กู้ภัยกระบี่รุดช่วย 4 ชีวิตยายหลานในห้องเช่าเจอพิษ
โควิด-19 หลังหัวหน้าครอบครัวตกงานขาดรายได้ ต้องกินข้าวกับซอสถั่วเหลืองประทังชีวิต สุดท้ายไม่มีข้าวสารกรอกหม้อต้องวอนขอความช่วยเหลือ
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ตรวจสอบหลังมีข้อมูลแจ้งว่า พบยายหลาน 4 ชีวิตอาศัยในห้องเช่าฐานะยากจน ขณะนี้ดำรงชีวิตกันอย่างลำบากไม่มีรายได้ จึงเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 436/1 บ้านนานอก หมู่ 11 ต.กระบี่น้อย อ.เมืองกระบี่ ซึ่งเป็นบ้านเช่าแบบห้องแถวมีนางรัตนา เชาว์ช่าง อายุ 54 ปี บ้านเดิมอยู่ อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ อาศัยอยู่กับลูกชายวัย 30 ปี และหลานอีก 2 คน เป็นเด็กหญิงอายุ 12 ปี และเด็กชายอายุ 10 ปี
โดยก่อนนี้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ครอบครัวของนางรัตนา กำลังเดือดร้อนอย่างหนักจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 เนื่องจากลูกชายนางรัตนา ซึ่งเคยเป็นเสาหลักของบ้าน ทำงานรับจ้างหาเงินเลี้ยงแม่และลูกอีก 2 คน ต้องหยุดงานเพราะวิกฤติโรคโควิด-19 ระบาด ทำให้ทั้งครอบครัวไม่มีข้าวจะกิน และไม่ได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานในท้องถิ่น เนื่องจากเป็นคนที่ไม่มีทะเบียนบ้านอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ทำให้หน่วยงานรัฐในพื้นที่ไม่สามารถช่วยเหลือได้ เพราะขัดกับระเบียบของกระทรวงมหาดไทย ผู้สื่อข่าวจึงประสานไปยังมูลนิธิกระบี่พิทักษ์ประชา เพื่อขอความช่วยเหลือ จนท.กู้ภัยของมูลนิธิ จึงนำข้าวสาร อาหารแห้ง ไข่ไก่สด พร้อมด้วยขนม มามอบให้กับนางรัตนา พร้อมด้วยเด็กๆ ทั้ง 2 คน ไว้กินประทังชีวิต
นางรัตนา กล่าวว่า ตัวของตนเองมีอาการป่วยเป็นโรคเบาหวาน ความดัน โดยป่วยมานานหลายปีแล้ว ไม่สามารถออกไปทำงานได้เหมือนปกติ ก่อนนี้ลูกชายจะเป็นคนออกไปทำงานรับจ้าง เพื่อหาเงินมาซื้อข้าวให้ตนและหลานๆ ได้กิน โดยหลานทั้ง 2 คน เป็นลูกของลูกชายตน แต่ละวันหาเงินค่าจ้างได้ 200-300 บาท ก็นำมาซื้อข้าวสาร อาหารไว้กินกันประทังชีวิต กระทั่งสถานการณ์ไวรัสโควิดแพร่ระบาด จนจังหวัดสั่งให้สถานประกอบการหลายแห่งต้องปิดกิจการชั่วคราว ทำให้ลูกชายไม่มีงานทำ ไม่มีเงินจะมาซื้อข้าวให้ตนและหลานๆ ได้กิน รวมทั้งไม่ได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐ แต่ละวันตนจึงต้องไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน ขอยืมเงินมาซื้อข้าว แต่เพื่อนบ้านไม่มีก็จะแบ่งเป็นข้าวสารมาให้แทน ก็นำมาหุงให้กับหลานกิน โดยแต่ละมื้อต้องให้หลานกินข้าวคลุกกับซอสถั่วเหลือง แทนกับข้าวอย่างอื่น เพราะไม่มีเงินซื้อ
นางรัตนา เล่าอีกว่า สำหรับหลานทั้ง 2 คน ตอนนี้โรงเรียนปิด จึงต้องอยู่บ้าน ซึ่งทำให้ต้องหาข้าวมาให้กินเพิ่มขึ้น ตอนนี้ลูกชายต้องออกไปหาเงินทุกวัน โดยเปลี่ยนจากงานรับจ้าง เป็นเก็บขยะไปขายเพื่อหาเงินมาซื้อข้าวกินประทังชีวิตกัน ส่วนบ้านที่เช่าอยู่ ก็ยังไม่มีเงินจะให้ค่าเช่าบ้าน โดยแต่ละเดือนจะต้องจ่ายค่าเช่าเดือนละ 2,500 บาท ตัวลูกชายเองก็ไม่เคยได้ลงทะเบียนรับเงิน 5,000 บาท เพราะไม่รู้วิธีการลงทะเบียน จึงอยากขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงนี้ให้ด้วย
สำหรับผู้ที่ต้องการติดต่อเพื่อช่วยเหลือ สามารถติดต่อไปที่นางรัตนา ได้โดยตรงที่เบอร์ 098-0463313.
