͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: ลูกกลัวหมอฟันเด็กควรจะทำยังไงดี?  (อ่าน 48 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Fern751

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15944
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
ลูกกลัวหมอฟันเด็กควรจะทำไงดี?



ทำไงดี เมื่อลูกน้อยกลัวคุณหมอฟันเด็ก - เด็กกับความกลัวเป็นเรื่องที่คู่กัน เด็กจะกลัวในเรื่องที่จำฝังใจ อย่างเช่น การกลัวการเจ็บ กลัวคนแปลกหน้า ความหวาดกลัวเหตุการณ์ใหม่ๆที่ยังไม่เคยเผชิญมาก่อน ซึ่งความหวาดกลัวจะเกิดขึ้นในช่วงหนึ่งของชีวิตเพียงแค่นั้น โดย ความหวาดกลัวนั้นจะขึ้นกับตัวเด็กอีกครั้งว่าเด็กนั้นก่อนหน้านี้บิดามารดาอาจจะมีต้นเหตุที่ทำให้เด็กกลัว ทันตแพทย์เด็กหรือกลัวการรักษาทางด้านทันตกรรมเด็ก อาทิเช่น ประสบการณ์การดูแลและรักษาทางทันตกรรมเด็ก ในสมัยก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพาเด็กเข้าการดูแลรักษาฟันในระหว่างที่เด็กเจ็บอยู่ฟัน และก็อาจจะทำให้เด็กทั้งเจ็บแล้วกลัวและฝังลึกในใจเลยนำมาซึ่งความหวาดกลัว แล้วก็อาจจะทำให้เด็กกลัวแพทย์ที่ใส่ชุดสีขาว หรือกลัวการเข้าไปรักษาในโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลทันตกรรมต่างๆแล้วก็การฟังจากคำพูดจากพี่น้อง ลูกพี่ลูกน้อง เพื่อนฝูง และก็เด็กอาจจะรับรู้ได้จากความประพฤติบางอย่าง หรือจากสีหน้าท่าทางที่มีความกลุ้มอกกลุ้มใจที่บิดามารดาแสดงออกมาโดยไม่รู้ตัว เป็นต้น

การตระเตรียมลูก สำหรับในการมาพบคุณหมอฟันหนแรก

ทันตกรรมเด็กกับการเตรียมการเด็กที่ดีนั้นมีผลอย่างมากต่อความประพฤติของเด็กรวมทั้งความสำเร็จสำหรับการรักษา ด้วยเหตุผลดังกล่าวคุณพ่อคุณแม่จำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงคำกล่าวที่น่าสยองหรือแสดงความรู้สึกกลุ้มอกกลุ้มใจเกี่ยวกับทันตแพทย์เด็กที่ให้บริการทัตนบาปเด็ก และไม่ควรจะใช้หมอฟันหรือการทำฟันเป็นสิ่งที่ใช้ในการขู่ลูก ยกตัวอย่างเช่น “ถ้าไม่ยินยอมแปรงฟันนะ จะจับไปให้แพทย์ถอนฟันเลย” ซึ่งจะยิ่งทำให้ลูกฝั่งจิตใจรวมทั้งกลัวทันตแพทย์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้คุณพ่อกับคุณแม่บางทีอาจช่วยส่งเสริมทัศนคติในทางบวกต่อแนวทางการทำฟันให้แก่ลูก ยกตัวอย่างเช่น “แพทย์จะช่วยทำให้หนูมีฟันสวยและก็แข็งแรง” นอกจากนี้เมื่อพบว่าลูกมีฟันผุก็ควรจะพาลูกมาทำฟันตั้งแต่ในตอนที่ยังไม่มีอาการปวด แม้คอยให้มีอาการปวดก่อนเด็กจะยิ่งมีความรู้สึกไม่สบายใจสำหรับในการทำฟันเยอะขึ้น

เมื่อมาหาหมอฟันแล้ว แม้ลูกกลัวทันตแพทย์ ไม่ให้ความร่วมมือผู้ดูแลรวมทั้งหมอฟัน ควรทำอย่างไร

เด็กแต่ละคนที่มีความหวาดกลัวก็จะแสดงกริยาที่ไม่เหมือนกันออกไป เด็กที่มีความหวาดกลัวและไม่ร่วมมือ จำเป็นอย่างยิ่งที่หมอฟันจะต้องวิเคราะห์หาสาเหตุของความกลัวของเด็ก เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบในการตรึกตรองเลือกใช้กรรมวิธีการจัดการการกระทำ ซึ่งบิดามารดาจะมีส่วนช่วยเป็นอย่างยิ่งสำหรับการให้ข้อมูลพื้นฐานกลุ่มนี้ ต่อจากนี้ก็จะเป็นหน้าที่ของ ทันตแพทย์ที่จะเลือกใช้แนวทางปรับพฤติกรรมต่างๆเพื่อให้เด็กให้ลดความหวาดกลัว ความรู้สึกหนักใจ และก็ยอมให้ความร่วมมือสำหรับในการทำฟันเด็ก โดยแนวทางที่ใช้มากที่สุดก็คือ การปรับพฤติกรรมโดยวิธีทางจิตวิทยาไม่ว่าจะเป็นการสนทนา ปลอบโยน ชมเชย ช่วยเหลือให้กำลังใจ การเอนเอียง ความพอใจ หรือการแยกผู้ปกครอง ดังนี้ขึ้นอยู่กับอายุของเด็ก ระดับของความร่วมแรงร่วมมือ แล้วก็จำนวนงานหรือ ความรีบของการรักษาด้วย ยกตัวอย่างเช่น ในเด็กตัวเล็กๆต่ำยิ่งกว่า 3 ขวบ ที่ยังคุยติดต่อสื่อสารกันไม่เข้าใจ หรือเด็กที่ไม่ให้ ความร่วมมืออย่างยิ่ง ทันตแพทย์ก็บางทีก็อาจจะควรต้องขออนุญาตใช้ผ้าห่อตัวเด็ก (Papoose board) ช่วยควบคุมการเคลื่อนไหวของเด็กเพื่อให้สามารถให้การรักษาได้ทางด้านทันตกรรมเด็กอย่างปลอดภัยแล้วก็มีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อยๆ หรือบางทีอาจจะเสนอโอกาสการรักษาทางทันตกรรมภายใต้การทานยาให้สงบหรือการดมยาสลบให้แก่ผู้ดูแลเป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งที่ดีที่สุดที่จะทำให้ลูกน้อยไม่กลัวทันตแพทย์เด็ก

สิ่งที่เยี่ยมที่สุดของการมาใช้บริการทันตกรรมเด็ก ที่จะทำให้ลูกของคุณไม่กลัวทันตแพทย์คือ การดูแลช่องปากของลูกไม่ให้มีฟันผุ โดยควรจะพาลูกมาพบหมอฟันตั้งแต่ฟันซี่แรกขึ้นหรือข้างในขวบปีแรก รวมทั้งตรวจฟันอย่างสม่ำเสมอทุกๆ 6 เดือน เมื่อลูกไม่มีฟันผุ เวลาทำฟันเด็กก็ไม่เจ็บ เมื่อไม่เจ็บก็มักจะไม่กลัวทันตแพทย์ แม้กระนั้นเมื่อลูกมีฟันผุแล้วพ่อกับแม่ก็ควรแข็งแกร่งที่จะพาลูกมารับการรักษาตามนัดอย่างสม่ำเสมอ แม้ลูกจะร้องไห้ตั้งแต่อยู่ที่บ้านเมื่อทราบดีว่าจะพามาทำฟันก็ตาม เพื่อให้ลูกของคุณมีสุขภาพช่องปากที่ดี ซึ่งเมื่อมีสุขภาพโพรงปากที่ก็ดีก็จะช่วยสนับสนุนให้เด็กมีพัฒนาการในด้านอื่นๆที่ดีตามไปด้วย