͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: ภาวะตลาดเงินบาท: ปิดตลาด 33.44 ลุ้นเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย คาดกรอบบาทพรุ่งนี้ 33.35-33.50  (อ่าน 15 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Prichas

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12494
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
ภาวะตลาดเงินบาท: ปิดตลาด 33.44 ลุ้นเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย คาดกรอบบาทพรุ่งนี้ 33.35-33.50

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 33.44 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัว แข็งค่าจากเปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 33.52 บาท/ดอลลาร์

ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 33.36 - 33.54 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากมีการเคลื่อนไหวของเงินทุนต่าง ประเทศ

"ทีแรก คาดว่าวันนี้บาทจะแกว่งตัวในกรอบ แต่มี Fund Flow ไหลเข้ามาต่อเนื่อง ทำให้บาทแข็งค่าต่ำกว่ากรอบที่ คาดการณ์ไว้" นักบริหารเงิน กล่าว

คืนนี้ รอดูผลประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ที่คาดว่าจะมีการปรับอัตรา ดอกเบี้ยขึ้น 0.25% และการส่งสัญญาณทางเศรษฐกิจในระยะต่อไป

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 33.35 - 33.50 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาด

ปัจจัยสำคัญ
เงินเยนอยู่ที่ระดับ 118.30 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 118.38 เยน/ดอลลาร์
เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0981 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0961 ดอลลาร์/ยูโร
ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,667.92 จุด เพิ่มขึ้น 23.56 จุด, +1.43% มูลค่าการซื้อขาย 78,168.02 ล้านบาท
สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 6,440.74 ล้านบาท (SET+MAI)
นายกรัฐมนตรี เผยรัฐบาลจะพยายามตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ให้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร โดยขณะนี้กองทุนน้ำมันฯ
ได้ใช้เงินที่มีอยู่กว่า 3 หมื่นล้านบาทไปเกือบหมดแล้ว หลังจากนี้จะพิจารณามาตรการอื่นเพิ่มเติม รวมถึงการช่วยเหลือประชาชนกลุ่ม
เปราะบางและผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยจะบรรเทาผลกระทบค่าก๊าซหุงต้มให้กับกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
ร้านอาหารและเครื่องดื่มที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง รวมถึงช่วยเหลือค่าไฟฟ้า ช่วยเหลือผู้ใช้น้ำมันเบนซินสำหรับกลุ่มมอเตอร์ไซ
ค์รับจ้าง พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการให้ตรึงราคาก๊าซเอ็นจีวี
คลัง เผยความคืบหน้าโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 มีประชาชนเข้าร่วมใช้สิทธิ์ฯ รวม 26.25 ล้านราย มียอดใช้
จ่ายแล้วทั้งสิ้น 55,172 ล้านบาท โดยประชาชนสามารถใช้จ่ายได้จนถึงวันที่ 30 เม.ย.65
KKP Research ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย (GDP) ในปี 65 ลงเหลือ 3.2% จากเดิม
คาดการณ์ไว้ที่ 3.9% เนื่องจากความไม่แน่นอนต่อภาพแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อมีสูงขึ้นมากจากผลกระทบของสถานการณ์ยูเครน
และรัสเซีย และปรับประมาณการเงินเฟ้อเฉลี่ยจากที่เดิมคาดไว้ที่ 2.3% เพิ่มเป็น 4.2% จากต้นทุนราคาพลังงานและต้นทุนการผลิต
ที่ปรับตัวสูงขึ้น
หอการค้าไทย แนะที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่เร่งประกาศให้โรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นเร็วขึ้น พร้อมผ่อนคลาย
มาตรการต่างๆ ให้มีความเหมาะสมต่อสถานการณ์ ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและส่งเสริมให้มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่จะช่วยสร้าง
รายได้ให้กับประชาชน
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า การทำสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนจะส่งผลกระทบ
อย่างมากต่อเศรษฐกิจโลก โดยจะทำให้การขยายตัวของเศรษฐกิจอ่อนแอลง และทำให้เงินเฟ้อที่เกิดจากราคาอาหารและพลังงาน
ปรับตัวสูงขึ้น
กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เผยได้ยื่นจดหมายถอนตัวจากสมาชิกสภายุโรป ต่อนางมารียา เปจจิโนวิช บูริช
เลขาธิการสภายุโรป เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เนื่องจากเห็นว่าชาติสมาชิกนาโตและสหภาพยุโรปใช้อำนาจจากเสียงข้างมากในสภา
ยุโรปในทางที่ผิด
ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนออกมาส่งสัญญาณความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพระหว่าง
ยูเครนกับรัสเซีย หลังเสร็จสิ้นการเจรจาในวันอังคารที่ผ่านมา โดยมีความเป็นไปได้ที่จะบรรลุผลมากยิ่งขึ้น แต่ยังคงต้องใช้เวลาใน
การตัดสินใจเพื่อผลประโยชน์ของยูเครน
ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) หรือศาลโลก มีกำหนดการตัดสินเป็นกรณีฉุกเฉินตามคำร้องของยูเครน เพื่อ
ให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวโดยให้รัสเซียยุติปฏิบัติการทางทหารในยูเครน โดย ICJ จะอ่านคำวินิจฉัยในพระราชวังสันติภาพ
แห่งกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในเวลา 22.00 น. ของวันนี้ ตามเวลาประเทศไทย