͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: SAPPE ทำนิวไฮ กำไรไตรมาส3/64 เฉียด 143 ล้าน ลุยดิจิทัล ทรานส์ฟอร์ม  (อ่าน 78 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Shopd2

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 11951
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2564 ว่ามีรายได้รวม 1,083.9 ล้านบาท เติบโต 13.6% และมีกำไรสุทธิ 142.9 ล้านบาท เติบโต 6.3% ดันผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรก มีรายได้รวม 2,816.9 ล้านบาท เติบโต 11.5% และมีกำไรสุทธิ 353.2 ล้านบาท เติบโต 18% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า หลังตลาดต่างประเทศฟื้นตัวแรงต่อเนื่อง โดยเฉพาะ High Season ในไตรมาสที่ 2/2564 ต่อเนื่องมายังไตรมาสที่ 3/2564

“ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2564 ที่แข็งแกร่ง มาจากแบรนด์สินค้าที่เข้าถึง Lifestyle ของผู้บริโภค และการสร้างช่องทางการขายในรูปแบบใหม่ๆ ของตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะ เอเชีย สหรัฐอเมริกา ยุโรป และตะวันออกกลาง หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในหลายๆ ประเทศเริ่มคลี่คลายขึ้น กำลังซื้อผู้บริโภคมีมากขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวชัดเจน นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์แบบ O2O หรือ Online to Online/Offline Marketing ผสมผสานการทำตลาดบนออนไลน์และการขายทั้งบนออนไลน์/ออฟไลน์ให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็ว ส่งผลให้สามารถสร้างยอดขาย New High ได้ในไตรมาส 3”

ส่วนตลาดในประเทศ นางสาวปิยจิต กล่าวยอมรับว่า ยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดอยู่พอสมควร บริษัทฯ จึงปรับกลยุทย์มุ่งเน้นไปที่การขายผ่านช่องทางออนไลน์บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ (Online Commerce) อาทิ e-Marketplace รวมถึง Chat Commerce เช่น Line และ Facebook Messenger เพื่อเป็นทางเลือกในการเข้าถึงสินค้าและโปรโมทกิจกรรมการตลาดในช่วงสถานการณ์โควิด-19 รองรับกลุ่มผู้บริโภคที่มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต โดยเฉพาะการซื้อสินค้าที่หันมาสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายจากช่องทางออนไลน์ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้เติบโตกว่า 600% ทั้งนี้มั่นใจว่าทั้งตลาดต่างประเทศและในประเทศจะมีผลตอบรับดีต่อเนื่อง ดันผลการดำเนินงานในปีนี้สามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้




นางสาวปิยจิต กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2564 ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทฯ มีมติอนุมัติการเข้าลงทุนซื้อหุ้นใน บริษัท เอ็มอินเทลลิเจนซ์ จำกัด (“M-Intel”) ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ตอัพไทยที่มีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM), การวิเคราะห์ข้อมูล และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อช่วยในการเพิ่มยอดขาย ทำการตลาด การขาย การบริการแบบครบวงจร ช่วยยกระดับการดำเนินงานของธุรกิจ และ Customer Experience

โดยเข้าถือหุ้น M-Intel จำนวน 116,667 หุ้น เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 70,000,200 บาท คิดเป็นสัดส่วน 16.21% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ M-Intel โดยเงินจำนวนดังกล่าว จะนำไปใช้ในการขยายธุรกิจให้เติบโตในอนาคต นับเป็นการลงทุนในกลุ่มธุรกิจใหม่ พร้อมเข้าสู่โลก Digital Transformation ซึ่งไม่ได้แค่นำเทคโนโลยีมาใช้ แต่นับเป็นการเพิ่ม Space ใหม่ในการต่อยอดทางธุรกิจของเซ็ปเป้จากนี้