เปิดใจ "สีทอง" สาวชัยภูมิใจบุญมีจิตเป็นกุศล ประกาศยกบ้านราคา 18 ล้าน พร้อมโกดัง ให้ทางการใช้เป็นที่กักตัวของรัฐ และโรงพยาบาลสนามที่ชัยภูมิ หลังขออนุญาตเจ้าที่แล้ว บอกเป็นการตอบแทนคุณแผ่นดินเกิด
กรณีหญิงสาวน้ำใจงามชาวจังหวัดชัยภูมิ ใช้ชื่อ สีทอง กุมมาร ได้โพสต์รูปบ้านหรูหลังใหญ่ 2 ชั้นพร้อมโกดังหลังใหญ่บนเนื้อที่กว่า 2 ไร่ มูลค่ากว่า 18 ล้านบาท อยู่ในเขตพื้นที่หมู่ 14 ตำบลกวางโจน อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ยกให้หน่วยงานภาครัฐนำไปใช้เป็นสถานที่กักผู้สงสัยป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ
โควิด-19 พร้อมยังมีโกดังที่สามารถดัดแปลงใช้เป็นโรงพยาบาลสนามได้ด้วย โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ก่อนลงเฟซบุ๊ก ผู้คนบนอินเทอร์เน็ตต่างแห่กดไลค์ แสดงความชื่นชมมากกว่า 7 พันครั้ง โดยเธออ้างว่าได้ขออนุญาตพระภูมิเจ้าที่แล้ว
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อพบกับนางสีทอง กุมาร อายุ 49 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 14 ตำบลกวางโจน อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ผู้เป็นเจ้าของโพสต์เฟซบุ๊กยกบ้านมูลค่า 18 ล้าน ให้ทางการใช้เป็นสถานที่กักตัวดูอาการ โดยนางสีทอง กล่าวว่า ตัวเองได้โพสต์และข้อความดังกล่าวเป็นเรื่องจริง โดยตัวนางสีทอง ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ตัวเธอเองมีอาชีพค้าขาย อยู่ที่ ตลาดชุมแพ จ.ขอนแก่น ช่วงนั้น (24 มี.ค.) ได้ติดตามข่าวการแพร่ระบาดของโควิด-19 มาตลอด มีเจ้าของสถานที่หลายแห่ง ที่ยอมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เป็นสถานที่กักตัวผู้ป่วยติดเชื้อ และทำเป็นโรงพยาบาลสนาม ซึ่งประกอบกับเธอเองมีบ้านและโกดังสินค้า ที่ปิดไว้เฉยๆ ไม่มีผู้อยู่อาศัย จึงมีความคิดว่าอยากจะมอบบ้านหลังดังกล่าวให้เป็นที่กักตัว และรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด19 สำหรับหน่วยงานราชการ
เจ้าของบ้าน กล่าวต่อว่า หลังจากตนตัดสินใจแล้ว จึงได้เปิดดูกล้องวงจรปิดผ่านแอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟน และมีกล้อง 1 ตัวที่จับภาพที่บริเวณหน้าบ้านที่มีศาลพระภูมิเจ้าที่ตั้งอยู่ โดยเธออ้างว่าขณะนั้นตัวเธอได้พูดคุย (ทางจิต) กับเจ้าที่ประจำบ้านเพื่อสอบถามว่า จะอนุญาตหรือไม่ ถ้าหากอนุญาตก็ให้แสดงปาฏิหาริย์อย่างใดอย่างหนึ่งออกมาให้เห็นถ้าไม่อนุญาตก็ให้อยู่เฉยๆ ซึ่งเธอเล่าต่อว่าระหว่างนั้นหลังจากเธอพูดจบก็ปรากฏว่าบริเวณด้านหน้าศาลพระภูมิเจ้าที่ตั้งอยู่มีแสงสีเขียวสีเหลืองสีน้ำเงินขนาดใหญ่ลอยพวยพุ่งขึ้นมา โดยหลังจากนั้นก็ตัดสินใจโพสต์ข้อความและรูปบ้านลงเฟซบุ๊กทันที
นางสีทอง กล่าวอีกว่า โดยหลังจากโพสต์ข้อความและรูปลงเฟซบุ๊กไป ก็มีชาวเน็ตแห่กดไลค์ชื่นชมเธอเกือบ 7 พันครั้ง พร้อมคอมเมนต์กล่าวชื่นชมอีกจำนวนมาก ซึ่งตอนนี้เริ่มมีหน่วยงานบางหน่วยงานได้โทรมาสอบถามบ้างแล้ว และก็ยังมีประชาชนทั้งคนไทย และต่างประเทศติดต่อเธอเข้ามาว่า จะขอมาอาศัยเป็นที่กักตัวจะคิดค่าเช่าเท่าไหร่ก็ยินดี ซึ่งเธอก็ได้ตอบปฏิเสธและให้เหตุผลไปว่าจะยกให้เฉพาะหน่วยงานภาครัฐหรือองค์กรเท่านั้น
"ปัจจุบันเธออยู่ตัวคนเดียว บ้านหลังดังกล่าวสร้างมานานหลายปี แต่ไม่ค่อยได้มาอยู่เพราะต้องเดินทางไปทำธุรกิจค้าขายอยู่ต่างจังหวัด เลยตัดสินใจที่จะยกบ้านหลังนี้ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากหมู่บ้านพอสมควร ใช้เป็นที่กักตัวผู้ติดเชื้อโควิด-19 จะเกิดประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวมมากกว่าและที่สำคัญเธอต้องการที่จะตอบแทนบุญคุณแผ่นดินที่เธอได้เกิดมาบนแผ่นดินประเทศไทยแห่งนี้" เจ้าของบ้าน กล่าว
นางสีทอง กล่าวด้วยว่า เมื่อก่อนตนเองนั้นเคยจนมาก่อนฐานะทางบ้านยากจนมาก เธอต้องอาศัยกินข้าววัดมาตั้งแต่เด็ก เธอเรียนจบนักธรรมเอกตั้งแต่ยังไม่จบมัธยมต้น (ม.3) ชอบสวดมนต์ทำสมาธิ จนเรียนจบ ม.3 เดินทางเข้ามาทำงานเป็นสาวฉันทนาโรงงานเย็บผ้าในกรุงเทพฯ และสมุทรปราการนานหลายปี ช่วงนั้นวันหยุดก็ยังแวะเวียนเข้าวัดมาตลอด จนกระทั่งเก็บเงินได้ก้อนหนึ่งก็กลับบ้านมาเปิดร้านรับจ้างเย็บผ้าและค้าขาย จนกระทั่งมีฐานะดีขึ้น แต่เธอก็ยังชอบเข้าวัดและนั่งสมาธิตลอดมา ส่วนเรื่องที่สื่อสารกับดวงวิญญาณหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้จริงก็เป็นความเชื่อส่วนตัว ใครจะมองว่าตัวเองไม่ปกติก็ไม่เป็นไร.