͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: “คันทรี่ กรุ๊ป” มองสัปดาห์นี้ประเมิน SET เข้าสู่การแกว่ง  (อ่าน 131 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Chigaru

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13687
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด


วันศุกร์ที่ผ่านมากระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือน ส.ค. ปรากฏว่าเพิ่มขึ้นเพียง 2.35 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่า ตลาดคาดที่ 7.2 แสนตำแหน่ง ด้าน Dow Jones ในวันศุกร์ปิดลบเล็กน้อย 0.2% ตอบรับเชิงลบต่อตัวเลขแรงงานที่น้อยกว่าตลาดคาด อย่างไรก็ตามเชื่อในระยะถัดไปตลาดจะเริ่มมองไปยังนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้นหนุนตลาดหุ้นสหรัฐฟื้นตัวช่วงถัดไป ส่วนผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยเป็นไปได้ที่จะมีแรงหนุนจากนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจากเงินบาทมีโอกาสเดินหน้าแข็งค่าต่อเนื่องจาก (1) สถานการณ์ COVID-19 ในประเทศที่ค่อยๆดีขึ้น (2) ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่เริ่มต่ำกว่าตลาดมอง ชะลอโอกาสใช้นโยบายการเงินเข้มงวดของ FED อย่างไรก็ตามเงินบาทที่แข็งค่าจะเป็นลบกับกลุ่มส่งออกแนะระมัดระวังเนื่องจากสัปดาห์ก่อนปรับตัวขึ้นมารับบาทอ่อนระยะสั้น


สำหรับปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อสัปดาห์นี้ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นอย่างมีนัยยะแต่แนะติดตามสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศ เนื่องจากจะเข้าใกล้ 1 สัปดาห์หลังผ่อนคลายมาตรการควบคุม ตัวเลขติดเชื้อล่าสุดเริ่มทรงตัวบริเวณ 1.4–1.5 หมื่นราย หากผ่านพ้นสัปดาห์นี้ไปแล้วตัวเลขไม่ได้เร่งตัวขึ้นมากกว่าปัจจุบันจะถือเป็นเรื่องที่ดีว่าหลังจากผ่อนคลายแล้วสถานการณ์ยังควบคุมได้แต่หากลดลงได้ถึง 1 หมื่นราย (+/- 2,000 ราย) จะยิ่งเป็นบวกมากขึ้นกับบรรยากาศการลงทุน ดังนั้นเนื่องด้วยสัปดาห์นี้ไม่ได้มีปัจจัยขับเคลื่อนอย่างมีนัยยะทำให้เราประเมิน SET Huay INDEX แกว่งในกรอบ 1640 – 1665

กลยุทธ์การลงทุน นักลงทุนเน้นเล่นรอบที่ซื้อจากจุดต่ำสุดรอบนี้มองดัชนีบริเวณปัจจุบันเริ่มสะท้อนปัจจัยบวกไปพอสมควรแล้ว จึงมองเป็นโอกาสของการขายทำกำไรเล่นรอบ ส่วนนักลงทุนระยะกลาง - ยาว แนะสะสม Domestic ที่ยังมี Upside เมื่อเทียบกับก่อน COVID-19 อาทิ (AOT BBL BJC CRC CPN M MAJOR PLANB VGI) ส่วนระยะสั้นภายในสัปดาห์แนะนำ (ADVANC M ORI PLANB SAPPE WICE)

M (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 61 บาท) เชื่อ M จะเป็นผู้ที่ฟื้นไวหลังสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลาย อิงช่วง 3Q20 ที่คลาย Lock Down เชิงรายได้ฟื้นตัวกลับมาได้เกือบเท่าช่วงเวลาปกติ -7%YoY บ่งชี้ถึง (1) ธุรกิจยังเป็นที่ต้องการของประชาชน COVID-19 ไม่ได้ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป (2) อิงลูกค้าในประเทศ ส่งผลให้ไม่ได้รับผลกระทบจากการหายไปของต่างชาติ แต่สวนทางกับราคาหุ้นปัจจุบันที่ยัง Laggard

PLANB (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 7.7 บาท) คาดรายได้สื่อของ PLANB จะปรับตัวลดลงไปที่จุดต่ำสุดใน 3Q21 ก่อนจะมีการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งในช่วงครึ่งหลังของ 4Q21 หนุนจากการใช้จ่ายค่าโฆษณาของภาคเอกชนที่กลับมาอีกครั้ง การเริ่มรับรู้รายได้จากป้ายสื่อโฆษณาที่ติดตั้งใหม่ในปลายปีที่แล้ว ทั้งในส่วนที่อยู่ใน 7-eleven และ สื่อที่รอรถเมล์ใน กทม.