บลจ.เอไอเอ เผยสภาพคล่องในตลาดยังสูง ธนาคารกลางหลายแห่งยังอัดฉีดเพิ่ม แม้เฟดทยอยลดคิวอี คาดปี 65 หนุนตลาดหุ้นไปต่อ แต่ไม่หวือหวา แนะสลับทำกำไรตลาดเกิดใหม่ ชี้ปรับพอร์ตตามความเสี่ยงลูกค้าให้ได้ประโยชน์สูงสุด
นายสุขวัฒน์ ประเสริฐยิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอไอเอ(ประเทศไทย) จำกัด (AIAIMT) เปิดเผยในงานสัมมนา 'WEALTH VIRTUAL FORUM 2021' หัวข้อ'เจาะลึกการลงทุน ปี 2022' ว่า
การลงทุนในปี 2565 เชื่อว่ายังลงทุนในหุ้นต่อได้ จากสภาพคล่องที่ยังมีอยู่มาก รวมถึงผลตอบแทนในหุ้นต่างประเทศปรับเพิ่มขึ้นในปี 2564 ซึ่งในปี 2565 มองว่าอาจจะปรับขึ้นได้อีกไม่มาก แต่ในระยะยาวการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงจะได้รับประโยชน์และผลตอบแทนมากกว่าสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างเช่นพันธบัตรรัฐบาล ถึงแม้อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะทยอยปรับขึ้นก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเศรษฐกิจโลกในตลาดขนาดใหญ่ ได้ถึงจุดพีคไปแล้วในไตรมาส 3 อีกทั้งความกังวลต่างๆ เช่น ตัวเลขการบริโภคของจีน ราคาพลังงาน เงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ได้ตอบรับไปหมดแล้ว นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มลดมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน (คิวอี) ในปลายปีนี้ แต่ธนาคารกลางหลายแห่งยังมีการอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่ม ทำให้ต้องมีการแสวงหาผลตอบแทนเหมือนเดิม ขณะเดียวกัน คาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะไม่ปรับขึ้นมาก และไม่ปรับขึ้นเร็วๆ นี้
สำหรับการจัดพอร์ตการลงทุน บลจ.เอไอเอ จะจัดพอร์ตตามระดับการรับความเสี่ยงของลูกค้า โดยลูกค้าที่รับความเสี่ยงได้น้อย จะลงทุนในตราสารหนี้ 70% หุ้น 30%, รับความเสี่ยงได้ปานกลาง ลงทุนในหุ้น50% ตราสารหนี้ 50% หรือ หุ้น 60% ตราสารหนี้ 40% หรือหุ้น 40% ตราสารหนี้ 60% และรับความเสี่ยงได้สูงจะลงทุนในหุ้น 70-80% ตราสารหนี้ 20-30% นอกจากนี้ ยังมีการปรับพอร์ตให้ลูกค้าเพื่อให้ได้ประโยชน์มากที่สุดตามความผันผวนของตลาด
ขณะเดียวกัน ควรมีการกระจายการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ที่ยังปรับขึ้นไม่มาก เพราะที่ผ่านมาตลาดที่พัฒนาแล้วมีการปรับขึ้นไปแล้วค่อนข้างมาก ซึ่งควรมีการสลับทำกำไรบ้าง ด้านธีมการลงทุนของบลจ.จะไม่เหมือนการลงทุนทั่วไปที่ตามกระแสโลก แต่จะมองถึงระยะยาว และเป็นอุตสาหกรรมเดียวที่มีการเติบโตไปเรื่อยๆ ตามคอนเซ็ปต์ของบลจ.ที่อิงกับประกัน ทำให้ต้องมองผลตอบแทนระยะยาวเป็นหลัก