ราคาหุ้นของบริษัทเป๊ปซี่โค พุ่งขึ้นในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในวันนี้ หลังเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งณ เวลา 18.47 น.ตามเวลาไทย ราคาหุ้นเป๊ปซี่โคพุ่งขึ้น 2.36% สู่ระดับ 187.50 ดอลลาร์ทั้งนี้ เป๊ปซี่โค เปิดเผยว่า บริษัท
มีกำไรและรายได้ในไตรมาส 2/2566 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้เป๊ปซี่โคเปิดเผยกำไรที่ระดับ 2.09 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.96 ดอลลาร์/หุ้นนอกจากนี้ บริษัทมีรายได้ 2.232 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.173 หมื่นล้านดอลลาร์
บมจ.เกียรติธนา ขนส่ง (KIAT) คว้าสัญญางานจาก AGC Vinythai ในโครงการขนส่งวัตถุดิบ chloralkali ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของสายการผลิตอุตสาหกรรมพลาสติกและเคมีภัณฑ์ มูลค่ากว่า 480 ล้านบาท ระยะสัญญาเวลา 3 ปี เพื่อรองรับแผนงานธุรกิจ โดยในปีนี้บริษัทวางเป้าเพิ่มรถบรรทุกอีก 20 คันเพิ่มเติมจากเดิมที่มีรถบรรทุกขนาดใหญ่ให้บริการขนส่งทั้งสิ้นกว่า 400 คันในฟลีทปัจจุบัน และเมื่อเร็วๆนี้ได้มีการรับมอบรถหัวลากยูดี เควสเตอร์ ไปพร้อมกันแล้วจำนวน 12 คันนายเมฆ มนต์เสรีนุสรณ์ รองกรรมการผู้จัดการด้านการตลาดและพัฒนาธุรกิจ KIAT เปิดเผยว่า โครงการสั่งซื้อรถหัวลากยูดี เควสเตอร์ 12 คันนี้ บริษัทได้รับมอบรถเป็นที่เรียบร้อยและได้นำรถเข้าเสริมกำลังฟลีทรถที่มีอยู่ทั้งประเภทรถหัวลาก และรถบรรทุก โดยรถใหม่ทั้งหมดเริ่มปฏิบัติงานเป็นที่เรียบร้อย ขนเกลือบริสุทธิ์จากบ่อเกลือที่จังหวัดนครราชสีมาไปยังนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด นอกจากระบบขนส่งทางถนนแล้ว ในโครงการนี้ยังเสริมระบบขนส่งด้วยระบบราง คือขนส่งด้วยรถไฟจำนวนกว่า 400 ตู้ต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 ปี รวมมูลค่าโครงการทั้งสิ้น 480 ล้านบาท"สาเหตุหลักที่เราใช้รถยูดี เควสเตอร์ สำหรับโครงการนี้ก็คือเทคโนโลยีของรถรุ่นนี้ที่เน้นสมรรถนะสูงตามมาตรฐานสากลในราคาที่จับต้องได้ โดยเฉพาะเกียร์กึ่งอัตโนมัติ Escot ที่ทำให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างนุ่มนวลและช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง และสามารถตอบโจทย์ในด้านความปลอดภัยซึ่งเราให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆส่วนการดำเนินงานในโครงการนี้ เราได้บริหารจัดการด้วยการผสมผสานระบบขนส่งทางถนนควบคู่กับระบบราง ซึ่งถือเป็นการบริหารจัดการความเสี่ยงที่ไม่พึ่งพาระบบเดียว และที่สำคัญคือเราได้มองเห็นอนาคตของการขนส่งระบบรางที่จะมีบทบาทเพิ่มขึ้นในอนาคต เราจึงขยายการให้บริการลูกค้าด้วยระบบขนส่งทางรางอีกด้วย" นายเมฆ กล่าวนายเมฆ กล่าวเพิ่มเติมว่าแผนการขยายงานในปีนี้ KIAT มีแผนจะสั่งซื้อรถบรรทุกเพิ่มเติมอีก 20 คันภายในปีนี้เพื่อทดแทนรถที่พ้นระยะการใช้งานของบริษัทฯ ซึ่งไม่รวมถึงงานที่อยู่ระหว่างการประมูลอีก 2 โครงการ หาก KIAT ชนะการประมูล จะต้องมีการสั่งซื้อรถบรรทุกเพิ่มอีก 20 คันต่อโครงการนอกจากนี้ ทางบริษัทฯยังมีการศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการนำรถบรรทุก EV เข้ามาให้บริการลูกค้า ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาอย่างจริงจัง โดยเป็นผลจากนโยบายภาครัฐที่ต้องการส่งเสริมระบบขนส่งด้วยพลังงานสะอาด อีกทั้งกลุ่มลูกค้ามีความกระตือรือร้นในการใช้ระบบขนส่งด้วยพลังงานทางเลือกที่รักษาสิ่งแวดล้อมตามระเบียบใหม่ของโลกธุรกิจการค้าที่สามารถนำกิจกรรมเหล่านี้ไปคำนวณเป็น Carbon Credit ได้ ซึ่งรวมไปถึงระบบรางที่สามารถนำมาคำนวณเป็น Carbon Credit ได้ด้วยเช่นกันนายเมฆ กล่าวเพิ่มเติมถึงความสำเร็จของอีกหนึ่งหน่วยธุรกิจของ KIAT ได้แก่ กลุ่มธุรกิจการติดตั้ง Guardian System ระบบเทคโนโลยีป้องกันการหลับในและการละสายตาขณะขับขี่ ว่าขณะนี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยล่าสุด ได้รับคำสั่งซื้อจาก บมจ. ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) จากเดิมที่ใช้ระบบนี้ในกองรถขนส่งของ OR จำนวน 300 คัน ไปเป็น 1,500 คัน ทั้งนี้ เพราะธุรกิจขนส่งของ OR เน้นลดความเสี่ยงของอุบัติเหตุถ โดยระบบนี้สามารถลดอัตราเสี่ยงอันเกิดจากความไม่พร้อมของพนักงานขับรถได้สูงมาก และด้วยการทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจนี้จะสามารถเติบโตและช่วยขับเคลื่อนเป้าหมายภาพรวมของ KIAT ได้อย่างแน่นอน