160
หม้อแปลง หม้อแปลงไฟฟ้า

12161
ขายบ้านที่ดิน ขายบ้าน ขายที่ดิน ลงประกาศฟรี

12162


สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และไอคอนสยาม พร้อมเปิดให้บริการ ย้ำความมั่นใจสูงสุดเคร่งครัดมาตรการป้องกันและควบคุมโรคมาตรฐานเข้มข้นคัดกรองพนักงานฉีดวัคซีน 100% ก่อนเข้าปฏิบัติงาน

ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) มีมติผ่อนคลายอนุญาตให้เปิดกิจการ กิจกรรมเพิ่มเติม ตามความพร้อมและความจำเป็น เพื่อให้ประชาชนสามารถดำเนินชีวิตได้ใกล้เคียงกับปกติมากที่สุดนั้น ศูนย์การค้ากลุ่มวันสยาม ซึ่งประกอบด้วย สยามพารากอนสยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และไอคอนสยาม ร่วมกับบรรดาร้านค้าภายในศูนย์การค้า มีความพร้อมในการเปิดให้บริการภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมโรคอย่างเข้มงวดและมาตรฐานคัดกรองพนักงานเข้มข้น ก่อนเข้าปฏิบัติงาน เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ทั้งผู้ประกอบการ ร้านค้า พนักงาน และลูกค้าทุกคน พร้อมให้การต้อนรับลูกค้าด้วยคอนเซ็ทป์ “ONE SMILE FORWARD สยามยิ้มสู้ไปด้วยกัน” ก้าวสู่ชีวิตวิถีใหม่ไปพร้อมกัน โดยเมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา นางมาศวัลย์ ปิ่นสุวรรณ ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน และคณะ เดินทางมาร่วมตรวจความพร้อมก่อนเปิดให้บริการ ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ด้วย



ยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และ ไอคอนสยาม ได้ตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องของมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 และได้ใช้มาตรการเชิงรุกเฝ้าระวังขั้นสูงสุดทั้งส่วนให้บริการลูกค้าและพนักงาน รวมทั้งปฏิบัติตามมาตรฐานของกรมควบคุมโรคและกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอดนับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี 2563 ที่ผ่านมา อีกทั้งเพื่อเตรียมพร้อมในการเปิดให้บริการในครั้งนี้ บริษัทฯ ได้ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามแนวทางมาตรการป้องกันและควบคุมโรคอย่างเข้มงวดสูงสุด และมีมาตรฐานเข้มข้นของการคัดกรองพนักงานก่อนเข้าปฏิบัติงาน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนที่มาใช้บริการ

นางสาวนราทิพย์ รัตตประดิษฐ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานปฏิบัติการ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า “สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และไอคอนสยาม มีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งด้วยมาตรการความปลอดภัยอย่างสูงสุด 360 องศา ซึ่งสอดคล้องกับ

แนวปฏิบัติของมาตรการองค์กรของ ศบค. เพื่อลดความเสี่ยงในการเผยแพร่โรคสำหรับการเปิดกิจการ/จัดกิจกรรมได้อย่างปลอดภัยและยั่งยืน ด้วย COVID-Free Setting Protocol เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพนักงาน ร้านค้า และผู้ใช้บริการ อาทิ มาตรการเข้มข้นคัดกรองพนักงานก่อนเข้าปฏิบัติงาน ได้แก่ กำหนดให้พนักงานทุกคนจะต้องได้รับวัคซีน, การตรวจคัดกรองด้วย Antigen Test Kit, Platform Thai Safe Thai, พนักงานต้องใส่หน้ากากและปฏิบัติตาม D-M-H-T-T อย่างเคร่งครัด, ร้านค้าประเมินมาตรฐาน Thai Stop Covid+ กรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุข



ทั้งนี้ยังคงให้ความสำคัญการเตรียมความพร้อมระบบสาธารณูปโภคต่างๆ อาทิ การทำความสะอาดระบบปรับอากาศ การหมุนเวียนอากาศภายในศูนย์ และระบบคุณภาพน้ำ รวมถึงมาตรการเชิงรุกในการทำความสะอาดแบบ Big Cleaning โดยฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคภายในพื้นที่ส่วนกลางและร้านค้า การทำความสะอาดจุดสัมผัสต่างๆ
ในศูนย์การค้าทุก 30 นาที, การทำความสะอาดฆ่าเชื้อบัตรจอดรถ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของพนักงานและผู้มาใช้บริการ

อีกทั้งติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกที่ไร้สัมผัสบริการลูกค้าภายในอาคาร (Touchless Building Facilities)
อาทิ ระบบจัดการเข้าออกที่จอดรถอัตโนมัติโดยไม่ต้องรับบัตรจอดรถ, ตู้รับชำระเงินค่าที่จอดรถอัตโนมัติ สำหรับรองรับลูกค้าที่ไม่ต้องการชำระเงินและรับทอนเงินที่ตู้เก็บเงินบริเวณทางออกอาคาร, เครื่องจ่ายเจลแอลกอฮอล์ อัตโนมัติภายในอาคารและลิฟท์, ติดตั้งก๊อกน้ำล้างมือ/โถปัสสาวะ/ เครื่องจ่ายโฟมล้างมือ เป็นระบบ Sensor เป็นต้น

“บริษัทยินดีที่จะปฏิบัติตามมาตรการของ ศบค. ที่ประกาศอย่างเคร่งครัดเต็มที่เพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูงสุดที่สร้างความเชื่อมั่นในทุกย่างก้าวของการใช้บริการ และขอเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยภาครัฐฯ ส่งเสริมให้คนไทยปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ประเทศของเราผ่านพ้นวิกฤติไปได้ด้วยกัน” นางสาวนราทิพย์ กล่าว



สยามพิวรรธน์ มั่นใจว่า ทั้ง ศูนย์การค้ากลุ่มวันสยาม ซึ่งผนึกกำลัง 3 ศูนย์การค้า ได้แก่ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และไอคอนสยาม มีความพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะให้บริการด้วยมาตรการสุขอนามัยและความปลอดภัยในทุกมิติอย่างสูงสุด มอบความสุขและนำรอยยิ้มสยามกลับคืนสู่ทุกคนอีกครั้ง โดยในการเปิดให้บริการตามมาตรการภาครัฐในครั้งนี้ วันสยามและไอคอนสยาม ได้มีจัดเตรียมความพร้อมของพนักงานในทุกส่วน ร้านค้า สถานที่ สินค้าและบริการ ภายใต้คอนเซ็ปท์ “ONE SMILE FORWARD สยามยิ้มสู้ไปด้วยกัน” เพื่อพร้อมมอบประสบการณ์ความสุข คืนยิ้มสยามให้กับคนไทยทุกคนอย่างต่อเนื่องนับจากนี้ต่อไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สยามพารากอน โทร.02-610-8000 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ไอคอนสยาม โทร.1338

โดยไอคอนสยามจะเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 11.00 - 20.00 น. ส่วนสยามพารากอน
สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ เปิดบริการวันจันทร์ -ศุกร์ เวลา 11.00 - 20.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00 – 20.00 น. (สำหรับซูเปอร์มาเก็ตเปิดให้บริการ ทุกวัน เวลา 10.00 – 20.00 น.)

หน้า: 1 ... 809 810 [811] 812 813 ... 996