SMT ผลงานมาตามนัด ปี 64 กำไรพุ่ง 152% อยู่ที่ 210.21 ลบ.
ตั้งธงยอดขายปี 65 ที่ 3,300 ลบ. เติบโต 30% หลังออเดอร์ไหลเข้าต่อเนื่อง ชงจ่ายปันผลหุ้นละ 0.05 บาท ตอบแทนผู้ถือหุ้น
SMT ผลงานมาตามนัด กำไรปี 2564 โตกระฉูด 152% อยู่ที่ 210.21 ล้านบาท ส่วนรายได้อยู่ที่ 2,128.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.36% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ล่าสุดบอร์ดชงจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดตอบแทนผู้ถือหุ้นหุ้นละ 0.05 บาท โดยจ่ายจากกำไรสุทธิส่วนที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI กำหนดขึ้น XD 5 พ.ค. 2565 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 27 พ.ค. 2565 ตั้งธงยอดขายปี 65 ไว้ที่ 3,300 ลบ. หรือเติบโต 30% เผยปัจจุบันมีออเดอร์เข้ามาต่อเนื่อง ทั้งจากลูกค้าปัจจุบันและขยายฐานไปยังลูกค้าใหม่ ซึ่งขณะนี้มียอด Booking เกิน 70% แล้ว เชื่อว่าทั้งปียอดขายจะได้ตามแผนที่วางไว้
นายวิรัตน์ ผูกไทย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SMT เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในงวดปี 2564 มีกำไรสุทธิ 210.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 126.80 ล้านบาท หรือ 152% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 83.41 ล้านบาท มีรายได้จากการขายสินค้าและบริการ 2,182.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 274.12 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14.36% ทั้งนี้บริษัทฯมีรายได้เพิ่มขึ้นจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ PCBA และ OPTICS ซึ่งเติบโต 124.25% และ27.17% ตามลำดับ ท่ามกลางสถานการณ์การชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ปัญหาขาดแคลนชิปทั่วโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และการแพร่ระบาดของโควิด 19
"ผลประกอบการออกมาเป็นที่น่าพอใจ โดยกำไรขั้นต้นในปี 64 มีจำนวน 421.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66.03 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 18.55 % จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากบริษัทฯหาลูกค้าได้เพิ่มขึ้น และรักษาฐานการเติบโตของยอดขายสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีมาร์จิ้นสูง และบริหารจัดการต้นทุนให้สอดคล้องตามผลิตภัณฑ์ที่มีการผลิต" นายวิรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับกลยุทธ์ในปี 2565 บริษัทฯเร่งขยายตลาดและการหาลูกค้าใหม่ๆในต่างประเทศที่มีช่องทาง E-Marketing เพิ่มเติม รวมทั้งแผนการเพิ่มความสามารถและประสิทธิภาพในการผลิต เพื่อสร้างการเติบโตของรายได้ โดยตั้งเป้ายอดขายปีนี้ไว้ที่ 3,300 ล้านบาท หรือเติบโต 30% ปัจจุบันบริษัทฯ มีออเดอร์เข้ามาต่อเนื่อง ทั้งจากลูกค้าปัจจุบันและขยายฐานไปยังลูกค้าใหม่ ซึ่งขณะนี้มียอด Booking เกิน 70% แล้ว เชื่อว่าทั้งปียอดขายจะได้ตามแผนที่วางไว้ ส่วนกำไรขั้นต้นปีนี้วางไว้ที่ 18-20%
โดยมองว่าบริษัทฯมีโอกาสเพิ่มจำนวนสินค้าใหม่จากความพร้อมด้านการผลิตโดยไม่ต้องลงทุนเพิ่ม และบริษัทยังประสบความสำเร็จในการได้ลูกค้าใหม่จากตลาดในแถบยุโรป สแกนดิเนเวีย นอกเหนือจากธุรกิจด้าน Optics เพื่อต่อยอดการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นผลิตภัณฑ์ด้าน Power module, e-display และ professional audio
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดจากผลการดำเนินงานปี 2564 งวด 1 มกราคม - 31 ธันวาคม 2564 ในอัตราหุ้นละ 0.05 บาท ซึ่งจ่ายจากกำไรสุทธิส่วนที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 42,076,179.05 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 5 พฤษภาคม 2565 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 27 พฤษภาคม 2565
