͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: 10 จุดกางเต็นท์มุมใหม่ในอุทยานแห่งชาติ บรรยากาศสุดฟิน  (อ่าน 69 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Ailie662

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 14271
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด

กรมอุทยานฯ แนะนำ 10 จุดกางเต็นท์ทางเลือกในอุทยานแห่งชาติ ชวนสัมผัสเสน่ห์สถานที่กางเต็นท์มุมใหม่ท่ามกลางธรรมชาติ ซึ่งหลายแห่งยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวอย่างแพร่หลาย ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของนักท่องเที่ยวสายกางเต็นท์ที่น่าสนใจไม่น้อย

หลังกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้จัดทำหนังสือ “น้ำตกในอุทยานแห่งชาติ” ในรูปแบบของอีบุ๊ค ซึ่งได้รับการตอบอย่างแพร่หลาย

อีบุ๊คเล่มนี้ นอกจากจะเป็นการรวบรวมน้ำตกในอุทยานแห่งชาติต่าง ๆ ทั้งที่รู้จักกันโดยทั่ว และที่ไม่เป็นที่รู้จักแล้ว หนังสือเล่มนี้ยังแนะนำให้รู้จักกับที่กางเต็นท์ใหม่ ๆหลายแห่งที่ไม่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวอีกด้วย

นายมานะ เพิ่มพูน ผอ.ส่วนประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติฯ
นายมานะ เพิ่มพูน ผอ.ส่วนประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติฯ

นายมานะ เพิ่มพูน ผู้อำนวยการส่วนประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้เปิดเผยว่า

“ลานกางเต็นท์ใหม่ ๆ ที่จะแนะนำนี้ จะเป็นลานกางเต็นท์ที่นักท่องเที่ยวยังไม่ค่อยรู้จัก โดยจะเน้นไปที่ลานกางเต็นท์ที่เป็นหน่วยพิทักษ์ในอุทยานแห่งชาติ และมีแหล่งท่องเที่ยวอยู่ใกล้เคียง เพื่อจะได้เป็นการกระจายนักท่องเที่ยวออกไป จะได้ไม่เกิดความแออัดในพื้นที่ลานกางเต็นท์หลัก ซึ่งจะสอดคล้องกันกับมาตรการท่องเที่ยววิถีใหม่ (New Normal) ในยุคที่โควิด-19 ยังคงอยู่ไม่ไกลจากตัวเรา และมีความสุ่มเสี่ยงต่อการติดหากอยู่ในพื้นที่แออัดคนพลุกพล่าน ถึงแม้ลานกางเต็นท์จะเป็นพื้นที่กลางแจ้ง แต่เมื่อคนไปกางเต็นท์ในพื้นที่ใกล้กันก็อาจเกิดการแพร่ระบาดได้”

สำหรับจุดกางเต็นท์ทางเลือกที่น่าสนใจในอุทยานแห่งชาติ ทั้ง 10 แห่ง มีดังนี้

1.อุทยานแห่งชาติแควน้อย จ.พิษณุโลก

จุดชมวิวเขื่อนแควน้อย (ภาพ : อช.แควน้อย) 
จุดชมวิวเขื่อนแควน้อย (ภาพ : อช.แควน้อย)

จุดกางเต็นท์แนะนำ : อยู่บริเวณที่ทำการอุทยานฯ ตั้งอยู่บนเนินบรรยากาศดี มี “จุดชมวิวเขื่อนแควน้อย” ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของ “เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน” อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นได้อย่างสวยงาม อีกทั้งใกล้ ๆ กันยังมีน้ำตกสันตะเคียนไว้ให้เที่ยวชมความสวยงามด้วย

2.อุทยานแห่งชาติน้ำตกคลองแก้ว จ.ตราด

น้ำตกคลองแก้ว
น้ำตกคลองแก้ว

จุดกางเต็นท์แนะนำ : ตั้งอยู่บนเนินลานจอดเฮลิคอปเตอร์ มีบรรยากาศดีแวดล้อมด้วยธรรมชาติขุนเขา ภายในอุทยานฯ มี “น้ำตกคลองแก้ว” ที่สวยงามมีหลายชั้นให้เที่ยวชม รวมถึงมีพืชพรรณแบบป่าทางภาคใต้ ให้เที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี

3.อุทยานแห่งชาติภูแลนคา จ.ชัยภูมิ

ผาหัวนาค (อช.ภูแลนคา)
ผาหัวนาค (อช.ภูแลนคา)

จุดกางเต็นท์แนะนำ : บริเวณ “ผาหัวนาค” (หน่วยพิทักษ์อุทย่านแห่งชาติ (ชั่วคราว) ผาหัวนาค) ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง สามารถมองเห็นวิวงามเมืองชัยภูมิได้ในหลายทิศทาง รวมถึงเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นชั้นดี ขณะที่ใกล้ ๆ กันก็ยังมี “มอหินขาว” อันซีนชัยภูมิกับก้อนหินใหญ่ยักษ์ 5 ก้อนอันน่าตื่นตาตื่นใจ

4.อุทยานแห่งชาตินันทบุรี จ.น่าน

จุดกางเต็นท์ อช.นันทบุรี (ภาพ : อช.นันทบุรี) 
จุดกางเต็นท์ อช.นันทบุรี (ภาพ : อช.นันทบุรี)

จุดกางเต็นท์แนะนำ : ตั้งอยู่บนสัน “ดอยวาว” มีบรรยากาศดีสวยงามมาก เพราะสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์สองฟากฝั่งได้จากบริเวณเดียวกัน โดยพระอาทิตย์จะตกทางผาช้าง-ผาวัว-ผาจิ และขึ้นพร้อมทะเลหมอกทางฝั่ง อ.สองแคว นอกจากนี้ในช่วงที่ดอกนางพญาเสือโคร่งบาน ก็จะได้เห็นความงดงามของดอกไม้ชนิดนี้ด้วย ขณะที่ใกล้ ๆ กันยังมี ดงพญาเสือโคร่งของหน่วยต้นน้ำที่มีพื้นที่ติดกันด้วย และ “น้ำตกนันทบุรี” ให้ไปเที่ยวชม

5.อุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน จ.น่าน

อุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน
อุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน

จุดกางเต็นท์แนะนำ : ตั้งอยู่บนเนินบริเวณที่ทำการอุทยานฯ (บ้านสะเกิน ต.ยอด อ.สองแคว) รอบข้างมีวิวทิวทัศน์สวยงาม ในฤดูหนาวจะมีบรรยากาศดีมาก ส่วนใกล้ ๆ กันเป็นที่ตั้งของ “น้ำตกผาธาร” ไว้ให้ไปเที่ยวชม เล่นน้ำ หรือหากขับรถออกมาราว 2 กม. ก็จะถึงจุดชมทะเลหมอก “ผาช้างน้อย” (จ.พะเยา) ที่สวยงาม

6.อุทยานแห่งชาติแม่ปิง จ.ลำพูน

แก่งก้อ อช.แม่ปิง
แก่งก้อ อช.แม่ปิง

จุดกางเต็นท์แนะนำ : อยู่บริเวณ “แก่งก้อ” อ.ลี้ จ.ลำพูน (หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ มป.2(แก่งก้อ)” มีบรรยากาศสวยงามมาก เพราะติดกับอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลสาบ และมีกิจกรรมล่องเรือชมทิวทัศน์เขื่อนภูมิพล ชมพระอาทิตย์ตกที่ดอยกระตึก ชมโรงเรียนเรือนแพที่ใช้เป็นฉากในภาพยนตร์ดัง เป็นต้น

7.อุทยานแห่งชาติแม่เงา จ.แม่ฮ่องสอน

จุดกางเต็นท์ริมน้ำ อช.แม่เงา 
จุดกางเต็นท์ริมน้ำ อช.แม่เงา

จุดกางเต็นท์แนะนำ : อยู่ริมน้ำใต้ร่มป่าสักที่สบเงา ริมถนนสายท่าสองยาง-แม่สะเรียง (หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ มง.2 (สบเงา)) ที่นี่มีจุดชมทิวทัศน์อันสวยงามของแม่น้ำเงาและแม่น้ำเมยที่ไหลมาบรรจบกันตรงนั้นพอดี

8.อุทยานแห่งชาติแก่งกรุง จ.สุราษฎร์ธานี

น้ำตกคลองพา
น้ำตกคลองพา

จุดกางเต็นท์แนะนำ : ตั้งอยู่ในป่า บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ กก.7(คลองพา) ท่ามกลางบรรยากาศของป่าดิบอันอุดมสมบูรณ์ มีต้นไม้สูงชะลูด ใกล้ ๆ กัน ราว 200 เมตร มี “น้ำตกคลองพา” อันสวยงามชุ่มฉ่ำให้เที่ยวชม

9.อุทยานแห่งชาติลำน้ำกก จ.เชียงราย

ลานกางเต็นท์ริมแม่น้ำกก (ภาพ : อช.ลำน้ำกก) 
ลานกางเต็นท์ริมแม่น้ำกก (ภาพ : อช.ลำน้ำกก)

จุดกางเต็นท์แนะนำ : ตั้งอยู่ริมแม่น้ำกก ใกล้ ๆ กับ “บ่อน้ำพุร้อนห้วยหมากเลี่ยม” บริเวณเดียวกับที่ทำการอุทยานฯ บรรยากาศที่นี่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม ร่มรื่น และเป็นระเบียบเรียบร้อย

10.อุทยานแห่งชาติดอยสอยมาลัย-ไม้กลายเป็นหิน (เตรียมการ) จ.ตาก

ดอยสอยมาลัย (ภาพ : อช.ดอยสอยมาลัย) 
ดอยสอยมาลัย (ภาพ : อช.ดอยสอยมาลัย)

จุดกางเต็นท์แนะนำ : บริเวณ “ยอดดอยสอยมาลัย” (จุดสูงสุด) ที่มีความสูงประมาณ 1,664 เมตร จากระดับน้ำทะเล บนนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์และความงดงามของอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล ในตอนเช้าสามารถเดินไปชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกอันสวยงามได้อีกด้วย

และนี่ก็คือ 10 จุดกางเต็นท์ทางเลือกใหม่ภายในอุทยานแห่งชาติ ซึ่งหลายที่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวสายกางเต็นท์แคมป์ปิ้งที่รักการเที่ยวธรรมชาติ ในบรรยากาศคนไม่พลุกพล่าน

นายมานะ เพิ่มพูน ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สำหรับลานกางเต็นท์เหล่านี้ถือเป็นลานกางเต็นท์ทางเลือก ที่จะช่วยลดปัญหาดังกล่าวได้ นอกจากนี้ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติต่าง ๆ ด้วยว่าไม่ได้มีแค่แหล่งท่องเที่ยวเด่น ๆเท่านั้น หากแต่ยังมีสถานที่อีกมากหลายให้เลือกพักค้างกางเต็นท์

“การออกไปพักแรม สัมผัสธรรมชาติ จะทำให้คนรักและหวงแหนธรรมชาติตามมา แหล่งกางเต็นท์แนะนำเหล่านี้เพียงเป็นตัวอย่าง หากแท้จริงยังมีสถานที่แบบนี้อีกมากมายในอุทยานแห่งชาติของบ้านเรา” นายมานะกล่าว