͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: 5 ทางออกนิสัยขี้โมโหให้กลายเป็นคนใจเย็นขึ้น  (อ่าน 38 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ fairya

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12399
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด

5 ทางแก้นิสัยคนขีโมโหให้แปลงเป็นคนใจเย็น(กว่าเดิม)

1. หยุดคำบอกเล่าและก็พฤติกรรมในยามที่โกรธคือถ้าหากคิดว่า อารมณ์กำลังพลุ่งพล่าน


ให้สงบนิ่งไว้ จำไว้เสมอว่า…ความนึกคิดอะไรก็แล้วแต่คำบอกเล่าอะไรก็ตามการกระทำใดๆถ้าหากมีขึ้นในยามโก รธ


มักเป็นไปในทางทำลายรุ นแร งอาจสะใจเดี๋ยวเดียว แต่ในที่สุดจะไม่เป็นผลดี

ก ฏเหล็กเบื้องต้นที่ต้องทำให้ได้เป็น…พวกเราจะไม่บอกหรือทำอะไรเด็ดข าดในย ามที่โกร ธ

รอให้ใจเย็นก่อน หายโก รธก่อนแล้วพอหลังจากนั้นก็ค่อยว่ากัน

2. ใคร่ครวญโท ษของความโก รธรวมทั้งคุณประโยชน์ที่ได้รับมาจากความกรุณาคือให้ย้อนคิดถึงชีวิตที่ผ่านมา

ว่าพวกเราเสียอะไรไปบ้างเพราะเหตุว่าความโก รธทำคนไหนกันแน่เสียใจกี่คน ทำลายโอกาสไปเยอะแค่ไหน

ทำลายความเกี่ยวข้องไปยังไงสิ่งเหล่านี้ให้ก้มมาคิดบ่อยๆคิดซ้ำให้มากมายๆ


ตรึกตรองจนใจสารภาพ หมดคำกล่าวอ้างอย ากปรับแต่งตนเองด้วยความเต็มใจ


เพราะเหตุว่ามั่นใจแล้วว่า ความโกรธเคืองไม่ใช่ของดีแต่ว่าเป็นสิ่งที่ทำลายความสำราญและความเจริญรุ่งเรือง

ทั้งยังของพวกเรา ผู้ที่เรารัก แล้วก็ผู้ที่รักเราไม่มีผู้ใดได้อะไรเลยจากความโก รธ

ธรรมชาติของมนุษย์พวกเราเกลียดชังให้ผู้ใดกันมาสั่งตราบที่เรายังไม่ต กผลึ กยอมรับความพ่ายแพ้ด้วยตัวเองว่า

ถึงเวลาแล้วที่เราจำต้องเปลี่ยนตนเองผู้ใดจะพูดผู้ใดจะบอกจะสอนก็ย ากยิ่งที่มนุษย์เราจะเปลี่ยนแปลง

แบบนี้แล้ว เราก็เลยจะต้องประพฤติเป็นอาจารย์ของตนเองเพื่ออบรมตนเองให้มองเห็นพิ ษภั ยของความโก รธรังเกียจอารมณ์ทำลาย

3. สร้างความสำราญเล็กๆน้อยๆให้คนอื่นจนกระทั่งเป็นนิสัยเป็นให้รู้จักชื่นชม ให้กำลังใจผู้คนบ่อยๆ

เมื่อทำให้เขาเป็นสุขแล้วให้พวกเรารู้จักเอาอกเอาใจไปสัมผัสความรู้สึกนั้นเรียกว่า ให้หัวใจเราดื่มด่ำ

กับความรู้สึกที่เย็นใจอยู่เป็นประจำพวกเราบางทีก็อาจจะลองเปรียบกันมองก็ได้ว่าอารมณ์รูปแบบนี้ กับอารมณ์ในยามที่โก รธ

แบบไหนดีมากยิ่งกว่ากันถ้าหัวใจเราคุ้นกับความรู้สึกที่ดีมันจะเบาๆเหนื่อยหน่ายความโกรธรังเกียจชิ งชั งไปทีละเล็กละน้อย

ในข้อนี้เป็นการแ ก้กิเล สด้วยกุศ ลศัตรูถ้าหากความโกรธเป็นด้านมืดในที่นี้ด้านสว่างก็คือความเมตตากรุณา

เราบางทีอาจไล่ส่งความมืดดำไม่ได้แม้กระนั้นหากพวกเราจุ ดไ ฟได้ ความมืดจะหายไปและก็ความสว่างจะเข้ามาแทนที่

ภาษาธรรมเรียกสิ่งนี้ว่า การทวนกระแสกิเล สคือใช้ธรรมคู่ตรงกันข้ามมาจัดการกิเล สให้น้อยลง


4. ฝึกดูความรู้สึกด้วยใจจริงที่เป็นกลางในข้อนี้คือธรรมะชั้นลึก เป็นการก้าวหน้าสติ


คือพวกเราฝึกหัดดูอารมณ์ต่างๆของพวกเราด้วยความเต็มใจที่เป็นกลางเหมือนความนึกคิดความรู้สึกนั้นไม่ใช่เรา

ชอบใจก็ไม่เข้าไป เศร้าใจก็ไม่เข้าไปคนสรรเสริญก็วางไว้ คนนินทาก็วางไว้ฝึกให้เห็นว่าอารมณ์ความนึกคิดกลุ่มนี้

แม้ใจเราเข้าไปยึดท้ายที่สุดก็ไม่ดีทั้งนั้นด้วยเหตุว่ายึดข้างหนึ่ง อีกข้างก็จะตามมาด้วยเสมือนในกำเหรียญเอาไว้ในมือ

ก็จะได้อีกทั้งหัวทั้งก้อยมาในครั้งเดียวรักสุขก็จะได้ทุ กข์เป็นของแถมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ในข้อนี้แม้ฝึกเสมอๆนอกเหนือจากความขุ่นเคืองแล้วยังช่วยกำจัดลดทอนพลังความคิดด้านล บได้ทั้งสิ้น

เช่นความกลัดกลุ้มความเปล่าเปลี่ยวความเบื่อต่างๆจิตใจจะเป็นกลาง หนักแน่นเพิ่มมากขึ้น

5. รู้จักอยู่ รู้จักข้อเสียจุดแข็ งของตนคือให้รู้จักสังเกตตนเองหากเราโก รธผู้ใดกันแน่เสมอๆ

เวลาอยู่ใกล้ก็ให้ระวังบางคราว กับคนบางคนให้สังเกตดูเถอะว่า เราก็โกรธเขา

โกรธคนๆนี้ จนแปลงเป็นความเคยชินเพียงแต่มองเห็นหน้ายังไม่ทันทำอะไร

ใจก็วูบๆไหวๆความหงุดหงิดก็เริ่มเข้ามานี้ควรจะหลบหลีกการปะทะทั้งนี้ในเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ

ยกตัวอย่างเช่นเป็นคนในครอบครัว เป็นสามีภรรย าเป็นลูก เป็นเจ้านาย ลูกน้อง มิตรสหาย อย่างงี้ก็ให้ชูเอาสิ่งที่เขาทำขั ดใจเรา

มาเป็นสิ่งที่ใช้ในการฝึกหัวใจของพวกเรา ฝึกฝนอภั ยดีกว่าปล่อยใจของพวกเราให้ต กต่ำไป

เพราะว่ามัวแต่ทะเลาะเบาะแว้งกับเขาให้เอาความขัดแย้ งนั้นมาบ่มเพาะความรัก เมตตาขอให้เรารับทราบไว้ว่า ส่วนใหญ่แล้ว

หากไม่ตรงกันแต่มีความจำเป็นจำเป็นต้องอยู่ร่วมกันตัดกันไม่ข าด แย กกันไม่ข าดสิ่งนี้มักเป็นผลมาจากมีบุญก ร ร ม

สโมสรร่วมกันมานานกลายเป็นแรงก ร ร มผูกพัน ผู กรั้งไม่ให้ไปไหนอย่างงี้ยิ่งจำต้องรู้จักระวัง หยุด สำรวม

อย่าไปทำกรรมให้กันและกันมากขึ้นการเป็นคนเจ้าอารมณ์ ไม่มีอะไรดีมีแม้กระนั้นเสียผลดี เสียทั้งยังสุขภาพทางร่างกายจิตใจ

ทำลายความเกี่ยวเนื่อง ทำลายหน้าที่การงานทำลายบารมีในตนเปลี่ยนเป็นผู้ที่สร้างความทุ กข์ให้ผู้อื่น

และก็ตัวเองก็กล่าวโทษสุขได้ย าก5 ข้อนี้ ฝึกแรกๆจะทำได้ย ากแม้กระนั้นขอให้ทรหดอดทนฝึกทำทุกข้ออย่างสม่ำเสมอ

สำคัญเป็นควรมีกำลังใจ รวมทั้งวินัยฝึกหัดแรกๆอย่าปล่อยใจตามความคุ้นเคยของตัวเองสุดท้ายแล้วพวกเราควรจะมีความรู้ความเข้าใจว่า

การลดมานะอนัตตาของตัวเองลดความขุ่นเคืองชิงชังของตนพวกเรามิได้ทำเพื่อใครกันแน่แม้กระนั้นเราทำเพื่อยกฐานะจิตใจของตัวเอง

เพื่อความสุขของพวกเราเองจริงอยู่สิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะทำกันได้อย่างง่ายๆ แต่ถ้าหากทำเป็นวันหนึ่ง ทราบจะสัมผัสถึงความเบาใจของชีวิต

มีชีวิตที่เบาขึ้น สบายขึ้นถึงวันนั้นเราจะยินดี แล้วก็รู้สึกขอบคุณมากตนเองรู้สึกยินดีว่า เราสามารถข้ามผ่านตัวตนเก่าๆ

ไปสู่ตัวตนใหม่ที่ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมแล้วก็สิ่งนี้เป็นการมอบความรักและก็ความกรุณาปรานีให้ตนเองอย่างแท้จริง…

แก้นิสัย
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/12886/