ดาวโจนส์ไหลไม่หยุด ล่าสุดดิ่งกว่า 200 จุด กังวลเจรจารัสเซีย-ยูเครนไม่คืบ,เฟดขึ้นดบ.
ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดดิ่งลงกว่า 200 จุด ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกต่อการที่ยังคงไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน ขณะที่การสู้รบได้ย่างเข้าสู่เดือนที่ 2
ณ เวลา 21.55 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 34,244.67 จุด ลบ 251.84 จุด หรือ 0.73%
ดัชนีดาวโจนส์ลบ 0.42% เมื่อวานนี้ หลังรายงานการประชุมเดือนมี.ค.ของเฟดระบุว่า กรรมการเฟดสนับสนุนการปรับลดขนาดงบดุล และเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ กรรมการเฟดเห็นพ้องที่จะปรับลดขนาดงบดุลลงเดือนละ 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์อย่างเร็วที่สุดในเดือนพ.ค. และสนับสนุนให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุม 1-2 ครั้ง หากยังคงเผชิญแรงกดดันจากเงินเฟ้อ
ตลาดการเงินคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมทั้งในเดือนพ.ค.และมิ.ย. และอัตราดอกเบี้ยจะแตะระดับ 2.50-2.75% ในช่วงสิ้นปีนี้ ซึ่งจะสูงกว่า 2.4% ซึ่งเป็นระดับที่กรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่าเป็นระดับที่เป็นกลาง
หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ค.ตามที่ตลาดคาดไว้ ก็จะเป็นครั้งแรกที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% นับตั้งแต่ปี 2543
ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวว่า เหตุการณ์ที่กองทัพรัสเซียได้สังหารโหดต่อพลเรือนยูเครนในเมืองบูชา ได้ทำให้การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนประสบความยากลำบากมากขึ้น
"เป็นเรื่องยากมากที่จะเจรจาต่อไป เมื่อคุณเห็นสิ่งที่พวกเขาได้กระทำ ซึ่งหากรัสเซียยิ่งถ่วงเวลาเจรจาออกไปนานเท่าใด สถานการณ์ก็จะเลวร้ายลงเท่านั้น เรารู้ว่าประชาชนถูกฆ่าและทรมานหลายพันคน รวมทั้งมีการฆ่าเด็ก และข่มขืนผู้หญิง เรากำลังสอบสวนเรื่องนี้ และจะแสดงให้สื่อมวลชนทั่วโลกได้เห็น" ปธน.เซเลนสกีกล่าว
ปธน.เซเลนสกีระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นการก่ออาชญากรรมสงคราม และเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 5,000 ราย สู่ระดับ 166,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2511 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 200,000 ราย
นอกจากนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวต่ำกว่าระดับ 215,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ
อย่างไรก็ดี กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.52 ล้านราย