͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: อนุดิษฐ์ ห่วงต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แนะ รัฐควรใช้อย่างสมดุล เหมาะสม  (อ่าน 360 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Fern751

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15944
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
นายอนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาฯเพื่อไทย ห่วงต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แนะ รัฐใช้อย่างสมดุลและเหมาะสม รีบดักทาง อย่าใช้เกินจำเป็น ชี้ สังคมตั้งคำถาม หรือรัฐอยากได้อำนาจอื่น ที่ไม่จำเป็นต่อการแก้โควิดมาใช้ด้วย ใช่หรือไม่

วันที่ 29 เม.ย. น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีที่รัฐบาลต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกไปอีก 1 เดือน ว่า เป็นอำนาจของ ครม.ในการตัดสินใจ แม้ว่าพรรคเพื่อไทย ไม่เห็นด้วย แต่คงแก้ไขอะไรไม่ได้ ก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทย ได้แสดงความเห็นไปหลายครั้งแล้ว ว่า เมื่อรัฐบาลสามารถใช้มาตรการทางสาธารณสุขควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสได้แล้ว ก็ควรยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อแทน เนื่องจากสามารถกำกับดูแลและควบคุมสถานการณ์ต่างๆ ที่จำเป็นในเวลานี้ได้เหมือนกัน แต่การต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกไปอีก จึงถูกสังคมตั้งคำถามว่า รัฐบาลอยากได้อำนาจอื่นๆ ที่ไม่จำเป็นต่อการแก้ไขปัญหาโควิด-19 มาใช้ด้วยใช่หรือไม่!

“ผมอยากให้รัฐบาลลองฟัง นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการของสหประชาชาติ (UN) ที่กล่าวเปิดรายงานนโยบายว่าด้วยความสำคัญของสิทธิมนุษยชนในการรับมือกับโรคระบาดใหญ่ ว่า การใช้มาตรการต่างๆ ที่อ้างถึงวิกฤติด้านสาธารณสุขโดยไม่เกี่ยวกับโรคระบาดเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ รัฐบาลต่างๆ จำเป็นต้องแสดงความโปร่งใส รับมือเหตุการต่างๆ อย่างแข็งขัน และแสดงความรับผิดชอบมากขึ้น โดยพื้นที่ประชาสังคมและเสรีภาพสื่อเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง และไม่ว่าเราจะทำอะไรจงอย่าลืมว่า ภัยของเรา คือ ไวรัสไม่ใช่ผู้คน ดังนั้นการประกาศภาวะฉุกเฉินต่างๆ ต้องใช้เพื่อมาตรการทางสาธารณสุข ที่มีเป้าหมายและระยะเวลาที่ชัดเจนโดยก้าวก่ายประชาชนให้น้อยที่สุด” เลขาธิการเพื่อไทย กล่าว..

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวต่อไปอีกว่า นอกจากเลขาธิการของสหประชาชาติ จะออกมาแสดงความห่วงใยในเรื่องนี้แล้ว สำนักข่าวรอยเตอร์ ก็ได้เสนอข่าว "U.N. raises alarm about police brutality in lockdowns" อ้างความเห็นของ มิเชล บาเชเล (Michelle Bachelet) ข้าหลวงใหญ่ สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ที่แสดงความเป็นห่วงการที่รัฐบาลหลายประเทศ นำการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งเป็นมาตรการรุนแรง มาใช้เพื่อสกัดการระบาดของไวรัสโควิด-19 แล้วทำให้เกิดผลกระทบอย่างมากต่อประชาชน

“ในข่าวบอกว่า ปัจจุบันมี 80 ประเทศ ที่ใช้การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ในจำนวนนี้มี 15 ประเทศ ที่น่าเป็นห่วงที่สุด แต่โชคดีที่ยังไม่มีชื่อประเทศไทยติดโผ ซึ่ง บาเชเล เตือนว่า การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ไม่ควรถูกใช้เพื่อกำจัดผู้เห็นต่าง ควบคุมประชาชน และทำให้ตนเองอยู่ในอำนาจได้นานขึ้น ดังนั้นพรรคเพื่อไทย จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินครั้งนี้ รัฐบาลจะใช้อำนาจอย่างตรงไปตรงมา เพื่อรับมือกับภาวะฉุกเฉินอย่างสมดุลและเหมาะสม ควบคู่ไปกับการปกป้องสิทธิมนุษยชนและหลักนิติธรรม โดยมีวัตถุประสงค์และเป้าหมายเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว