รอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนว่า ตลาดหลักทรัพย์ปักกิ่งเปิดการซื้อขายอย่างเป็นทางการโดยมี 81 บริษัทนำหุ้นเข้าซื้อขายเป็นปฐมฤกษ์ในตลาดหุ้นแห่งที่ 3 ของจีน ต่อจาก ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ และเสิ่นเจิ้น ทั้งนี้เพื่อรองรับแนวยโยบายของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ว่าด้วย “ความรุ่งเรืองร่วมกัน” ที่มีเป้าหมายหลักเพื่อลดช่องว่างของความมั่งคั่งภายในประเทศ
ตลาดหุ้นปักกิ่ง ก่อตั้งขึ้นเพื่อให้เป็นแหล่งระดมทุนสำหรับกิจการขนาดกลางและขนาดเล็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการที่เริ่มต้นกิจการด้วยตัวเอง (เอนเทอร์เพรเนอร์) นายอี้ ฮุ่ยมัน ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์แห่งจีน (ซีเอสอาร์ซี) ระบุว่า การเปิดตลาดหุ้นปักกิ่งถือเป็นหมุดหมายสำคัญของการปฏิรูปตลาดทุนของจีน ซึ่งจะเป็นตลาดทุนที่มีหลายระดับ, ทำให้โอกาสในการระดมทุนของเอสเอ็มอีปรับตัวดีขึ้น และเป็นตัวผลักดันให้เกิดนวัตกรรมและการยกระดับเศรษฐกิจประเทศในที่สุด
ตลาดปักกิ่งจะเป็นตลาดเสริมสำหรับตลาดหุ้นขนาดใหญ่กว่า อย่างเช่นตลาดเซี่ยงไฮ้ ซึ่งมุ่งให้ความสำคัญไปที่การซื้อขายหุ้นของบริษัททางด้านเทคโนโลยี และตลาดเสิ่นเจิ้น โดยตลาดที่ก่อตั้งขึ้นก่อนทั้ง 2 นี้รองรับบริษัทธุรกิจที่มีมูลค่าตลาดรวม (มาร์เก็ตแคป) สูงกว่ามาก
จนถึงขณะนี้ มีนักลงทุนกว่า 4 ล้านรายเปิดบัญชีเพื่อเข้าทำการซื้อขายในตลาดหุ้นแห่งใหม่นี้ ในขณะที่บริษัทที่นำหุ้นเข้าเสนอขายในตลาดแห่งนี้ส่วนใหญ่มาจากภาคธุรกิจซอฟท์แวร์, ฟาร์มาซูติคอล และโรงงานผลิตชั้นสูง โดยในการซื้อขายวันแรกมี 10 บริษัทที่ราคาหุ้นพุ่งกระฉูดเกิน 30 เปอร์เซ็นต์จนต้องระงับการซื้อขายชั่วคราวตามกฏตลาด