oligioใน 3 ชั้นผิว คือชั้นผิวหนังชั้นนอก, หนังแท้ และ ชั้นไขมัน ลงลึกถึง 4.3 มิลลิเมตร กระตุ้นการส้รางใหม่ของคอลลาเจนแล้วก็อิลาสติน ทำให้เกลียวเส้นใยคอลลาเจนแข็งแรง ผิวหน้าแน่นขึ้น และก็ใบหน้าชูกระชับ ลดการเกิดริ้วรอย ผิวหนังที่หย่อนยานคล้อย รวมทั้งไขมันบนใบหน้าลดน้อยลง กรอบหน้าชัดขึ้น
ติดตามพวกเราได้ตามเว็บไซต์
oligio https://thehazelclinic.com/oligio/ oligio จะเหมาะสมใน คนที่ต้องการชูกระชับใบหน้าที่หย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัดเจน ผู้ที่มีริ้วรอยร่องแก้มลึก คนที่ใบหน้ามีเนื้อแก้มหรือมีเหนียง ผู้ที่ต้องการชูกระชับกลีบตา กลีบตาเริ่มตก หนังตาตก ต้องการชูขนคิ้ว คนที่มุมปากเริ่มตก มีร่องหรือริ้วรอยในระยะเริ่มต้น คนที่ปรารถนากระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวหน้า
จุดเด่นของ oligio
- เพิ่มความปลอดภัยสำหรับการรักษา ตัวเครื่องมีระบบตรวจระดับอุณหภูมิที่ผิวรวมทั้งระบบตรวจหาแรงกด ในขณะทำการรักษาทำให้มีความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น
- ตัวเครื่องมีระบบระเบียบตรวจวัดความต้านทานผิวในขณะทำการรักษา ซึ่งทำให้การปล่อยพลังงานที่ลงสู่ชั้นผิวมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- เพิ่มความสบายสำหรับการรักษาโดยใช้ระบบแรงสั่นถึง 3 ระดับ
- ด้วยขนาด Tip ที่มีขนาดใหญ่ถึง 4 ตารางเซนติเมตร แล้วก็มีโหมดการปล่อยพลังงานอย่างรวดเร็วทำให้ย่นระยะเวลาสำหรับในการรักษามากยิ่งขึ้น
- สามารถปรับระดับความเย็นเข้ากับระดับพลังงานที่ใช้ เพื่อความสบายสำหรับการรักษา
ผลสรุปจากแนวทางการทำ
oligio- เห็นผลการชูกระชับโดยทันที เนื่องมาจากคอลลาเจนรวมทั้งอิลาสตินหดตัว ราวๆ 20-30% ต่อไปสภาพผิวจะดีขึ้นเพราะมีการสร้างคอลลาเจนใหม่ เห้นผลเต็มที่ที่ 3-6 เดือนร หลังจากการดูแลและรักษา
- อยู่ได้นาน 6 เดือนถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของผู้เจ็บป่วย
- ชี้แนะให้ทำต่อเนื่องปีละครั้ง จะช่วยฟื้นฟูสภาพผิวเดิมให้ดียิ่งขึ้น และทำให้เกิดการผลิตคอลลาเจนแล้วก็อิลาสตินใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ข้อกำหนด ข้อระวัง ของแนวทางการทำ oligio
- บุคคลที่มีการฝังเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ภายในร่างกาย
- บุคคลที่มี Bioabsorbable รากฟันเทียม
- บุคคลที่มีโรคผิวหนังบางประเภทที่เกี่ยวกับขั้นตอนรักษาบาดแผล
- มีการติดเชื้อบางประเภท ที่รอบๆที่จะกระทำรักษา
- หญิงมีครรภ์ / ให้นมบุตร
- บุคคลที่มีโรคประจำตัวบางชนิด ได้แก่ โรคเบาหวาน, โรคลมหวน, โรคเลือดหรือระบบการแข็งตัวของเลือด
- บุคคลที่เป็นโรคเกี่ยวกับระบบภูมิต้านทานตนเองบกพร่อง
- บุคคลที่จำต้องกินยาต้านการอักเสบทุกวี่ทุกวัน
- บุคคลที่มีแผลเปิด บริเวณที่จะทำรักษา
- บุคคลที่มีการติดเชื้อโรคไวรัสเริมและยังติดโรคอักเสบอยู่
- บุคคลที่มีประวัติรับการดูแลรักษาด้วย โบท็อก หรือฟิลลเลอร์ไม่ถึง 2 อาทิตย์
- บุคคลที่ได้รับการเปลี่ยนถ่ายผิวหนังหรือ ปลูกถ่ายไขมันใบรอบๆสำนักงานรักษาไม่เกิน 6 เดือน
เกร็ดความรู้เกี่ยวกับ เทคโนโลยี Monopolar RF
Radio-frequency (RF) : เป็นเทคโนโลยีที่ใช้พลังงานคลื่นวิทยุ เพื่อความร้อนแก่ผิวหนัง มีเป้าหมาย เพื่อกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนอิลาสติน แล้วก็ไฮยาลูโรนิก นำมาซึ่งการก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เนื้อเยื่อทำให้มีการผลิตคอลลาเจนแล้วก็อิลาสตินใหม่ ลดการเกิดริ้วรอยและผิวหนังที่หย่อนยานคล้อย
oligio กับ Hifu แตกต่างอย่างไร
oligio จะเหมาะสมใน ผู้ที่มีบริเวณใบหน้าหย่อนยานคล้อยที่มี กระเปราะแก้ม มีเหนียง ลักษณะการทำงาน oligio จะปลดปล่อยคลื่นวิทยุประเภท Monopolar RF ซึ่งจะยิงพลังงานลงไปตั้งแต่ชั้นผิวหนังจนกระทั่งชั้นไขมัน ช่วยปรับให้ผิวกระชับ ใบหน้ามีกรอบ และยังเผาผลาญไขมันที่กระเปราะแก้มและเหนียงด้วยค่ะ
ส่วน Hifu จะปลดปล่อยพลังงาน Ultrasound ซึ่งจะส่งพลังงานลงไปลึก ถึงชั้น SMAS เหมาะสมในผู้ที่มีใบหน้าหย่อนคล้อย จะทำให้บริเวณใบหน้ายกและตึงขึ้นจ้ะ
ฉะนั้น ทั้ง 2 เครื่องดำเนินงานคนละอย่างกัน เพื่อคำตอบที่ดีที่สุดก็ควรทำทั้งยัง 2 อย่างเลยคะ
แหล่งที่มา บทความ
oligio https://thehazelclinic.com/oligio/