ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 54.77 จุดเมื่อคืนนี้ (16 พ.ย.) ขานรับยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 1.7% ในเดือนต.ค. ได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น และยอดขายรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 36,142.22 จุด เพิ่มขึ้น 54.77 จุด หรือ +0.15%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,700.90 จุด เพิ่มขึ้น 18.10 จุด หรือ +0.39% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,973.86 จุด เพิ่มขึ้น 120.01 จุด หรือ + 0.76%
ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้นขานรับยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 1.7% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.4% โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น และยอดขายรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน
ตลาดยังได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่สดใสของบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ โดยวอลมาร์ทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 ที่ระดับ 1.45 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.40 ดอลลาร์
หุ้น 4 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยพุ่งขึ้น 1.38% และดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น 1.07%
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐดีดตัวขึ้น 1.6% ในเดือนต.ค. หลังจากร่วงลง 1.3% ในเดือนก.ย. โดยตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวม เป็นมาตรวัดการปรับตัวของภาคโรงงาน, เหมืองแร่ และสาธารณูปโภคของสหรัฐ
หุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านดีดตัวขึ้น หลังจากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐ เผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านดีดตัวขึ้น 3 จุด สู่ระดับ 83 ในเดือนต.ค.
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนต.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีการผลิตเดือนพ.ย.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย