͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: บิ๊กแมตช์เป๊ปชนะ เกมรับหงส์สอบตก  (อ่าน 103 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Chanapot

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 14700
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด

ไม่ง่ายที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ทำทีมแล้วแพ้สามนัดติดต่อกันโทมัส ทูเคิล คือหนึ่งในสองโค้ชที่ทำได้เช่นนั้น เขาพาเชลซีเชือดแมนฯซิตี้ 3 นัดซ้อนๆ จากเม.ย. และพ.ค. พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ และปิดด้วยแชมเปี้ยนส์ลีก
พรีเมียร์ลีก และเอฟเอ คัพ
อาจพอแก้ตัวว่า "โรเตชั่น" แต่ช.ป.ล ไม่มีสิทธิ์เลย ทูเคิล "ฝีมือ" ล้วนๆในการล้ม เป๊ป เข้าใจว่าการคิดมากของเขาในนัดชิงชนะเลิศอาจนำไปสู่ความล้มเหลวในถ้วยยุโรปที่ไล่ล่ามานานนับจากท่านชีค มันซูร์ ซื้อสโมสร 

นักข่าวบีบีซี ทำวิจารณ์พร้อมล้อเลียน เป๊ป ว่า  Four-lorn มั้ย

คือจะโดนสี่นัดติดหรือเปล่า พ้องเสียงคำว่า  forlorn ที่แปลว่า "สิ้นหวัง"

โดนหรือเปล่าก็เรื่องหนึ่ง....แต่โค้ชสองคนนี้เขาก็มีอะไรให้เราศึกษาได้ครับ

เมื่อครั้งทำงานในเยอรมันทั้งสองคน ทูเคิล ในฐานะโค้ชหน้าใหม่ พยายามพูดคุยกับ เป๊ป เรื่องแทกติก ถึงขั้นนัดดื่มไวน์ด้วยกันที่มิวนิค จากบทความของ เจสัน เบิร์ช หัวหน้านักข่าวสายกีฬาของน.ส.พ. เดอะ เทเลกราฟ บอกว่า...ทูเคิล นัดเจอ เป๊ป ที่ร้านอาหารสไตล์อเมริกันแถบ โอเดียนพลาทส์ (จตุรัสโอเดียน) เมื่อ 7 ปีก่อน 

บิ๊กแมตช์เป๊ปชนะ เกมรับหงส์สอบตก
ตอนนั้น ทูเคิล คุม ดอร์ทมุนด์ เป๊ป ก็บาเยิร์น โดยหลังเกมดอร์ทมุนด์ โดนเสือใต้ถล่ม 5-1 ทูเคิล ขอคุยเรื่องแทกติกการเล่น เหมือนเป็นตำรานอกห้องเรียนคือ ทูเคิล ถาม เป๊ป อธิบาย ว่าทำไมเขาถึงวางแผนแบบนั้น แบบนี้ นั่นทำให้ ทูเคิล ดูดซึมวิชาความรู้จาก เป๊ป ที่ถ่ายทอดให้เพื่อนร่วมอาชีพที่เป็นคู่แข่งกัน

6 ปีต่อมา ทูเคิล เอาชนะเป๊ป ได้สามครั้งติดและเป็นนัดสำคัญคือคว้าแชมป์ยุโรปด้วยการล้มยอดโค้ชที่เขายกย่องนับถือและศึกษาแนวทางการทำงาน ... ทูเคิล บอกก่อนเกมเจอ เป๊ป ที่เดอะ บริดจ์ ว่า "ผมตามดูเขาทำงานมาตั้งแต่ผมอยู่ไมนส์ ตอนนั้น เป๊ป คุมทีมบาร์เซโลนา"

ADVERTISEMENT


"ผมแพ้ เป๊ป ในเยอรมันสี่ครั้ง แต่ทุกครั้งที่แพ้แทกติกของผมดีขึ้นเรื่อยๆ ตอนนั้นผมไม่รู้ว่าจะเอาชนะ เป๊ป ได้ยังไง"

พอเข้ามาวงการฟุต.อังกฤษเมื่อเดือน ม.ค. ต้นปี ทูเคิล ทำในสิ่งที่เขาไม่คิดว่าจะทำได้นั่นคือชนะ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า 3 นัดซ้อน แต่การเอาชนะสี่นัดติดต่อกันต่อยอด ผ.จ.ก. ระดับโลก แบบนี้ มันก็คงเป็นเรื่องที่แตกต่างออกไป

ทำไม ทูเคิล แพ้....เที่ยวล่าสุดนี้??? 

บิ๊กแมตช์เป๊ปชนะ เกมรับหงส์สอบตก
เหตุผลไม่กี่ข้อครับแต่เนื้อใหญ่ใจความคือ "แนวคิด" ในการเล่นที่ เป๊ป เน้นว่า เชลซีต้องสวนกลับไม่ได้มากนัก 

แทกติกของ ทูเคิล คือ "รับแล้วสวน" แต่เกมนี้พวกเขารับซะเป็นส่วนใหญ่ ได้สวนบ้างประปราย แต่ เป๊ป ไม่ให้สวน

1 การมีโรดริโก้ ที่เขาไม่ยอมใช้นัดชิงช.ป.ล ทั้งที่ โรดรี้ คือส่วนหนึงของกลางรับ เป็นกระดูกสันหลังของทีม ทำให้กลางรับขาดตัวทำลายเกมไป แต่เกมนี้ โรดริ คือตัวกลาง การเก็บกวาดจังหวะสวนกลับของเชลซี คือหน้าที่ของเขา ซึ่งเกมนี้เขามีส่วนนั้น ทำให้เกมสวนกลับเชลซี ทำได้ยาก

2 เมสัน เมานต์ ....การบาดเจ็บของ เม้นต์ทำให้มิติเกมรุกหายไป จังหวะสวนกลับของ เม้านต์ ช่วยได้เยอะ แต่เกมนี้ไม่มีเขาเล่นตรงนั้น เป็น ติโม แวร์เนอร์ แทน ไม่ใช่ ฮาแวร์ตส์ เพราะ ต้องการเก็บสวนกลับเร็วด้วยนั่นเอง 

บิ๊กแมตช์เป๊ปชนะ เกมรับหงส์สอบตก
3 หมากสามกองกลาง ก็องเต้, โควาซิช และ จอร์จินโญ เหมาะสมแล้ว เล่นกับ ซิตี้ ต้องแบบนี้ แต่...สิ่งที่เกิดขึ้นคือแดนกลางเชลซี รับอย่างเดียวเพราะโดนบีบไม่ให้สวนกลับง่ายๆจาก เป๊ป ที่เรียนรู้ความผิดพลาดในสามนัดล่าสุดโดยเฉพาะนัดชิงชนะเลิศ 

4 ทีมเป๊ป เจาะแดนสามได้...ถ้าดูจากการเข้าเขตโทษ หรือจังหวะสกอร์ของ แมนฯซิตี้ ต้องยอมรับว่า พวกเขาน่าชนะ 3-0 มากกว่า 1-0 จากโอกาสที่ได้รับ แจ๊ค กรีลิช หลุดเดี่ยว จังหวะยิงระยะ 10 หลาแล้วโดนสกัดจากเส้น มันเกิดขึ้นช่วงที่นำ 1-0 ถือว่าเกมนี้ เป๊ป วางแผนมาเจาะเกมรับเชลซีได้ดีกว่านัดชิง ช.ป.ล โดยเฉพาะการเจาะช่องเซนเตอร์กับแบ๊กได้ดี 

ชัยชนะของ เป๊ป เกิดจากการเกมแพลน คุมเกมรุกให้ได้และเบรกการสวนกลับของเชลซี 

อาจเกิดช้าจากเกมนัดชิงชนะเลิศ ช.ป.ล นั่นเป็นเพราะความผิดพลาดของ เป๊ป ที่เปลี่ยนทีมที่ดีที่สุด เพราะเชื่อในระบบการเล่นของตัวเอง

มาต่อที่คู่ เบรนท์ฟอร์ด-ลิเวอร์พูลกันบ้าง

บิ๊กแมตช์เป๊ปชนะ เกมรับหงส์สอบตก
ผมไม่ได้ดูคู่แมนฯยูฯ-วิลล่า เพราะดู บิ๊กแมตช์ เชลซี 0-1 แมนฯ ซิตี้เป็นหลัก

ทราบว่าคู่แมนฯยูฯ ได้จุดโทษด้วยหลังจาก "น้าลูกอม" กดดัน การทำงานผู้ตัดสินเรื่องจุดโทษ ได้ผล ....พูดวันศุกร์ วันเสาร์ ได้เลย เป็นจิตวิทยาพื้นฐานของโค้ชครับ ไม่ใช่เรื่องใหม่

เมื่อไม่ได้ดู...ก็คงวิพากษ์อะไรไม่ได้ ขอข้ามมาที่คู่ลิเวอร์พูล เยือนน้องใหม่ เบรนท์ฟอร์ด ละกันครับ

เกมนี้ เจเค กลับมาใช้ชุดเต็มทีม ขาดแค่แดนกลางเลือกใครเล่นกับ เฮนโด้ และ ฟาบินโญ ซึ่ง คล็อปป์ เลือก เคอร์ติส โจนส์ ลงเล่น ส่วนเบรนท์ฟอร์ดของ โทมัส แฟร้งค์ เน้นระบบ 5-3-2 เหมือนเดิม 11 คนแรกแทบไม่เปลี่ยนเลย ประตู รายา นักเตะสเปน สามเซนเตอร์ อาเจอร์, ยานส์สัน, พินนอค วิงแบ๊กสองข้างทางขวา เซร์กี กานอส เด็กเก่าหงส์ ยุค คลอปป์ ปีแรก ทางซ้าย เฮนรี กลางสามคน ออนเยนกา, นอร์การ์ด, กาเนลต์ หน้าคู่ เอมโบโม และ โทนี  ชุดประจำของทีม

 

บิ๊กแมตช์เป๊ปชนะ เกมรับหงส์สอบตก
1 นี่คือครั้งแรกนับจาก พ.ค. ปี 1947 ในลีกสูงสุดที่เจอกัน เกมนั้นจบด้วยผลเสมอ 1-1 เบรนต์ฟอร์ด ตกชั้น ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ นัดนี้ก็เสมอซะด้วยสิครับ 

2 ลิเวอร์พูลแพ้น้องใหม่ 1 ใน 27 เกมล่าสุด ชนะ 22 เสมอ 4  แพ้ฟูแล่มปีก่อน 1-0 (เคยแพ้น้องใหม่แบลคพูล 1-2 ต.ค. 2010) ยกเว้นเกมนี้ 

สถิติจาก optastat

3 ฟรีคิก+โอเพ่นเพลย์....นี่คือประตูแรกที่โดนยิงจากโอเพ่น เพลย์ ในพรีเมียร์ลีก แต่จุดเริ่มคือจังหวะเล่นลูกสูตรฟรีคิก จังหวะโจมตีจากฟรีคิกด้าน โจนส์ กับ รอบโบ้ รับผิดชอบร่วมกัน โดย.ผ่านด้านซ้ายมาสามสี่ด่านก่อนถึงเสาสอง ซึ่ง.แฉลบมาเข้าทาง พินนอค ชาร์ตง่ายๆ 1-0 น.26 ตรงนั้นเป็น ฟาบินโญ่ ยืนอยู่ แต่จังหวะมันเพี้ยนไปแล้ว กระนั้นต้องชม การโจมตีของ เบรนท์ฟอร์ด

4 เพรสมาเพรสกลับ....เบรนท์ฟอร์ด ของ โทมัส แฟร้งค์ เปิดตัวตั้งแต่เกมแรกที่ชนะอาร์เซนอลคือ การเพรสแดนบนและแดนสอง โดยเฉพาะแดนสองเกมนี้ เล่นเอาหงส์ป่วนไปเลย พวกเขาไม่กลัวจริงๆ กล้าลุย แย่ง. เดินเข้าหาเร็ว จนทำให้แดนกลางหงส์ออก.ไม่ถนัด .หลุดถึงแดนสามบ่อย และป่วนได้ดี จนถึงท้ายครึ่งแรก

บิ๊กแมตช์เป๊ปชนะ เกมรับหงส์สอบตก
5 ประสบการณ์​เบรนต์ฟอร์​ด...เล่นตามแทกติกได้ดี การเพรสแย่ง. ทำให้หงส์​ป่วนได้แต่ ก็เร่งจังหวะตัวเองจนผิดพลาดง่ายๆ เหมือนกัน ทำให้เกมไม่ต่อเนื่อง บางทีแย่ง.ได้ แต่รีบเล่น จนทำ.เสีย 

6 ซาลาห์ 100... จังหวะ ฟาบินโญ ครอสข้ามไลน์วิงแบ๊กขวาของเบรนท์ฟอร์ด ให้ ซาลาห์ แปเข้า จังหวะผู้ช่วยยกธงล้ำหน้า แต่ภาพช้ามองแล้วก้ำกึ่ง เพราะ คานอส ยืนห้อยต่ำกว่า วีเออาร์ เช็คแล้ว ไม่ล้ำ...บังโม ยิงลูกที่ 100 ในลีกให้หงส์แดง และ 102 เมื่อรวมที่เล่นกับเชลซีอีกสองลูก

7 แบ๊กโฟร์หงส์หลวม .....ต้องยอมรับว่าเกมนี้โดนกดดันเยอะ และไม่สามารถป้องกันการโจมตีจาด้านข้างหรือ อย่างลูกเสีย 2-2 เหลือ สามคน เบรนท์ฟอร์ด มาสี่คนในเขตโทษ แล้วครอสขจากด้านข้าง ก่อนเสียประตู

8 ฟานไดจ์ พลาด....สองจังหวะที่แย่งโหม่งไม่ได้ เกือบโดน โทนีย์ ลงโทษที่เสาแรก อีกจังหวะกั๊กกับ มาติป ในครึ่งแรก ทำให้ทีมเกือบเสียประตู โดยเฉพาะ ลูกที่ เอมโบโม ตวัดผ่าน เบคเกอร์​แล้ว มาติป สกัดจากเส้นได้ ครึ่งหลังพลาดเลย จังหวะ.ชุลมุนแล้ว แย่งโหม่งสู้ ยาเนลต์ ไม่ได้ เสีย 2-2  จากนั้นเกมรับก็พลาดเสียประตูตีเสมอ 3-3 จังหวะป้องกันลูกครอสด้านข้างไม่ดี คราวนี้ เทรนต์ กับ มาติป ตรงเสาสอง .ทะลักเข้าทาง วิสซา จิ้ม.ก่อน เบคเกอร์ เข้าถึง ....

บิ๊กแมตช์เป๊ปชนะ เกมรับหงส์สอบตก
เกมรับหงส์ล้วนๆ 

บทสรุปเกมนี้ของเบรนท์ฟอร์ด คือการเล่นที่เปี่ยมด้วพลัง ยิ่งเล่นในบ้านยิ่งน่ากลัว ปัญหาคือเกมนอกบ้านและการยืนระยะเท่านั้น ต้องให้เครดิตพวกเขามากๆ  ส่วนลิเวอร์พูล....เกมรุกหงส์ทำหน้าที่ได้ตามปกติ อาจเปลืองไปบ้าง ทั้ง มาเน และ ซาลาห์ แต่สิ่งที่ได้เห็นคือ คล็อปป์ จัด ฟีร์มีโน ลงมาอีกคนเป็นสี่ตัวรุก โดย โชต้า ดร็อปลงมาตรงกลาง เป็นอีกรายละเอียดหนึ่งของทีม

กระนั้น ปัญหาเกมนี้คือ "เกมรับ" โดยเฉพาะแบ๊กโฟร์ นัดนี้คะแนนต่ำ 5ทุกคน ฟานไดจ์ นี่พลาดหลายครั้งแย่งโหม่งได้ไม่ดี ลูกเสียประตูก็แย่งไม่ได้ หรือการกั๊กกันกับ มาติป ทำให้ โทนีย์ และ เอมโบโม แย่งโหม่งได้หลายครั้ง เบรนท์ฟอร์ด กล้าวัดกับคู่เซนเตอร์หงส์ด้วยการผ่าน.ข้ามแดนกลางมาสู้เลย แล้วพวกเขาได้ประตูจากการครอสเข้ามาวัดกับหงส์แดง ทั้งข้ามไลน์แดนกลางและครอสจากด้านข้าง ซึ่ง โทมัส แฟร้งค์ น่าจะเห็นอะไรบางอย่าง

ผลเสมอ...ถามว่าเสียหายมั้ย

ก็เสียสองแต้มอย่างไม่น่าเสีย

ไม่ได้ประเมินค่า เบรนต์ฟอร์ด ต่ำเกินไป

แต่เกมแบบนี้ต้อง 3 แต้มเท่านั้นเอง

Jackie