͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: ปัญหาของ แรชฟอร์ด กับฟอร์มอันน่าผิดหวัง  (อ่าน 80 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Prichas

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12494
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
30 ตุลาคม 2021 คือวันสุดท้ายที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด ทำประตูให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ โดยวันนั้นเป็นเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ต้นสังกัดของเขาบุกไปชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 3-0 ซึ่งกุนซือของทีมในตอนนั้นยังเป็น โอเล่ กุนนาร์ โซลชา อยู่เลย

    นับจนถึงปัจจุบันมันก็ปาเข้าไป 11 นัดติดต่อกันจากทุกรายการแล้วที่ แรชฟอร์ด ส่ง.เข้าไปนอนในก้นตาข่ายในการเล่นให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้ แถมในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเขายังทำแอสซิสต์ได้เพียงหนเดียว โดยเกิดขึ้นในเกมลีกที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ อาร์เซน่อล 3-2 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่ ไมเคิ่ล คาร์ริค ได้คุมทีมในฐานะกุนซือชั่วคราว

    ใช่แล้ว นับตั้งแต่เข้าสู่ยุคของ ราล์ฟ รังนิก ดาวเตะชาวอังกฤษยังไม่เคยมีส่วนร่วมกับประตูแม้แต่หนเดียว โดยในนัดล่าสุดที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เอาชนะ แอสตัน วิลล่า 1-0 ในเกม เอฟเอ คัพ รอบ 3 ได้นั้น เขามีจังหวะที่สามารถทำประตูให้กับทีมได้เหมือนกัน แต่เจ้าตัวก็โยนมันทิ้งไป

    คำถามที่น่าสนใจก็คืออะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ แรชฟอร์ด ฟอร์มดร็อปลงอย่างน่าใจหายขนาดนี้ ?

    ว่ากันว่าหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ แรชฟอร์ด ฟอร์มตกเป็นเพราะเขามีปัญหาด้านสภาพจิตใจ ซึ่งต้นกำเนิดของปัญหานี้มาจากการที่เขาเป็นหนึ่งในคนที่ยิงลูกจุดโทษในช่วงดวลเป้าพลาด จนทำให้ทีมชาติอังกฤษแพ้ อิตาลี ในนัดชิงชนะเลิศของศึก ยูโร 2020 เมื่อช่วงซัมเมอร์ ปีก่อน

    ความผิดพลาดในครั้งนั้นทำให้แฟน.บางส่วนรุมตำหนิเขาอย่างหนักจนถึงขั้นมีคนไปทำเรื่องไม่ดีกับภาพบนผนังที่มีคนทำให้เขา และถึงแม้ในเวลาต่อมาแฟน.หลายคนจะไปวางข้อความให้กำลังใจ แรชฟอร์ด ตรงรูปนั้น รวมถึงแสดงท่าทีอื่นๆ ในเชิงที่สนับสนุนเขา แต่มันก็ไม่ได้ทำให้จิตใจของ แรชฟอร์ด ดีขึ้นมากเท่าไหร่นัก

    ทั้งนี้ เดลี่ เมล สื่อของอังกฤษแฉว่าหลังจบเกมนัดชิงชนะเลิศของศึก ยูโร 2020 แล้วนั้น แรชฟอร์ด ก็ซึมจัดจนทำเพียงแค่นอนอยู่บนเตียงเป็นเวลาหลายวัน และเขาก็ติดต่อไปหานักจิตวิทยาด้านกีฬาเพื่อขอคำแนะนำในการผ่านพ้นช่วงเวลาที่เลวร้ายด้วย ซึ่งนั่นถือเป็นครั้งแรกในชีวิตของ แรชฟอร์ด ที่เขาขอความช่วยเหลือจากนักจิตวิทยาด้านกีฬา
 

    นอกจากปัญหาด้านสภาพจิตใจแล้วนั้นมันก็ยังมีประเด็นเรื่องสภาพร่างกายอีก เพราะหากยังจำกันได้หลังจากจบศึก ยูโร 2020 แรชฟอร์ด ก็ตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดตรงหัวไหล่ หลังจากที่เขามีอาการเจ็บเรื้อรังด้านกล้ามเนื้อบริเวณนั้นมาตั้งแต่ฤดูกาลก่อน แต่เจาก็ฝืนกลับมาซ้อมก่อนกำหนดในช่วงกลางเดือนตุลาคมอีก

    เรื่องทั้งหมดมันย่อมส่งผลมาถึงฟอร์มการเล่นอย่างช่วยไม่ได้ แม้ว่าในฤดูกาลนี้ แรชฟอร์ด จะลงเล่นในลีกไปเพียง 11 เกม แต่ผลงานค่าเฉลี่ยของเขาากลับอยู่ในระดับเดียวกับการลงเล่นตลอดทั้งซีซั่นของฤดูกาลก่อนๆ และบางด้านก็ถึงขั้นที่ว่าแย่ลงอย่างชัดเจนด้วยซ้ำ


    ขณะเดียวกันในฤดูกาลนี้ แรชฟอร์ด ก็ถือเป็นนักเตะของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่มีเปอร์เซ็นต์จับ.ในลีกพลาดจนทำให้เสียการครอง.มากที่สุด หากนับเฉพาะคนที่ลงเล่นไปอย่างน้อย 150 นาทีด้วย ด้วยจำนวนสูงถึง 33% จากจำนวนครั้งการจับ.ทั้งหมดของเจ้าตัว ขณะที่ในเกมนัดล่าสุดกับ วิลล่า เขาก็จ่าย.เข้าเป้าแค่ 68% จากการพยายามผ่าน. 25 ครั้ง ซึ่งในบรรดาคนที่ลงเล่นเป็นตัวจริงในวันนั้น มีเพียง บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่มีเปอร์เซ็นต์ด้านนี้แย่กว่าเขา

    บางคนอาจจะบอกว่าสาเหตุที่ทำให้ แรชฟอร์ด ฟอร์มตกมันเป็นเพราะเขาให้ความสำคัญกับงานด้านการกุศลที่เจ้าตัวพยายามทำการรณรงค์ให้เด็กๆ ที่ยากจนยังมีอาหารการกินที่ดี จนทำให้เขาไม่มีสมาธิกับการเล่นฟุต.มากเท่าไหร่นัก แต่มันไม่ใช่อย่างนั้นเลย เพราะทุกวันนี้เขาให้ทีมงานของเขาเป็นคนจัดการเรื่องการกุศลจนทำให้เจ้าตัวสามารถทุ่มเทกับการเล่นฟุต.ได้อย่างเต็มที่อยู่แล้ว

 

ปัญหาของ แรชฟอร์ด กับฟอร์มอันน่าผิดหวัง
 

    ดังนั้นตอนนี้มันก็ขึ้นอยู่กับ แรชฟอร์ด รวมถึงทีมสตาฟฟ์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด เองว่าจะแก้ปัญหานี้ยังไงดี เพื่อที่มันจะได้เป็นผลดีต่อทั้งตัว แรชฟอร์ด เอง และต่อ แมนฯ ยูไนเต็ด ตามไปด้วย