เดือนสุดท้ายของปี 2021 มี
เกมพรีเมียร์ลีก ลงทำการแข่งขันกันเพียบ โดยสัปดาห์นี้ เราคัด 7 คู่เน้นๆ ที่มีประเด็นน่าสนใจก่อนเกมมาฝากแฟน ๆ
"เวสต์แฮม-เชลซี"
เชลซี บุกคว้าชัยเกม ลอนดอน ดาร์บี้ ใน พรีเมียร์ลีก มาแล้ว 7 นัดติดต่อกัน ซึ่งเป็นสถิติดีที่สุดตลอดกาลของวงการฟุต.เมืองผู้ดี โดยในจำนวนนั้นมีถึง 6 นัดที่พวกเขาสามารถเก็บคลีนชีตได้ และหนึ่งประตูที่เสียไปคือเสียให้แก่ คริสติย็อง เบนเตเก้ เมื่อเดือนเมษายน
ขณะที่ เวสต์แฮม เอาชนะเกมลีกในบ้านเหนือ "สิงห์บลูส์" 3 จาก 6 เกมหลัง (เสมอ 1 แพ้ 2) เทียบเท่าก่อนหน้านี้ 14 นัด (เสมอ 3 แพ้
ซึ่ง "เดอะ แฮมเมอร์ส" แพ้เกมดาร์บี้ แมตช์ กรุงลอนดอน 2 จาก 4 เกมหลัง (ชนะ 1 เสมอ 1) อย่างไรก็ตาม พวกเขาเอาชนะในเกม ดาร์บี้ แมตช์ ได้จากนัดล่าสุดคือการสยบ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ถึงกระนั้น "ขุนค้อน" ชนะทีมร่วมเมืองสองเกมติดต่อกันครั้งล่าสุด ต้องย้อนไปเมื่อเดือนมกราคม ปี 2019 ที่ทำได้ 3 นัดติด
เชลซี ชนะ เวสต์แฮม ไปกลับเมื่อซีซั่นก่อน ทว่าครั้งสุดท้ายที่พวกเขาชนะ "ขุนค้อน" 3 เกมติดบนลีกสูงสุด 3 เกมติดได้นั้นเกิดขึ้นระหว่างเดือนมีนาคม ปี 2010 ถึงเดือนเมษายน ปี 2011
"วูล์ฟส์-ลิเวอร์พูล"
ADVERTISEMENT
ลิเวอร์พูล ไม่ปราชัยในการออกไปเยือนถิ่น วูล์ฟส์ ตลอด 6 เกมหลังที่ลงเตะเกมลีก (ชนะ 5 เสมอ 3) โดยครั้งสุดท้ายที่แพ้นั้น เกิดขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 1981
ขณะเดียวกัน "ทีมหมาป่า" ชนะแค่นัดเดียวจากการเจอกับ "หงส์แดง" 14 นัดหลังสุดในเกม พรีเมียร์ลีก (เสมอ 2 แพ้ 11) ชัยชนะดังกล่าวต้องย้อนไปเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2010 (ชนะ 1-0 ที่ แอนฟิลด์)
นับตั้งแต่กลับขึ้นมาเล่น พรีเมียร์ลีก เมื่อปี 2018 วูล์ฟส์ แพ้ในบ้านตัวเองยามที่ลงเตะช่วงเวลาบ่าย 3 โมง(ตามเวลาท้องถิ่น) แค่ 2 นัดเท่านั้น โดยชนะ 7 เสมอ 4 ซึ่งความพ่ายแพ้เกิดขึ้นต่อ วัตฟอร์ด 0-2 เมื่อเดือนตุลาคม 2018 และ แพ้ เชลซี 2-5 เมื่อเดือนกันยายน ปี 2019
"วัตฟอร์ด-แมนฯ ซิตี้"
ADVERTISEMENT
จากที่เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาได้นั้น วัตฟอร์ด ก็มองหาชัยชนะเหนือสองทีมจากเมือง แมนเชสเตอร์ ในเกมลีกซีซั่นเดียวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 1986/87
อย่างไรก็ตาม "แตนอาละวาด" ยังไม่เคยชนะ "เรือใบสีฟ้า" ในเกม พรีเมียร์ลีก ได้เลย (เสมอ 2 แพ้ 10) โดยในความปราชัยเกิดสกอร์รวมถึง 4-37
18 นัดที่ แมนฯ ซิตี้ เจอ วัตฟอร์ด ทุกรายการ พวกเขายังไม่แพ้เลย (ชนะ 16 เสมอ 2) โดยยิงได้ถึง 59 ประตู ซึ่งมีแค่ นอริช ( 22 นัดระหว่างปี 1965-1981), วอลซอลล์ (19 นัดตั้งแต่ปี 1897) และ เวสต์บรอมวิช (19 นัดตั้งแต่ปี 2010) เท่านั้นที่ "เรือใบสีฟ้า" ไม่แพ้ติดต่อนานมากกว่า
ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไม่แพ้ต่อทีมใดในเดือนธันวาคมมาแล้ว 10 นัดติดต่อกัน (ชนะ 7 เสมอ 3) โดยในจำนวนนั้นพวกเขาทำได้ 17 ประตู และเสียแค่ 3 ลูก
"แมนฯ ยูไนเต็ด-คริสตัล พาเลซ"
คริสตัล พาเลซ บุกเอาชนะ แมนฯ ซิตี้ มาแล้ว 2-0 และครั้งสุดท้ายที่ทีมจากเมืองลอนดอน สามารถคว้าชัยเหนือสองทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์ ได้บนลีกสูงสุดซีซั่นเดียวกันคือ อาร์เซน่อล เมื่อตอนฤดูกาล 1990/91
ปีก่อน "ปีศาจแดง" พลาดคว้าชัยเหนือ พาเลซ ทั้งสองนัด (เสมอ 1 แพ้ 1) โดยพวกเขายังไม่เคยไม่ชนะ "ดิ อีเกิ้ลส์" 3 นัดติดเลยนับตั้งแต่ช่วงปี 1925-1970
พาเลซ บุกชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ถึงถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด มาแล้ว 2 ครั้งติดต่อกัน เทียบเท่ากับสถิติก่อนหน้านี้ 22 นัด(ชนะ 2 เสมอ 3 แพ้ 17) นอกจากนี้ "ปราสาทเรือนแก้ว" เก็บแต้มจาก "ปีศาจแดง" 7 คะแนนจากการเจอกัน 4 นัดหลัง (ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 1) โดยเทียบเท่ากับก่อนหน้านี้ที่เก็บได้คะแนนเท่ากันแต่ต้องใช้จำนวนเกมมากถึง 23 นัด(ชนะ 1 เสมอ 4 แพ้ 18)
"สเปอร์ส-นอริช"
หลังจากผ่าน 25 เกมอันเลวร้ายที่ไม่ชนะในกรุงลอนดอน บนเวที พรีเมียร์ลีก นอริช ก็ลบล้างสถิตินั้นได้เมื่อเอาชนะ เบรนท์ฟอร์ด 2-1 โดยที่ครั้งสุดท้ายที่พวกเขาเอาชนะที่เมืองหลวง อังกฤษ 2 เกมติดได้ ต้องย้อนไปเมื่อเดือนสิงหาคม-กันยายน ปี 1992 ที่บุกชนะได้ทั้ง อาร์เซน่อล, เชลซี และ คริสตัล พาเลซ
แฮร์รี่ เคน ยิงประตูใส่ นอริช ในเกม พรีเมียร์ลีก ไปแล้ว 5 ประตูจาก 3 เกมที่เจอกัน โดยทั้งสามนัดมีลูกจุดโทษเกิดขึ้นทั้งหมด ซึ่งไม่มีผู้เล่นคนไหนในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก ที่จะยิงจุดโทษใส่ทีมทีมเดิมเป็นจำนวน 4 เกมติดต่อกัน
"ไก่เดือยทอง" ยังไม่เสมอกับใครในการเล่นในบ้านเกมลีกที่ลงเตะในคืนวันอาทิตย์ โดยชนะได้ 11 นัด และแพ้ 3 ลึกไปกว่านั้น พวกเขาเอาชนะได้ถึง 6 จาก 7 นัดหลังที่ลงเตะวันอาทิตย์ ซึ่งความปราชัยนัดเดียวเกิดขึ้นต่อ เชลซี 0-3
2 จาก 3 นัดที่ นอริช เอาชนะ สเปอร์ส ได้บนเวที พรีเมียร์ลีก เกิดขึ้นจากการออกไปเยือน "ไก่เดือยทอง" ตอนเดือนธันวาคม ปี 1993 และเดือนเมษายน ปี 2012
"แอสตัน วิลล่า-เลสเตอร์"
ในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก มีแค่ มิดเดิลสโบรส์ (15 นัด- แมนฯ ยูไนเต็ด), ฟูแล่ม (14 นัด-แมนฯ ซิตี้) และ เวสต์บรอมฯ (13 นัด-อาร์เซน่อล) ที่ทีมใดทีมหนึ่งลงเล่นในบ้านตัวเองแล้วไม่สามารถเก็บคลีนชีตต่ออีกทีมได้มากกว่าที่ แอสตัน วิลล่า เสียประตูให้ เลสเตอร์ ซิตี้ ตลอด 12 เกมหลังสุดที่รับมือ "เดอะ ฟ็อกซ์" โดยในจำนวนนัดดังกล่าว พวกเขาเสียไปถึง 23 ประตูด้วยกัน
เลสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะ วิลล่า ได้ถึง 5 จาก 7 เกมที่เจอกันหลังสุด (เสมอ 1 แพ้ 1) เทียบเท่ากับสถิติก่อนหน้านี้ 22 นัดที่เจอกัน (เสมอ 9 แพ้
ขณะเดียวกัน 'สิงห์ผงาด" แพ้ต่อ "เดอะ ฟ็อกซ์" ในบ้านตัวเอง 2 เกมหลังสุด โดยครั้งสุดท้ายที่แพ้ต่อ เลสเตอร์ ที่สนาม วิลล่า พาร์ค 3 เกมติดนั้น เกิดขึ้นเมื่อช่วงระหว่างปี 1936-1954
เจมี่ วาร์ดี้ ทำประตูใส่ วิลล่า ได้ถึง 5 ลูกจาก 5 เกมหลังที่เจอกัน ขณะที่ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ เพื่อนร่วมทีมก็มีส่วนกับประตูใน วิลล่า 4 ลูกจาก 3 เกมหลัง(3 ประตู 1 แอสซิสต์)
"เอฟเวอร์ตัน-อาร์เซน่อล"
เอฟเวอร์ตัน เอาชนะ อาร์เซน่อล ได้ทั้งสองนัดที่เจอกันเมื่อซีซั่นที่แล้ว อย่างไรก็ดี พวกเขาไม่ชนะ "ปืนใหญ่" ติดต่อกัน 3 นัดในลีกเลยนับตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 1986
ส่วน "เดอะ กันเนอร์" ไม่สามารถบุกชนะที่บ้านของ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ในการเจอกันเกมลีก 3 นัดหลังสุด(เสมอ 1 แพ้ 2) โดยครั้งสุดท้ายที่ไม่ชนะนานกว่านี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงระหว่างปี 1989-1994 ที่ไม่ชนะ 6 นัดติด
อาร์เซน่อล ทำประตูใส่ เอฟเวอร์ตัน ในเกม พรีเมียร์ลีก ไปแล้ว 111 ประตูมากกว่าทีมอื่น ๆ ที่พวกเขาทำได้ โดยมีแค่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เท่านั้นที่มีสถิติยิงประตูใส่คู่แข่งทีมเดิมได้มากกว่า (112 - นิวคาสเซิ่ล)
เอฟเวอร์ตัน แพ้ในการลงเล่นคืนวันจันทร์ในซีซั่นนี้ต่อ วูล์ฟส์ 1-2 ซึ่งพวกเขาไม่แพ้ในการลงเตะวันนี้ 2 ครั้งติดนับตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2006-เดือนมกราคม ปี 2007 (ต่อ เชลซี และ แมนฯ ซิตี้)