บอร์ด ทอท.เคาะขยายเวลาก่อสร้างสุวรรณภูมิ 3 สัญญา “APM-สายพานและเครื่องตรวจระเบิด” โควิดนำเข้าอุปกรณ์ไม่ได้ คำสั่งปิดแคมป์หยุดก่อสร้างหมด มั่นใจไม่กระทบบริการ ชี้ใช้ SAT-1 เมื่อเกิน 50 ล้านคน คาดอุตสาหกรรมการบินฟื้น มี.ค. 66
แหล่งข่าวจาก บริษัท
ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท. ครั้งที่ 10/2564 เมื่อวันที่ 21 ก.ค. ที่มี นายสราวุธ เบญจกุล เป็นประธาน ได้มีมติอนุมัติขยายระยะเวลางานจ้างโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 2 จำนวน 3 สัญญา ได้แก่ 1. ขยายระยะเวลาสัญญางานจ้างก่อสร้างอาคารสำนักงานสายการบิน และที่จอดรถด้านทิศตะวันออก โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กับบริษัทพระราม 2 จำกัด ในสัญญาจ้างลงวันที่ 6 มิ.ย. 2562 มูลค่าสัญญา 871.888 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 540 วัน โดยเป็นการขยายระยะเวลาแล้วเสร็จอีกจำนวน 231 วัน จากเดิมวันที่ 14 ธ.ค. 2563 เป็นวันที่ 2 ส.ค. 2564
2. อนุมัติขยายระยะเวลาสัญญางานซื้อพร้อมติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (Automated People Movew : APM) ให้แก่นิติบุคคลร่วมทำงานไออาร์ทีวี ประกอบด้วย บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท เรืองณรงค์ จำกัด บริษัท แบคเคอร์ อินดัสทรี จำกัด และ บริษัท วิวเท็กซ์ จำกัด ในสัญญาจ้างลงวันที่ 20 พ.ย. 2560 มูลค่าสัญญา 2,999.90 ล้านบาท ขยายระยะเวลาแล้วเสร็จอีก 330 วัน จากเดิมวันที่ 3 ก.ย. 2563 เป็นวันที่ 30 ก.ค. 2564
โดยสัญญางานระบบ APM ระยะเวลาก่อสร้างเดิม 870 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย. 2560-วันที่ 7 เม.ย. 2563 ต่อมามีการขยายระยะเวลาอีก 149 วัน จากวันที่ 7 เม.ย. 2563-วันที่ 3 ก.ย. 2563 และล่าสุดขยายอีก 330 วัน นับรวมระยะเวลาดำเนินงาน 1,019 วัน
3. อนุมัติขยายระยะเวลางานซื้อพร้อมติดตั้งระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า (BHS) และระบบตรวจจับวัตถุระเบิด (EDS) (ขาออก) ให้กับนิติบุคคลร่วมทำงาน ล็อกซเล่ย์-แอลพีเอส ประกอบด้วย บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ล็อกซเล่ย์เพาเวอร์ ซิสเต็มส์ จำกัด ในสัญญาจ้างลงวันที่ 1 ก.พ. 2561 มูลค่าสัญญา 3,646.560 ล้านบาท โดยเป็นการขยายระยะเวลาแล้วเสร็จจำนวน 214 วัน จากเดิมวันที่ 6 ส.ค. 2564 เป็นวันที่ 8 มี.ค. 2565
นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง ทอท. กล่าวว่า บอร์ด ทอท.มีการพิจารณาขยายระยะเวลาก่อสร้างโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 จำนวน 3 สัญญา ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากไม่สามารถนำเข้าอุปกรณ์จากต่างประเทศได้ตามกำหนด และคาดว่าในภาพรวมอาจจะต้องมีการพิจารณาปรับขยายระยะเวลาสัญญาอีกครั้งเนื่องจากมาตรการรัฐบาลที่ให้ปิดแคมป์ก่อสร้าง ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงาน ทำให้งานก่อสร้างโครงการสุวรรณภูมิเฟส 2 ต้องหยุก่อสร้างทุกสัญญาในขณะนี้ ยกเว้นงานที่อยู่ในความดูแลของวิศวกร เช่น การทดสอบระบบที่ยังทำได้
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะขยายระยะเวลาสัญญา แต่ในขณะนี้โครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 ในส่วนของอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite 1 : SAT-1) เสร็จแล้ว แต่ ทอท.วางแผนในการเปิดใช้อาคาร SAT-1 ต่อเมื่ออาคารผู้โดยสารหลักมีปริมาณผู้โดยสารเกิน 50 ล้านคน/ ปี จึงจะเปิดใช้อาคาร SAT-1 เพื่อลดความแออัดของอาคารหลัก แต่หากอาคารหลักยังไม่แออัดก็ไม่จำเป็นเร่งเปิดใช้ SAT-1 เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 300 ล้านบาท/เดือน
แต่จากสถานการณ์โรคโควิด-19 ซึ่งมีการประเมินว่าอุตสาหกรรมการบินจะกลับมาในช่วงตารางบินฤดูร้อนปี 2566 (ประมาณเดือน มี.ค. 2566) ซึ่งยังมีเวลาเพียงพอในการก่อสร้างและทดสอบระบบที่เกี่ยวข้องทั้งหมดของสุวรรณภูมิเฟส 2