͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: รวมข้อมูลการทำเด็กหลอดแก้ว ivf iui ฝากไข่ เลือกเพศลูก ( IVF, In Vitro Fertilization )%%  (อ่าน 66 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Naprapats

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 14930
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
     เลือกเพศลูกวิธีการทำเด็กหลอดแก้ว ivf iui ฝากไข่ เลือกเพศลูก (In Vitro Fertilization, IVF) เป็นเลิศในกรรมวิธีรักษาภาวการณ์มีบุตรยากที่มีคุณภาพสูง แล้วก็อัตราการท้องเยอะที่สุดจากทุกวิธีในขณะนี้ กระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว ivf iui ฝากไข่ เลือกเพศลูก (IVF) จึงแปลงเป็นตัวเลือกแรกๆสำหรับคู่สมรสที่ต้องการเป็นว่าที่พ่อกับแม่ แต่ว่ากำลังพบเจอปัญหาสภาวะมีลูกยาก แม้กระนั้นกระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว ivf iui ฝากไข่ เลือกเพศลูก (IVF) จะมีรายละเอียดสำคัญใดบ้างที่ (ว่าที่) คุณพ่อคุณแม่ควรทราบ? วันนี้ซูพีเรีย เอ.อาร์.คราว. มีคำตอบ



ติดต่อและอ่านรายละเอียดได้จาก >> ฝากไข่ www.thaisuperiorart.com

     1. การทำเด็กหลอดแก้ว ivf iui ฝากไข่ เลือกเพศลูก (IVF) เป็นยังไง?
     กระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว ivf iui ฝากไข่ เลือกเพศลูก หรือ ที่มักเรียกกันอย่างย่อเป็นภาษาอังกฤษว่า IVF (In-vitro Fertilization) คือกรรมวิธีการที่ช่วยทำให้คู่ที่ไม่สามารถมีบุตรได้เองตามธรรมชาติ สามารถมีลูกได้ ด้วยเทคโนโลยีการปฏิสนธิภายนอกร่างกาย แนวทางแบบนี้หมอจะนำไข่ของข้างหญิงและก็สเปิร์มที่แข็งแรงของข้างชายมาผสมกันให้การมีการปฏิสนธิในห้องปฏิบัติการ เมื่อไข่กับอสุจิผสมกันกระทั่งกลายเป็น “ตัวอ่อน” ในระยะที่สมควรแล้ว ก็จะย้ายตัวอ่อนดังที่กล่าวผ่านมาแล้วกลับไปสู่โพรงมดลูกของฝ่ายหญิง เพื่อเกิดการตั้งท้องต่อไป

     2. วิธีการทำเด็กหลอดแก้ว ivf iui ฝากไข่ เลือกเพศลูก (IVF) ใช้ในกรณีใดบ้าง?
     สาเหตุที่มักทำให้สามีภรรยาเผชิญภาวะมีลูกยากแล้วก็จะต้องหันมาพึ่งวิธีทำเด็กหลอดแก้ว ivf iui ฝากไข่ เลือกเพศลูก ดังเช่นว่า
     ฝ่ายหญิงมีพังผืดในอุ้งเชิงกราน
     เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ หรือ chocolate cyst
     ท่อนำไข่อุดตันหรือถูกทำลาย
     มีการตกไข่แตกต่างจากปกติ เนื่องมาจากภาวะหรือโรคประจำตัวบางอย่างที่ทำให้ระบบฮอร์โมนเปลี่ยนไปจากปกติไป
ฝ่ายชายมีปัญหาเกี่ยวกับประสิทธิภาพของสเปิร์ม เป็นต้นว่า ปริมาณน้อย, รูปร่างผิดปกติ, เคลื่อนไม่ดี เป็นต้น

     3. กระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว ivf iui ฝากไข่ เลือกเพศลูก (IVF)  มีขั้นตอนเช่นไร?

     3.1 ปรึกษาแพทย์

เมื่อไหร่: สามารถหารือได้ในทุกตอนของรอบเดือน

ใช้เวลานานเพียงใด: 45 – 60 นาที

     ในขั้นตอนนี้ คุณจะได้รับแนวทางซักถามความเป็นมาและตรวจร่างกายให้ถี่ถ้วน การตรวจอัลยี่ห้อซาวน์มดลูกและก็รังไข่, ตรวจการปฏิบัติงานของฮอร์โมน, และการตรวจอื่นๆตามความต้องการ ซึ่งจะช่วยทำให้แพทย์รู้เรื่องสภาพร่างกายโดยรวมของคุณ รวมทั้งกำหนดแผนการรักษาที่เหมาะสมกับคุณเยอะที่สุด

     3.2 การกระตุ้นไข่

เมื่อไหร่: วันที่ 2 หรือวันที่ 3 ของการมีประจำเดือน

ใช้เวลานานมากแค่ไหน: 10 – 12 วัน

     เมื่อเข้าสู่แนวทางการทำเด็กหลอดแก้ว ivf iui ฝากไข่ เลือกเพศลูก อันดับแรกคือการกระตุ้นไข่ในรังไข่ให้โตโดยการฉีดยาฮอร์โมน โดยเริ่มฉีดวันที่ 2 หรือวันที่ 3 ของรอบเดือนของคุณ จนฟองไข่โตได้ขนาด ใช้เวลาราวๆ 9-12 วัน

     ในรังไข่จะมีฟองไข่อยู่จำนวนมาก ในไข่จะประกอบด้วยเซลล์ไข่ หรือ oocyte ในแต่ละรอบเดือน ฟองไข่และเซลล์ไข่จำนวนหนึ่งจะเติบโตกลายเป็นไข่ที่โตเต็มวัย ด้วยเหตุดังกล่าว วัตถุประสงค์ของการกระตุ้นไข่ เป็นการกระตุ้นให้ไข่ที่เตรียมโตในรอบเดือนนั้นๆโตขึ้นให้ได้หลายชิ้นที่สุดเท่าที่มีในแต่ละรอบด้วยยา เพื่อเพิ่มจังหวะให้ได้ไข่โตเต็มวัยที่มีคุณภาพสูง

     ระหว่างนี้ คุณจำเป็นต้องมาเจอหมอที่คลินิกทุกๆ3-4 วัน ในช่วง 10 ถึง 12 วัน เพื่อตรวจเลือดและอัลตราซาวด์ ดูว่ารังไข่ตอบสนองต่อยากระตุ้นไข่เช่นไร เมื่อไข่เจริญวัยเต็มกำลังแล้ว หมอจะให้ฉีดยากระตุ้นการตกไข่ (trigger shot) ที่เป็นฮอร์โมน human chorionic gonadotropin (hCG) หรือ leuprolide acetate (Lupron) เพื่อช่วยทำให้ไข่สุกแล้วก็หลุดออกมาจากผนังของไข่ พร้อมสำหรับเพื่อการเก็บไข่ในลำดับต่อไป

     3.3 การเก็บไข่แล้วก็การเก็บน้ำกามสเปิร์ม

เมื่อไร: 36 ชั่วโมงข้างหลังการฉีดยากระตุ้นให้ไข่ตก

ใช้เวลานานมากแค่ไหน: 1-2 ชั่วโมง

     หลังการฉีดยากระตุ้นให้ไข่ตก 36 ชั่วโมง จะเริ่มกระบวนการเก็บไข่ โดยใช้อัลตราซาวด์นำเพื่อเห็นฟองไข่ชัดแจ้ง แล้วก็ใช้เข็มขนาดเล็กสอดผ่านผนังช่องคลอด เข้าไปในไข่และก็ดูดเก็บไข่ออกมา ตลอดกระบวนการ หมอจะให้ยาสลบ คุณก็เลยเกือบจะไม่รู้จักสึกเจ็บอะไรก็ตามใช้เวลาในการเก็บไข่ราวๆ 15-20 นาที

     ในวันเดียวกับวันเก็บไข่ คู่บ่าวสาวของคุณก็มาเก็บน้ำเชื้อ โดยปกติแล้วเสนอแนะให้ข้างชายเก็บอสุจิในวันเดียวกับวันเก็บไข่ที่สถานพยาบาล แม้กระนั้นถ้าข้างชายไม่สามารถที่จะเก็บน้ำเชื้อในวันดังที่กล่าวถึงแล้วได้ ก็สามารถมาเก็บน้ำอสุจิก่อน แล้วแช่แข็งน้ำอสุจิไว้ล่วงหน้า และก็ละลายมาใช้ในวันเก็บไข่

     กระบวนการเก็บน้ำกามน้ำอสุจิที่ดีที่สุดคือการช่วยตัวเอง เพื่อหลีกเลี่ยงมิให้น้ำกามแปดเปื้อนกับของเหลวอื่นๆของข้างหญิง (ยกตัวอย่างเช่น น้ำลาย น้ำหล่อลื่นช่องคลอด) ซึ่งอาจมีแบคทีเรียผสมปนเปอยู่ ซึ่งอาจมีผลต่อการปฏิสนธิ (fertilization) หรือการเพาะเลี้ยงได้ แล้วก็หลังจากที่ข้างชายเก็บน้ำอสุจิเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว ก็ส่งน้ำอสุจิให้ผู้นักวิทยาศาสตร์ที่รออยู่ในห้องทดลอง เพื่อตระเตรียมน้ำกามถัดไป

     นักวิทยาศาสตร์จะนำน้ำเชื้อ มาพักไว้โดยประมาณ 30 นาที เพื่อให้น้ำเชื้อละลายตัวให้เหลวก่อน แล้วต่อจากนั้นจะกระทำปั่นล้างเพื่อเอาสเปิร์มที่ไม่ขยับเขยื้อนและเศษเซลล์ต่างในน้ำเชื้อออก และก็ทำพินิจพิจารณาคุณภาพน้ำเชื้อ ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญ ที่สามารถจะช่วยให้แพทย์ตกลงใจว่าจะทำเด็กหลอดแก้ว ivf iui ฝากไข่ เลือกเพศลูกด้วยแนวทาง IVF หรือ ICSI โดยแพทย์จะเลือกการทำเด็กหลอดแก้ว ivf iui ฝากไข่ เลือกเพศลูกด้วยแนวทาง IVF แม้ผลน้ำอสุจิเป็นปกติ แต่ถ้าผลสเปิร์มมีคุณภาพน้อยกว่าค่ามาตรฐาน แพทย์จะแนะนำให้ใช้แนวทาง ICSI เพื่อเพิ่มโอกาสให้ไข่รวมทั้งน้ำเชื้อปฏิสนธิได้มากขึ้น

     สำหรับในการถือกำเนิดด้วยแนวทาง IVF น้ำเชื้อจะเข้าไปกำเนิดกับไข่เอง ส่วนวิธี ICSI นักวิทยาศาสตร์จะเลือกเฟ้นสเปิร์มตัวที่แข็งแรงหนึ่งตัวฉีดเข้าไปในไข่ที่โตเต็มวัยโดยตรงเพื่อให้มีการปฏิสนธิ วิธี ICSI นี้ใช้เวลานานกว่าวิธี IVF แล้วก็จำต้องทำโดยนักวิทยาศาสตร์ที่มีความเชี่ยวชาญ
ไข่ที่กำเนิดกับสเปิร์มแล้วจะถูกเรียกว่า ‘ตัวอ่อน’

     3.4 การเลี้ยงตัวอ่อน

เมื่อใด: หลังจากถือกำเนิดด้วยแนวทาง IVF หรือ ICSI

ใช้เวลานานแค่ไหน: 5-6 วัน

     หลังจากที่ไข่และก็อสุจิกำเนิดจนแปลงเป็น ‘ตัวอ่อน’ แล้ว ตัวอ่อนจะถูกเลี้ยงในห้องปฏิบัติการตรงเวลา 5 – 6 วัน จนกระทั่งปรับปรุงและเติบโตถึงระยะบลาสโตซิสต์ พร้อมที่จะย้ายกลับไปสู่โพรงมดลูก สำหรับตัวอ่อนที่ไม่สามารถเติบโตถึงระยะบลาสโตซิสต์นั้นโดยปกติถือว่าเป็นตัวอ่อนที่ไม่แข็งแรง โอกาสฝังตัวในมดลูกน้อย จึงไม่สมควรที่จะนำมาย้ายกลับไปสู่โพรงมดลูก ขั้นตอนการเลี้ยงตัวอ่อนเป็นกรรมวิธีการที่สลับซับซ้อน และก็ประณีตและวิจิตรบรรจงมากมาย จะต้องใช้ความชำนิชำนาญและประสบการณ์จากนักวิทยาศาสตร์เพาะเลี้ยงตัวอ่อน ที่เชี่ยวชาญการใช้แรงงานวัสดุอุปกรณ์วิธีระดับสูงแล้วก็แนวทางการจัดการสภาพแวดล้อมข้างในห้องทดลองให้เหมาะสมแก่การเติบโตของตัวอ่อน

     ที่ซูพีเรีย เอ.อาร์.คราว. ใช้ตู้เลี้ยงตัวอ่อน GERI ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ด้านในเครื่องจัดตั้งระบบกล้องที่มีไว้สำหรับถ่ายภาพจุลทรรศน์ประสิทธิภาพสูง หนึ่งตัวต่อหนึ่งจานเพาะเลี้ยงตัวอ่อน ช่วยทำให้สามารถติดตามพัฒนาการของตัวอ่อนได้โดยละเอียด โดยไม่ต้องขยับจานเพาะเลี้ยงหรือตัวอ่อนเลย แต่ละจานเพาะเลี้ยงมีอิสรภาพแยกขาดจากกัน ทำให้สามารถควบคุมรวมทั้งปรับสถานการณ์ห้อมล้อมของการเพาะเลี้ยงให้เหมาะสมกับตัวอ่อนแต่ละตัว การใช้ตู้เลี้ยงระบบแยกเลี้ยงนี้ช่วยเพิ่มอัตราการมีท้องเพราะตัวอ่อนสามารถเติบโตในสถานการณ์แวดล้อมที่คงที่ผิดก่อกวน  

สำหรับข้อมูลเพิ่มเกี่ยวกับเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงตัวอ่อนของเรา คลิกตรงนี้





     3.5 การย้ายตัวอ่อน

เมื่อไหร่: ข้างหลังวิธีการเพาะเลี้ยงตัวอ่อน

ใช้เวลานานมากแค่ไหน: 2 ชั่วโมง

     ในขั้นตอนสุดท้าย หมอจะเลือกตัวอ่อนระยะบลาสโตซิสต์ ย้ายกลับเข้าสู่โพรงมดลูก ผ่านขั้นตอนที่ง่ายและไม่ปวด โดยตัวอ่อนถูกดูดไว้ภายในสายย้ายตัวอ่อน และก็ใช้อัลตราซาวด์ช่วยนำทางให้เห็นปลายสาย ที่สอดผ่านปากมดลูกเข้าไปในโพรงมดลูก ต่อจากนั้นจะฉีดตัวอ่อนเข้าไปฝังตัวที่ฝาผนังมดลูกให้เริ่มเติบโต

     ราว 7-10 ครั้งหน้าจากการย้ายตัวอ่อน จะทดสอบการมีท้อง แล้วก็ประมาณ 2 อาทิตย์ต่อจากนั้น ก็สามารถมาตรวจอัลตราซาวด์  เพื่อดูถุงการมีครรภ์ ยืนยันการมีท้อง

     3.6 การแช่แข็งตัวอ่อน

เมื่อไร: ภายหลังจากกระบวนการย้ายตัวอ่อน

ใช้เวลานานเพียงใด: 1-2 ชั่วโมง

     สำหรับตัวอ่อนที่แข็งแรงบริบูรณ์ที่ยังมิได้กระทำย้ายตัวอ่อน สามารถแช่แข็ง เพื่อเก็บไว้ใช้ในอนาคต ด้วยวิธีการแช่แข็งตัวอ่อนแบบผลึกแก้ว (Vitrification) ซึ่งเป็นเคล็ดลับที่ลดอุณหภูมิขณะแช่แข็งตัวอ่อนอย่างรวดเร็ว เพื่อคุ้มครองปกป้องการเกิดผลึกน้ำแข็งในเซลล์ตัวอ่อน ซึ่งอาจส่งผลให้กำเนิดความทรุดโทรมของตัวอ่อน ขั้นตอนการนี้ช่วยทำให้ตัวอ่อนถูกรักษาไว้ได้อย่างนานและก็คงประสิทธิภาพสูง ถ้ารักษาเอาไว้ในห้องทดลองที่มีมาตรฐานสูง แล้วก็ควบคุมประสิทธิภาพรวมทั้งติดตามปริมาณไนโตรเจนเหลว ตลอดจนตรวจเช็คความสมบูรณ์ของเครื่องไม้เครื่องมืออย่างสม่ำเสมอ

     ถ้าเกิดคุณต้องการมีท้องอีกครั้ง ก็สามารถนำตัวอ่อนแช่แข็งเหล่านี้กลับมาใช้ได้

     4. หมอจะย้ายตัวอ่อนกลับเยอะแยะน้อยเท่าใด?
     แพทย์จะย้ายตัวอ่อนกลับเยอะมากๆน้อยเพียงใดนั้น ขึ้นอยู่กับความพร้อมของสภาพร่างกายของข้างหญิงแล้วก็คุณภาพตัวอ่อน  แม้เป็นตัวอ่อนที่ได้รับการตรวจโครโมโซมและผลธรรมดา หมอจะชี้แนะให้ย้ายตัวอ่อนกลับครั้งละหนึ่งตัว เนื่องจากตัวอ่อนที่คุณภาพดี และก็มีโครโมโซมที่ปกติ มีโอกาสตั้งท้องสูงอยู่แล้ว

     5. แนวทางการทำเด็กหลอดแก้ว ivf iui ฝากไข่ เลือกเพศลูก (IVF)  ปลอดภัย/มีความเสี่ยงเพียงใด?
     วิธีการทำเด็กหลอดแก้ว ivf iui ฝากไข่ เลือกเพศลูก (IVF) มีโอกาสเป็นผลข้างเคียงจากการรักษาได้ ยกตัวอย่างเช่น ภาวการณ์รังไข่ตอบสนองต่อการกระตุ้นไข่มาก (Ovarian Hyperstimulation Syndrome (OHSS), เลือดออกหรือติดเชื้อข้างหลังการเก็บไข่, ได้โอกาสตั้งครรภ์คู่แฝด เป็นต้น การเลือกสถานพยาบาล IVF ที่เหมาะสมก็เลยเป็นเรื่องจำเป็น หมอจะเลือกกระบวนการรักษาที่ดีเยี่ยมที่สุดในแต่ละราย ตามจำนวนไข่ เพื่อลดช่องทางเกิดภาวะสอดแทรกให้ต่ำที่สุด

     6. กระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว ivf iui ฝากไข่ เลือกเพศลูก (IVF)  มีอัตราการบรรลุผลมากแค่ไหน?
     อัตราการบรรลุเป้าหมายของการทำเด็กหลอดแก้ว ivf iui ฝากไข่ เลือกเพศลูก อยู่ที่ราว 40 – 60% ทั้งนี้สังกัด อายุ, ต้นเหตุของภาวะการมีลูกยาก, ตลอดจนลักษณะการดำเนินชีวิต ประสิทธิภาพไข่รวมทั้งอสุจิ ฝ่ายหญิงที่ยังอายุน้อยได้โอกาสที่จะประสบผลสำเร็จมากยิ่งกว่า แม้กระนั้นก็มีหลายเคสของผู้เข้ารับการดูแลรักษาที่แก่มากและก็ไปถึงเป้าหมายเหมือนกัน การปรึกษาขอคำแนะนำหมอตั้งแต่เนิ่นๆจะช่วยให้วางแผนรักษาได้ทันเวลา และเพิ่มจังหวะตั้งท้องให้สูงมากขึ้นได้

     7. บทความที่น่าดึงดูดเกี่ยวกับกับ เด็กหลอดแก้ว ivf iui ฝากไข่ เลือกเพศลูก รวมทั้ง IVF
1.กระบวนการทำ ICSI (อิ๊กซี่) คืออะไร? แตกต่างกันเช่นไรกับ IVF?
2.แนวทางการทำเด็กหลอดแก้ว ivf iui ฝากไข่ เลือกเพศลูก In Vitro Fertilization (IVF) แล้วก็ Intracytoplasmic Sperm Injection (ICSI)
3.การนำตัวอ่อนแช่แข็งฝังในโพรงมดลูก (Frozen Embryo Transfer: FET)



Website: บทความ เลือกเพศลูก www.thaisuperiorart.com