ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดวันพุธ(20ต.ค.)ปรับตัวขึ้น 91 เซนต์ หลังสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าเพิ่มขึ้น
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนพ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 91 เซนต์ ปิดที่ 83.87 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 74 เซนต์ ปิดที่ 85.82 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 400,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล
สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (เอพีไอ) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
อีไอเอ ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ ลดลง 2.4 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 5.4 ล้านบาร์เรล
ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 3.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 2.4 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ ราคายังได้แรงหนุนจากความต้องการใช้พลังงานของจีน ท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเย็น, การที่ผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าหันมาใช้น้ำมันดิบและน้ำมันดีเซล หลังการพุ่งขึ้นของราคาถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ, อุปสงค์น้ำมันที่พุ่งขึ้นจากการเปิดเศรษฐกิจของหลายประเทศ
รวมทั้งจากการที่ซาอุดีอาระเบียได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องจากสหรัฐที่ต้องการให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีกเพื่อสกัดราคาพลังงานที่พุ่งขึ้นในขณะนี้
ทั้งนี้ โอเปกพลัสมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 400,000 บาร์เรล/วันในเดือนพ.ย. แม้ว่าหลายประเทศ เช่น สหรัฐและอินเดีย ต่างกดดันให้โอเปกพลัสเพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้นเพื่อชะลอการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน
นักลงทุนจับตาการประชุมของโอเปกพลัสในวันที่ 4 พ.ย.เพื่อกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันสำหรับเดือนธ.ค.