บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)
วิเคราะห์หุ้นบริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหารหรือ CPF จากการที่ CPF แจ้งว่าC.P. Pokpand (CPP) ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ CPF ถือหุ้น 52.24% ได้ออกประกาศแจ้งเตือนกำไร โดยคาดว่าผลประกอบการที่ยังไม่ได้สอบทานของ CPP ในงวด 9M64 จะขาดทุนอยู่ในช่วง 15-20 ล้านดอลลาร์ฯ จากที่มีกำไร 496 ล้านดอลลาร์ในงวด 9M63 ซึ่งประกาศฉบับนี้ออกมาหลังจากที่มีการออกประกาศแจ้งเตือนเมื่อเดือนที่แล้วว่ากำไรในงวด 8M64 จะลดลงเหลือ 112 ล้านดอลลาร์ฯ (-75% YoY) ทั้งนี้ CPP อธิบายว่าผลประกอบการที่แย่ลงอย่างมากเป็นเพราะ i) ราคาสัตว์ปีก และหมูในจีนลดลง รวมถึงราคาหมูในเวียดนามลดลง ii) มูลค่าเหมาะสมของสินทรัพย์ชีวภาพลดลงสุทธิอย่างมีนัยสำคัญ โดยประเมินว่าจะมีผลขาดทุนจากสินทรัพย์ชีวภาพอยู่ในช่วง 125-130ล้านดอลลาร์ฯ ในงวด 9M64
จากประกาศแจ้งเตือนกำไรดังกล่าว จะหมายถึงว่า i) CPP จะมีผลขาดทุนสุทธิใน 3Q64 อยู่ระหว่าง 177-182 ล้านดอลลาร์ฯ (6.0-6.1 พันล้านบาท) จากที่มีกำไร 260 ดอลลาร์ฯ ใน 3Q63 ii) CPP จะมีผลขาดทุนจากสินทรัพย์ชีวภาพใน 3Q64 อยู่ระหว่าง 76-81 ล้านดอลลาร์ฯ (2.6-2.7 พันล้านบาท) iii) เนื่องจาก CPF ถือหุ้น 52.24% ใน CPP ดังนั้น CPF จึงจะรับรู้ส่วนแบ่งผลขาดทุนจาก CPP ประมาณ 3.1-3.2 พันล้านบาทซึ่งรวมผลขาดทุนจากสินทรัพย์ชีวภาพ 1.3-1.4 พันล้านบาทใน 3Q64 ด้วย
เราประเมินคร่าว ๆ ว่าตามประกาศแจ้งเตือนของ CPP ผลขาดทุนจากสินทรัพย์ชีวภาพ มี downside อีกอย่างน้อย 500 ล้านบาท จากประมาณการของเรา ในขณะที่ผลขาดทุนจากการดำเนินงานของบริษัทน่าจะเป็นไปตามสมมติฐานของเรา ดังนั้น เราจึงคิดว่ากำไรสุทธิของ CPF ใน 3Q64F มี downside จากประมาณการเดิมของเราที่ 776 ล้านบาทอีกอย่างน้อย 500 ล้านบาทซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาหุ้น CPF ในระยะสั้น แต่เรามองว่าโครงการซื้อหุ้นคืนของบริษัทจะช่วยจำกัดการอ่อนตัวของราคาหุ้นเรายังคงคำแนะนำซื้อ CPF เนื่องจากมองว่าผลประกอบการของ CPF จะฟื้นตัวขึ้นในปีหน้า โดยเรายังคงประมาณการกำไรปกติปี 2565F เอาไว้ที่ 1.82 หมื่นล้านบาท และประเมินราคาเป้าหมายที่ 30.50 บาท
ปัจจัยเสี่ยงโรคระบาดในสัตว์บก และสัตว์น้ำ, ต้นทุนอาหารสัตว์แพง, เศรษฐกิจโลกถดถอย
ที่มา : บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)