͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: ด่วน! หนุ่ม พนง.ผับย่านทองหล่อติดโควิด-19 นั่งรถทัวร์กลับเชียงราย เร่ง 40 ผู้โดยสารรายงานตัว  (อ่าน 461 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Clayton

  • บุคคลทั่วไป
เชียงราย - ยืนยันแล้ว..เชียงรายพบผู้ป่วยโควิดเพิ่มรายที่ 3 ทำงานสถานบันเทิงย่านทองหล่อ นั่งรถสมบัติทัวร์กลับถึงบ้านเช้า 22 มีนาฯ พบอาการหนักปอดอักเสบทั้งสองข้าง จนท.เร่งประกาศให้คนในรถเที่ยวเดียวกันรายงานตัว รพ.สต.ใกล้บ้านด่วน


วันนี้ (24 มี.ค.) นายภาสกร บุญญลักษม์ รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย, นายทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงราย และนายไชยเวช ธนไพศาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดต่อไวรัสโควิด-19 พื้นที่ จ.เชียงราย

ล่าสุดขณะนี้เชียงรายมีผู้เข้าเกณฑ์เฝ้าระวังโรคแล้ว 94 ราย ป่วยติดเชื้อเพิ่มเป็น 3 ราย ผู้ป่วยรายแรกเป็นชายอายุ 35 ปี ชาว อ.เทิง ที่เดินทางกลับจากปอยเปต ประเทศกัมพูชา และย่านทองหล่อ กรุงเทพฯ รายที่ 2 พบเป็นหญิงอายุ 58 ปี ซึ่งเป็นแม่ยายของผู้ป่วยรายแรก ส่วนผู้ป่วยเชื้อโควิด-19 รายล่าสุดเป็นชายอายุ 33 ปี ชาว อ.แม่จัน

นายแพทย์ ทศเทพกล่าวว่า กรณีผู้ป่วยรายแรกนั้นเข้ามาเชียงรายวันที่ 7 มี.ค.และไปตรวจหาเชื้อด้วยตัวเองวันที่ 16 มี.ค. ทราบผลวันที่ 20 ม.ค. จากนั้นได้มีการสืบสวนหาผู้ใกล้ชิดพบมีจำนวน 10 คน ล่าสุดพบว่ากลุ่มเสี่ยง 9 คนนั้นไม่พบเชื้อแต่ก็มาพบในรายที่เป็นแม่ยายวัย 58 ปี ซึ่งเป็นผู้ป่วยรายที่ 2 ปัจจุบันทั้งคู่รักษาตัวที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์

เจ้าหน้าที่ยังได้สืบสวนไปถึงผู้ใกล้ชิดกับแม่ยายวัย 58 ปีดังกล่าว พบมีผู้ที่มีความเสี่ยงใกล้ชิดจำนวน 14 รายโดยเฉพาะเมื่อไปร่วมงานขึ้นบ้านใหม่วันที่ 19 มี.ค. ปัจจุบันจึงให้ทั้ง 14 รายกักตัวดูอาการเป็นเวลา 14 วัน หรือจนถึงวันที่ 3 เม.ย.นี้แล้ว ซึ่งก็ถือว่ากรณีของ 2 รายแรกได้ดำเนินการกลุ่มเสี่ยงแล้วเสร็จแล้ว

ส่วนกรณีผู้ป่วยยืนยันรายที่ 3 ชาว อ.แม่จัน ทำงานที่สถานบันเทิงย่านทองหล่อ กรุงเทพฯ เดินทางมาถึง จ.เชียงรายเมื่อวันที่ 21 มี.ค. เมื่อมาถึงก็ป่วยมีไข้จึงไปพบแพทย์ทันทีเมื่อวันที่ 22 มี.ค.ก็พบว่าติดเชื้อแล้ว ปัจจุบันส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์

และเนื่องจากผู้ป่วยรายนี้เดินทางจากกรุงเทพฯ ด้วยรถโดยสาร สมบัติทัวร์ กรุงเทพฯ-เชียงแสน ปรับอากาศ VIP 24 ที่นั่ง หมายเลขข้างรถ 3-1 ทะเบียน 16-3473 กทม. เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ออกจากสถานีหมอชิตเวลาประมาณ 19.15 น. ปลายทาง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เวลาประมาณ 08.00 น. 22 มี.ค. จึงขอให้ผู้โดยสาร-พนักงานขับรถ ตลอดจนพนักงานประจำรถเที่ยวดังกล่าว รวม 30-40 คน ไปรายงานตัวด่วนที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล (รพ.สต.) ใกล้บ้าน เพราะถือเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงด้วย


ด้านนายแพทย์ ไชยเวชกล่าวว่า อาการของผู้ป่วยรายที่ 1-2 พบว่าไม่มีไข้และไอแต่อย่างใด ซึ่งก็จะรักษาตามอาการตามมาตรฐานเป็นเวลา 2-7 วัน หากไม่มีไข้เกิน 48 ชั่วโมง หายใจไม่เกิน 20 ครั้งต่อนาที ออกซิเจนในเลือดเกิน 94% ในอากาศปกติ ก็จะพิจารณาให้กลับไปกักตัวที่บ้านต่อ 14 วัน และให้ใส่หน้ากากอนามัยต่อไปอีก 1 เดือน

ส่วนกรณีผู้ป่วยรายล่าสุดที่ อ.แม่จัน มีไข้และปอดอักเสบทั้งสองข้าง แต่หลังเข้ารับการรักษาเมื่อเที่ยงคืนกว่าที่ผ่านมาพบว่าอาการหายใจดีขึ้นแล้ว ทั้งนี้ตนขอบอกว่าจำนวนผู้ป่วยใน จ.เชียงรายจะเพิ่มสูงมากขึ้นหรือไม่ขึ้นอยู่กับประชาชนที่เมื่อรู้ตัวว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงให้ไปพบเจ้าหน้าที่สาธารณสุขโดยด่วน

รองผู้ว่าฯ เชียงรายกล่าวเพิ่มเติมว่า ณ วันนี้เชียงรายยังใช้มาตรการ 2 ทาง คือ ประกาศ แนะนำประชาสัมพันธ์ประชาชน และสั่งการไปยังหน่วยงานส่วนราชการต่างๆ หรือหากรุนแรงขึ้นก็จะใช้หนังสือคำสั่ง ซึ่งผู้ฝ่าฝืนจะมีความผิดตามกฎหมาย ทั้งนี้ก็เพื่อควบคุมการระบาดให้ได้ผล แต่หลังพบผู้ป่วยเพิ่มเติมดังกล่าวจะมีการประชุมคณะทำงานและดูสถานการณ์ว่าจะเพิ่มมาตรการให้สูงขึ้นหรือไม่ ดังนั้น ขอให้ประชาชนช่วยร่วมมือ โดยกรณีกลับจากกรุงเทพฯ และปริมณฑลหรือต่างประเทศให้กักตัวไว้ 14 วัน ส่วนประชาชนทั่วไปก็ขอให้ออกไปเฉพาะยามจำเป็น เช่น ไปซื้อสินค้า ฯลฯ