͸Ժ

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - fairya

หน้า: 1 ... 593 594 [595] 596 597 ... 827
8911

ราล์ฟ รังนิก ผู้จัดการทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ออกปากพึงพอใจที่นักเตะแก้ตัวได้จากเกมแพ้ วูล์ฟส์ ในศึก พรีเมียร์ลีก ด้วยการสยบ แอสตัน วิลล่า 1-0 ทะลุเข้ารอบสี่ศึก เอฟเอคัพ ได้สำเร็จจากการลงเล่นที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อวันจันทร์ที่ 10 ม.ค.
    นายใหญ่ ผีแดง ระบุว่าเป็นเรื่องดีที่ทีมคว้าคลีนชีตได้ แม้ลงเอยแล้วจะเอาชนะ สิงห์ผงาด ได้แค่ประตูเดียวเท่านั้น และต้องอาศัยความเหนียวของ ดาบิด เด เคอา ช่วยไว้อีกตามเคย

    "ผมคิดว่าเราแสดงปฏิกริยาให้เห็นหลังจากเกมกับ วูล์ฟส์ มันเป็นสิ่งที่ทุกคนคาดหวังจากเรา เรารู้ว่ามันจะเป็นเกมที่ยากกับ วิลล่า ครึ่งแรกผมคิดว่าเราเล่นได้ดี มันน่าจะเป็นสกอร์ 3-2 หรือ 4-3 ในครึ่งแรก"

    "ครึ่งหลังเราเล่นเกมโต้กลับ และเราน่าจะได้ประตูมากขึ้น เราตัดสินใจกันผิดพลาดหลายหน แต่เมื่อเราเปลี่ยนระบบเป็นไดมอนด์ในแดนกลาง เราก็คอนโทรลเกมได้"

    "ช่วง 20 นาทีสุดท้าย เราคอนโทรลเกมได้มากขึ้น เราสู้กันเป็นทีมได้ดี และมันเป็นสิ่งสำคัญ สุดท้ายแล้วมันเป็นชัยชนะที่ดี มันเป็นเป้าหมายของเราที่จะผ่านเข้ารอบต่อไป"

    "สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ เป็นเด็กอะคาเดมี่ เขามีพละกำลังที่น่าทึ่ง ตอนนี้เขาเริ่มยิงประตูได้เช่นกัน และยังมีทักษะเป็นผู้นำด้วย ผมไม่แปลกใจเลยหากเขาจะเป็นกัปตันทีมในอีกสองปีข้างหน้า"

    "เราต้องพัฒนาทีมให้มีผลงานคลีนชีต และเราทำได้อีกเกมในวันนี้ แต่ถึงอย่างนั้น ดาบิด เด เคอา ยังโดดเด่นเช่นเคยสำหรับผม ผมอยากให้เขาเซฟน้อยกว่านี้ ผมคิดว่าเราถูกยิงเข้ากรอบสี่หรือห้าครั้ง แต่เป็นอีกเรื่องที่เรายังต้องปรับปรุงในจุดนี้"

    "เราดู วีเออาร์ แล้วสำหรับประตูของ วิลล่า และสำหรับผมมันเคลียร์ดี นักเตะของพวกเขาซึ่งเข้ามาบล็อค เอดิสัน คาวานี่ ล้ำหน้าตอนที่.ลอยเข้าไป"

    "ใช่ เรายังเล่นกันได้ไม่เพอร์เฟ็ค ไม่มีใครเชื่อหากเราจะพูดแบบนั้น เรายังขาดบางอย่างที่จะทำให้เราเล่นกันได้ดีขึ้น แต่คลีนชีตเป็นเรื่องสำคัญในวันนี้ และเราทำงานร่วมกันได้ดี ถึงยังไงเราก็ยังต้องพัฒนาอีกมาก แต่มันง่ายขึ้นที่จะพัฒนาหลังจากเราชนะ 1-0"

8913
SABUY ผ่ามูลค่าพีอีทะลุร้อยเท่า ซื้ออนาคต 'สบาย' แค่ไหน ??

ติดอันดับหุ้นร้อนแรงเป็นอันดับต้น ๆ ของตลาดหุ้นไทยสำหรับหุ้นของ บมจ.สบาย เทคโนโลยี (SABUY) นับตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai วันแรกในวันที่ 11 พ.ย.63 ด้วยราคาไอพีโอ 2.50 บาท/หุ้น ก่อนจะเปิดฉากไล่ราคาเข้าสู่ขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสามารถทะยานทุบจุดสูงสุดใหม่ในวันสุดท้ายของปี 64 (30 ธ.ค.64) ที่ระดับ 24.90 บาท/หุ้น สร้างรีเทิร์นจากส่วนต่างของราคาเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับราคาไอพีโอเกือบ 900% ภายในช่วงเวลาเพียง 1 ปีเศษ

ในช่วงเริ่มต้นของการเข้ามาเป็นบริษัทในตลาดหุ้นไทยจะเรียกความสนใจจากผู้ลงทุนรายย่อยด้วยชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่เป็นนักลงทุนรายใหญ่เซียนหุ้นชื่อดังอย่าง 'วิชัย วชิรพงศ์' หรือเสี่ยยักษ์ แม้ว่าวันนี้กลับไร้ชื่อของ 'เสี่ยยักษ์' แต่ราคาหุ้นของ SABUY ยังคงได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง ตามแผนกลยุทธ์ขยายอาณาจักร SABUY Ecosystem ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งอีกหลายราย

นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SABUY เปิดเผยกับ 'อินโฟเควสท์'ว่า ถ้านิยามธุรกิจของ SABUY คือ Ecosystem สิ่งที่ SABUY มุ่งทำ คือธุรกิจใหม่ที่คำนึงถึงความคุ้มค่า และต้องปกป้องผู้ถือหุ้น ปกป้อง Stakeholder ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า คู่ค้า และพนักงาน อันนี้คือสิ่งที่เรายึดมั่น และในอนาคตจะสร้าง Ecosystem ที่ไม่ผูกขาด เพราะแบ่งหมดทุกคน ดังนั้น Ecosystem ที่แบ่งหมดทุกคนจะมีคนวิ่งเข้ามาหาโอกาส และทุกคนอยากใส่โอกาสเข้ามา

'วันนี้หุ้นของเราเทรด P/E 100 เท่า มาตั้งแต่ราคา 7-8 บาท เพราะว่า Earning เราโต เรามองว่าการที่นักลงทุนเชื่อมั่นที่จะให้ PE เรา มาจาก 3 องค์ประกอบ 1.โอกาสในการเติบโตรายได้ เราอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูง 2.การควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่ง 3 ปีที่ผ่านมา เราพิสูจน์แล้วว่าเราทำได้ดี เราทำให้เกิด Economic of Scale 3.ตั้งแต่เข้าตลาดมา ผมยังไม่เคยขายหุ้นสักหุ้นเลย' นายชูเกียรติ กล่าว
*ถอดรหัส 4 เสาหลัก SABUY Ecosystem เพิ่มมูลค่ากิจการ

นายชูเกียรติ ให้สัมภาษณ์กับ 'อินโฟเควสท์' ว่า SABUY ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปี 63 ด้วยจุดประสงค์มุ่งสู่การเป็นบริษัทเทคโนโลยี ที่ใช้ง่าย ใช้สบาย และเข้าถึงมหาชน ด้วยการสร้าง SABUY Ecosystem เพื่อให้บริการหลายรูปแบบแก่ผู้บริโภค ประกอบด้วย 4 ธุรกิจหลัก อย่างธุรกิจตู้เติมเงินอัตโนมัติ (Payments) โดยให้บริการผ่านตู้เติมเงินอัตโนมัติ 'เติมสบายพลัส' ที่สามารถทำได้ทั้งการชำระค่าบริการ การเติมเงิน การรับฝากและโอนเงิน มุ่งตอบสนองความต้องการของคนไทยกลุ่มที่ยังไม่สามารถเข้าถึงระบบธนาคารอิเล็กทรอนิกส์ ปัจจุบันพร้อมให้บริการมากกว่า 57,000 ตู้ทั่วประเทศ

*มุ่งเป้าสู่เบอร์หนึ่ง Vending Machine ภายในปี 65

ต่อมาคือธุรกิจตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (Merchandising) มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเป็นช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้บริโภคได้รอบด้าน ทั้งเครื่องดื่ม ขนมขบเคี้ยว อาหารสำเร็จรูป หน้ากากอนามัย หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

และจากการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับ FSMART ในเดือน พ.ย.64 ที่ผ่านมา ความร่วมมือในครั้งนี้จะส่งผลให้บริษัทมีตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติให้บริการมากกว่า 10,000 ตู้ และขยายจุดให้บริการมากกว่า 21 จังหวัด ช่วยเพิ่มศักยภาพการให้บริการและการแข่งขันของ SABUY ให้มีโอกาสก้าวเป็นเบอร์หนึ่งของอุตสาหกรรมตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (Vending Machine) ในปี 65

และธุรกิจ Solutions & Platforms เช่น การเป็นผู้ให้บริการติดตั้งและวางระบบศูนย์อาหารแบบครบวงจร หรือการเป็นผู้ให้บริการระบบจัดการร้านค้าครบวงจร (POS) และในช่วง เม.ย.64 SABUY ได้เข้าลงทุนใน บริษัท เอ.ที.พี.เฟรนด์ เซอร์วิส จำกัด (Shipsmile) เพื่อขยายธุรกิจการเป็นตัวแทนจำหน่ายแฟรนไชส์จุดรวบรวมการขนส่งพัสดุภายในประเทศจากบริษัทขนส่งชั้นนำ เช่น Flash, Kerry, Thaipost เป็นต้น นอกจากนี้ Shipsmile ยังเป็นตัวแทนการขายประกันภัย พ.ร.บ. ภาษี จุดบริการเคาน์เตอร์เซอร์วิส ชำระบิล จำหน่ายกล่องพัสดุไปรษณีย์ และศูนย์ถ่ายเอกสารครบวงจร ปัจจุบัน Shipsmile มีมากกว่า 4,000 สาขาพร้อมให้บริการทั่วประเทศ

นอกจากนี้ยังมีธุรกิจการเงิน-บริการชำระเงิน (Financial Services) ให้บริการธุรกิจด้านประกันภัยหลายประเภท ทั้งประกันอุบัติเหตุ ประกันสุขภาพ ประกันอัคคีภัย เป็นต้น ประกอบกับยังมีธุรกิจด้านสินเชื่อพร้อมให้บริการลูกค้า และด้วยฐานข้อมูลลูกค้าที่แข็งแกร่งของ SABUY จะส่งผลให้ธุรกิจ Financial Services สามารถให้บริการได้อย่างครอบคลุม

'เราตั้งใจว่า เราจะเป็นเหมือนหน้าร้านให้กับพาร์ทเนอร์ของเรา ผ่านการเดินหน้าขยาย SABUY Ecosystem อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พาร์ทเนอร์ของเราสามารถเข้าถึงข้อมูลลูกค้ากว่า 50 ล้านรายที่เรามี ตอนนี้เรามีธุรกิจหลัก 4 ด้านอย่าง Payment, Merchandising, Solutions & Platforms และ Financial Services ซึ่งทุกธุรกิจ ได้สร้างความแข็งแกร่งให้กับเรา และทำให้เราสามารถรับมือกับความเสี่ยงต่าง ๆ ได้มากขึ้น' นายชูเกียรติ กล่าว
*ทุ่มงบหลักพันล้านรุกตู้ ATM 1 หมื่นจุดหน้าร้าน 7-11

นายชูเกียรติ กล่าวต่อว่า บริษัทมีแผนการขยายธุรกิจใหม่ผ่านบริษัท แพลท ฟินเซิร์ฟ จำกัด (PFS) ที่ถือหุ้นในสัดส่วน 50% โดย PFS ได้สิทธิติดตั้งตู้ ATM จำนวน 10,000 ตู้หน้าร้านสะดวกซื้อ 7-11 ทั่วประเทศเป็นเวลา 10 ปี และจะให้บริการเคาน์เตอร์เซอร์วิสผ่านตู้ ATM แทนบริการด้วยพนักงาน คาดว่าเริ่มติดตั้งได้ 100 สาขาแรกในช่วงสิ้นปี 64 นี้ ก่อนจะเดินหน้าติดตั้ง 500 สาขาต่อเดือน และคาดว่าจะติดตั้งครบทุกสาขาในเดือน ก.พ. 66

'เราศึกษาธุรกิจนี้มาสักระยะหนึ่งแล้ว ใช้งบลงทุนไปประมาณ 1,130 ล้านบาท แม้ว่าจะเป็นเงินจำนวนมาก แต่สิ่งที่เราจะได้กลับมา คือเราได้เรียนรู้การติดตั้งและระบบการทำงานของตู้ ATM รวมไปถึงการเชื่อมระบบจากตู้ ATM ไปยังระบบธนาคาร ซึ่งเราสามารถนำข้อมูลตรงนี้มาพัฒนา loT Solution ให้เหมาะสมกับ SABUY Ecosystem

และในอนาคตสามารถนำโมเดลธุรกิจนี้ ขยายไปยังร้านสะดวกซื้อหรือไฮเปอร์มาร์เก็ตแบรนด์อื่น หรืออาจจะต่อยอดรวมตู้ ATM ของธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ เข้าด้วยกันเพียงตู้เดียว หรืออาจจะร่วมมือกับพาร์ทเนอร์พัฒนาเครื่องแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศก็ได้'นายชูเกียรติ กล่าว

สำหรับงบลงทุนปี 65 คาดว่าจะใช้เงินลงทุนหลายพันล้านบาท เนื่องจากจะมีกระแสเงินสดเข้ามาจากการเพิ่มทุนในรอบล่าสุด จะส่งผลให้อัตราหนี้สินต่อทุนเหลือ 0.8 เท่า ซึ่งปัจจุบันฐานทุนของเรามี 3-4 พันล้านบาท มีศักยภาพในการขอสินเชื่อกับธนาคารได้ถึง 2 เท่าของฐานทุน และกรณีมีดีลร่วมมือกับพันธมิตรอาจจะใช้รูปแบบในการแลกหุ้นกันเพื่อสร้างประโยชน์ร่วมกันในอนาคต ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนของบริษัท

*ผลงานปี 65 ลุ้นโตเกิน 50% เดินหน้าศึกษาซื้อกิจการต่อยอดธุรกิจ

สำหรับภาพรวมผลประกอบการปี 65 บริษัทตั้งเป้ารายได้จะสามารถเติบโตไม่ต่ำกว่า 50% จากการเติบโตของทั้ง 4 ธุรกิจหลัก และหากรายได้ของบริษัทเติบโต กำไรจะเติบโตตามไปด้วย ตามแผนการควบคุมค่าใช้จ่ายของบริษัทที่มีประสิทธิภาพ อย่างในช่วงปี 63 ที่เผชิญสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 บริษัทก็สามารถทำกำไรสุทธิได้ที่ 102 ล้านบาท

รวมไปถึงในปี 65 บริษัทตั้งเป้าหมายการนำข้อมูลลูกค้าทั้งหมด 50 ล้านราย มาจัดเรียงและวิเคราะห์อย่างเป็นระบบเพื่อให้ลูกค้าได้รับสินค้าและบริการที่ตรงกับความต้องการอย่างตรงจุด รวมไปถึงพาร์ทเนอร์ของบริษัทก็จะมีช่องทางที่สามารถเข้าถึงลูกค้าได้อย่างสะดวกมากขึ้น ส่งผลให้ลูกค้าจะได้รับสินค้าและบริการในราคาที่เหมาะสม

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาดีล M&A ในธุรกิจ Payments กับพาร์ทเนอร์รายใหญ่อีก 4 ราย แต่ละรายมีฐานลูกค้าประมาณ 5-20 ล้านคน คาดว่าจะทยอยเห็นความชัดเจนต่อเนื่องในปี 65 ช่วยเสริมฐานลูกค้าให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น สำหรับธุรกิจ Merchandising วางแผนจะเพิ่มไลน์สินค้าใหม่ รวมถึงเพิ่มพาร์ทเนอร์เข้าไปในระบบ SABUY Ecosystem ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคุลมในหลายมิติ

ด้านธุรกิจ Solutions & Platforms มีแผนจะลงทุนในธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการระบบ และก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมใหม่ ๆ อีกประมาณ 2-3 อุตสาหกรรม เพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น อีกทั้งธุรกิจลิสซิ่งและธุรกิจประกันภัย ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาพาร์ทเนอร์เพื่อเข้าซื้อกิจการและร่วมลงทุนเพิ่มเติมอีกด้วย

นอกจากนี้ SABUY วางแผนจะลงทุนในบริษัท Tech Startups หรือการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี ซึ่งบริษัทมองหาพาร์ทเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญและมีทิศทางที่ชัดเจน เพื่อสนับสนุนแนวคิดหรือสินค้าที่มีความน่าสนใจ สร้างการเติบโตร่วมกันอย่างแข็งแกร่ง

8914
ภาวะตลาดหุ้นออสเตรเลีย: S&P/ASX 200 ปิดลบ 6.20 จุด วิตกออสซี่ติดโควิดทะลุ 1 ล้านราย

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดลบในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในออสเตรเลีย หลังมีรายงานว่ายอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในออสเตรเลียพุ่งทะลุ 1 ล้านรายแล้วในวันนี้

ดัชนี S&P/ASX 200 ปิดที่ 7,447.10 จุด ลดลง 6.20 จุด หรือ -0.083% และดัชนี All Ordinaries ปิดที่ 7,766.10 จุด ลดลง 8.30 จุด หรือ -0.11%

ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในออสเตรเลียพุ่งทะลุ 1 ล้านรายแล้วในวันนี้ (10 ม.ค.) เนื่องจากเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนได้แพร่ระบาดไปทั่วประเทศ ซึ่งส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น และกดดันให้เจ้าหน้าที่รัฐต้องหวนกลับมาบังคับใช้มาตรการสกัดโควิดที่เข้มงวดในบางพื้นที่

รัฐนิวเซาท์เวลส์และวิกตอเรียรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นราว 55,000 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อทั่วประเทศอยู่ที่ 1.03 ล้านราย นับตั้งแต่ที่พบการระบาดเป็นครั้งแรกเมื่อเกือบ 2 ปีที่แล้ว

ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงเกือบ 1% เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ทั้งนี้ หุ้น Afterpay ร่วงลง 2.3% หุ้น Xero ดิ่งลง 2.8% และหุ้น Wisetech Global ร่วงลง 2.7%

 

8915
บัวเชิงผนัง บัวพีวีซี บัวพื้น ราคาถูกและได้คุณภาพ ส่งตรงจากโรงงาน

บัวพื้น หรือ บัวเชิงผนัง ก็คืออุปกรณ์ที่ใช้ไว้สำหรับปิดขอบพื้น ที่เป็นรอยไม่สวยงาม ใช้ติดตั้งเพื่อความสวยงามเป็นระเบียบ ปิดรอยต่อชนระหว่างผนังกับพื้น และป้องกันรอยสกปรกต่างๆ ใช้เป็นตัวจบงานหรือกำหนดขอบเขตของแต่ละส่วน อย่างที่บอกว่าข้างต้นแหละครับ บัวเชิงผนัง หรือบางคนอาจจะคุ้นหูกับการเรียกว่า บัวเชิงผนังพีวีซี ความหมายตรงตัวอยู่แล้วก็คือบัวเชิงผนังที่ถูกผลิตมาจาก PVC นั้นเอง มีความแข็งแรงและทนทานมาก ทนทานทั้งแรงกระแทกจากการติดตั้งและยังกันน้ำอีกต่างหาก รวมถึงกันปลวกที่จะมาเกาะกินตัววัสดุด้วยเช่นกัน บัวเชิงผนัง ถูกผลิตขึ้นจากวัสดุอย่างดี พีวีซี ที่นำมาผลิตนั้นมีคุณภาพเกรด A
ซึ่งจะต่างกับ พีวีซี รีไซเคิลโดยชัดเจน เราจะสังเกตุได้จากตัวชิ้นงานจะมีความแข็งแรงและทนทานมาก บัวเชิงผนังที่ทางเราจำหน่ายนั้นมีหลายขนาดมากตั้งแต่ 2′ , 3′ , 3.8′ และ 4′ ความยาวจะอยู่ที่ 2.4เมตร – 3เมตร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่ว่าลูกค้าต้องการขนาดความยาวเท่าไหร่ และที่ขาดไม่ได้เลยคือพื้นผิวหรือลวดลายของบัวเชิงผนังที่ทางโรงงานมีหลายแบบหลายลายให้ลูกค้าได้เลือกสรรค์

ติดต่อ : 
Email : info@cctgroup.co.th
เบอร์โทรศัพท์ : 0816428556-7
Line ID : Lakkana99
Website : https://www.cctgroup.co.th 

8916
www.รถมือสองเจ้าของขายเอง.com


8917
5.7 ล้าน
ภาคภูมิ นิติธรรม
094.639.6362
094.426.6355
Line id: poompreme 

ขายบ้าน ทาวน์เฮ้าส์ หมู่บ้านกลางเมือง โชคชัย 4 ถนนโชคชัย 4 ลาดพร้าว มีรถไฟฟ้า


บ้านตั้งอยู่บนที่ดิน 22 ตารางวา

พื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน 160 ตารางเมตร

3 ชั้น 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ

หมู่บ้านกลางเมือง โชคชัย 4 ติดกองปราบ ถนนโชคชัย4 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพ 10230

แอร์ 5ตัว  จอดรถได้หน้าบ้าน 1 คัน

สถานที่ใกล้เคียง
7-11 Mini BigC  แบงค์กรุงไทย แบงค์กรุงเทพ  มีรถไฟฟ้า ปากซอยโชคชัย 4

ภาคภูมิ นิติธรรม
0946396362
0944266355

Line id: poompreme 

https://www.livingjoin.com/item/248168.html























8918

คณะผู้เชี่ยวชาญจากองค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ B.1.640 ซึ่ง WHO กำลังเฝ้าติดตามนั้น ไม่ได้แพร่ระบาดเป็นวงกว้างในขณะนี้ และปัจจุบันพบไม่ถึง 1% ของตัวอย่างที่จัดลำดับพันธุกรรมในฝรั่งเศส

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์ดังกล่าว มีอีกชื่อเรียกว่า "ไอเอชยู" (IHU) เนื่องจากถูกพบครั้งแรกโดยคณะนักวิชาการจากสถาบันการติดเชื้อเมดิเตอร์เรเนียนไอเอชยู (IHU Mediterranee Infection) ในเมืองมาร์แซย์ของฝรั่งเศส

มาเรีย ฟาน เคิร์คโฮฟ หัวหน้าฝ่ายเทคนิคของโครงการภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพขององค์การฯ แถลงข่าวว่าเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์ B.1.640 ถูกพบครั้งแรกในหลายประเทศเมื่อเดือนกันยายน 2564 โดยหลังจากการอภิปรายภายใน องค์การฯ ได้จัดประเภทเชื้อไวรัสฯ ดังกล่าวเป็นสายพันธุ์ที่อยู่ภายใต้การเฝ้าติดตาม (VUM) ในเดือนพฤศจิกายน 2564

คำจำกัดความขององค์การฯ ระบุว่าเชื้อไวรัสฯ ที่อยู่ภายใต้การเฝ้าติดตาม คือเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (Sars-CoV-2) ที่มีการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมอันน่าสงสัยว่าจะส่งผลกระทบต่อลักษณะของไวรัส ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงในอนาคต ทว่าหลักฐานของผลกระทบทางลักษณะที่สามารถมองเห็นได้หรือทางระบาดวิทยายังไม่ชัดเจน จึงต้องยกระดับการเฝ้าติดตามและประเมินซ้ำขณะรอหลักฐานใหม่

ฟาน เคิร์คโฮฟ อธิบายว่าเนื่องจากเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์ B.1.640 มีการกลายพันธุ์หลายจุด องค์การฯ จึงจัดให้เป็นสายพันธุ์ที่อยู่ภายใต้การเฝ้าติดตาม เพื่อเพิ่มความตระหนักของสาธารณชน พร้อมย้ำว่าวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในปัจจุบันสามารถป้องกันเชื้อไวรัสฯ ทุกสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดอยู่ และมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันอาการรุนแรงและการเสียชีวิต

"ฉันคิดว่าการฉีดวัคซีนเป็นสิ่งสำคัญมากที่สาธารณชนจะต้องรู้ เมื่อถึงคิวคุณแล้ว ให้ฉีดวัคซีนเพราะมันสำคัญมาก" เคิร์คโฮฟกล่าว
แคทเธอรีน โอไบรอัน ผู้อำนวยการแผนกภูมิคุ้มกัน วัคซีน และชีววิทยาขององค์การฯ กล่าวว่าเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์ B.1.640 ไม่ใช่สายพันธุ์ที่มีความชุกมากขึ้น แต่เป็นเพียงส่วนน้อยของสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดอยู่

8919

ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า รัฐบาลได้ลงนามในข้อตกลงฉบับแรกในการซื้อชุดตรวจแอนติเจน (Antigen Test Kit) หรือ ATK เพื่อจัดส่งให้แก่ประชาชนตามที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้ให้สัญญาไว้เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน

ปธน.ไบเดนกล่าวก่อนหน้านี้ว่า รัฐบาลจะแจกชุดตรวจ ATK ฟรีจำนวน 500 ล้านชุดให้แก่ประชาชน เริ่มตั้งแต่เดือนม.ค. และจะจัดส่งบุคลากรทางการแพทย์จากกองทัพสหรัฐไปยังโรงพยาบาลที่กำลังเผชิญปัญหาในการรับมือกับผู้ป่วยจำนวนมาก

ปธน.ไบเดนยังได้ย้ำเตือนชาวอเมริกันให้ตระหนักแต่อย่าตระหนกเกี่ยวกับความรุนแรงของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน และเรียกร้องให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนมากขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลและการเสียชีวิต

สหรัฐติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต โดยมีผู้ติดเชื้อกว่า 59 ล้านราย และเสียชีวิตมากกว่า 855,000 ราย

 

8920
ติดต่อ :
Email : info@cctgroup.co.th
เบอร์โทรศัพท์ : 0816428557, 0812079977 (คุณสมนึก)
Website : https://www.cctgroup.co.th

8921


Chainalysis ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยบล็อกเชนเปิดเผยในวันนี้ว่า อาชญากรรมที่มีความเชื่อมโยงกับสกุลเงินคริปโตพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่ภาครัฐได้ออกมาเรียกร้องให้มีการยกระดับการกำกับดูแลอุตสาหกรรมการเงินดิจิทัลที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว

ยอดเงินคริปโตที่ถูกโอนเข้ากระเป๋าเงินดิจิทัลซึ่งมีความเชื่อมโยงกับกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย เช่น การหลอกลวง ตลาดซื้อขายสิ่งผิดกฎหมาย และแรนซัมแวร์ในปี 2564 พุ่งขึ้นกว่า 80% เมื่อเทียบรายปี อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนเพียง 0.15% ของยอดการทำธุรกรรมด้วยคริปโตทั้งหมด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

ยอดการทำธุรกรรมด้วยคริปโตในภาพรวมทะยานแตะ 15.8 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2564 เพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่าจากปีก่อนหน้า หลังจากทั่วโลกนิยมถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลกันมากขึ้นในปีที่ผ่านมา รวมถึงนักลงทุนสถาบันและบริษัทใหญ่ ๆ

8925

ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ชี้ความต้องการสินค้าในช่วงเทศกาลปีใหม่และมาตรการของภาครัฐ ทำให้ในเดือนมกราคม 2565 ราคาสินค้าเกษตรส่วนใหญ่ ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเปลือกเหนียว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ น้ำตาลทรายดิบ ยางพาราแผ่นดิบ สุกร กุ้งขาวแวนนาไม และโคเนื้อ มีแนวโน้มราคาเพิ่มขึ้น ด้านข้าวเปลือกเจ้า มันสำปะหลัง และปาล์มน้ำมัน มีแนวโน้มราคาปรับลดลง

นายสมเกียรติ กิมาวหา รองผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า ความต้องการสินค้าในช่วงเทศกาลปีใหม่และมาตรการของภาครัฐ ทำให้ในเดือน ม.ค.65 ราคาสินค้าเกษตรส่วนใหญ่ ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเปลือกเหนียว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ น้ำตาลทรายดิบ ยางพาราแผ่นดิบ สุกร กุ้งขาวแวนนาไม และโคเนื้อ มีแนวโน้มราคาเพิ่มขึ้น ส่วนข้าวเปลือกเจ้า มันสำปะหลัง และปาล์มน้ำมัน มีแนวโน้มราคาปรับลดลง

โดยราคาสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในเดือน ม.ค.65 ได้แก่

ข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลิ ราคาอยู่ที่ 9,966-10,075 บาท/ตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 1.17-2.27% เนื่องจากฮ่องกงมีความต้องการใช้ข้าวหอมมะลิเพื่อใช้ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ประกอบกับภาครัฐดำเนินโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปีฯ ที่ออกสู่ตลาดในช่วงที่ผ่านมา
ข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว ราคาอยู่ที่ 8,160-8,460 บาท/ตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 1.18-4.90% เนื่องจากผลผลิตข้าวเปลือกเหนียวนาปีออกสู่ตลาดน้อยลง และภาครัฐดำเนินมาตรการโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ราคาอยู่ที่ 9.08-9.16 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.85-1.73% เนื่องจากสิ้นสุดฤดูเก็บเกี่ยวข้าวโพดเลี้ยงสัตว์รุ่น 1 เข้าสู่ช่วงปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์รุ่น 2 (ข้าวโพดหลังนา) ทำให้ปริมาณข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ออกสู่ตลาดน้อยโดยมีผลผลิตเพียง 2.59% ของปริมาณผลผลิตทั้งปี ขณะที่ความต้องการใช้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพื่อผลิตอาหารสัตว์ยังคงเพิ่มขึ้น ประกอบกับยังมีการแข่งขันด้านราคา ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องปรับเพิ่มราคารับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่
น้ำตาลทรายดิบตลาดนิวยอร์ก ราคาอยู่ที่ 18.97-19.41 เซนต์/ปอนด์ (14.05-14.38 บาท/กก.) เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 1.87-4.25% จากความต้องการนำเข้าน้ำตาลของหลายประเทศที่เพิ่มขึ้น เพราะปริมาณน้ำตาลของประเทศผู้บริโภคเริ่มลดลงและค่าระวางเรือที่ปรับลดลงทำให้ต้นทุนการนำเข้าน้ำตาลลดลง ประกอบกับความต้องการเอทานอลที่เพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันดิบที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการในบราซิลปรับลดสัดส่วนจากการนำอ้อยเพื่อผลิตเป็นน้ำตาลทราย เปลี่ยนเป็นผลิตเอทานอลเพิ่มขึ้น อีกทั้งโรงงานน้ำตาลในประเทศบราซิล 57 โรงงาน ได้ปิดทำการในช่วงเดือนพฤศจิกายน ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตน้ำตาลทรายของโลกปรับตัวลดลง
ยางพาราแผ่นดิบชั้น 3 ราคาอยู่ที่ 54.95-55.90 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 3.46-5.25% เนื่องจากความกังวลต่อการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ส่งผลให้มีความต้องการใช้ถุงมือยางในอุตสาหกรรมทางการแพทย์เพื่อใช้ในการรักษาโรคไวรัสโควิด-19 หรือฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ให้กับคนไข้เพิ่มขึ้น ประกอบกับภาครัฐดำเนินมาตรการรักษาเสถียรภาพยางพาราของภาครัฐในการดูดซับผลผลิตยางพาราในตลาด
สุกร ราคาอยู่ที่ 77.56-81.29 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 1.45-6.31% เนื่องจากความต้องการเนื้อสุกรของร้านอาหารและผู้บริโภคเพื่อใช้ในการบริโภคในช่วงเทศกาลปีใหม่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่มีผลผลิตสุกรมีแนวโน้มลดลงจากการที่ผู้เลี้ยงสุกรจะชะลอการผลิตเพราะต้นทุนการผลิตที่สูง
กุ้งขาวแวนนาไม ราคาอยู่ที่ 163.73-164.39 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.45-0.85% เนื่องจากเป็นช่วงที่ผลผลิตกุ้งขาวแวนนาไมออกสู่ตลาดน้อยเพียง 5.82% ของผลผลิตทั้งปี ขณะที่ความต้องการบริโภคกุ้งเพิ่มขึ้นตามความเชื่อมั่นการบริโภคที่เริ่มฟื้นตัวและการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ
โคเนื้อ ราคาอยู่ที่ 98.00-101.00 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.29-3.36% เนื่องจากบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลปีใหม่ แม้จะมีการยกเลิกการจัดงานในบางพื้นที่ แต่ยังไม่มีการจำกัดการเดินทางกลับภูมิลำเนา เอื้อต่อธุรกิจท่องเที่ยวบริการและร้านอาหารต่างๆ สามารถเปิดบริการได้ รวมถึงการทยอยส่งโคเนื้อมีชีวิตไปจำหน่ายยังประเทศจีนผ่านประเทศลาว ปัจจุบันมีความต้องการซื้อแล้วกว่า 5 แสนตัว ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อราคาโคเนื้อที่เกษตรกรขายได้
ส่วนสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มราคาปรับตัวลดลง ได้แก่

ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% ราคาอยู่ที่ 7,644-7,701 บาท/ตัน ลดลงจากเดือนก่อน 0.70-1.43% เนื่องจากการแข่งขันด้านราคาส่งออกข้าวกับประเทศคู่แข่งยังคงรุนแรง และประเทศอินเดียผู้ส่งออกข้าวอับดับ 1 ของโลก ระบายข้าวในสต็อกเพิ่มขึ้น
มันสำปะหลัง ราคาอยู่ที่ 2.20-2.26 บาท/กก. ลดลงจากเดือนก่อน 0.88-3.51% เนื่องจากเป็นช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมากที่สุดในเดือนม.ค.65 ประมาณ 6.59 ล้านตัน คิดเป็น 20.15% ของผลผลิตทั้งปีการผลิต 2564
ปาล์มน้ำมัน ราคาอยู่ที่ 8.10-8.40 บาท/กก. ลดลงจากเดือนก่อน 3.22-6.60% เนื่องจากมาตรการภาครัฐยังคงขอความร่วมมือผู้ประกอบการโรงงานสกัดตรึงราคาน้ำมันปาล์มดิบจากการที่ราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดปรับตัวสูงขึ้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้บริโภค รวมถึงมีความกังวลเกี่ยวกับโควิดระลอกใหม่อาจส่งผลให้มีความต้องการใช้น้ำมันในการเดินทางลดลง

หน้า: 1 ... 593 594 [595] 596 597 ... 827