HENG
เปิดแผนปี 65 ชูเทคโนโลยีมุ่งเสริมศักยภาพให้บริการ เตรียมบุกตลาดสินเชื่อดิจิทัล-เร่งขยายสาขาอีกกว่า 100 แห่ง ผลักดันพอร์ตสินเชื่อรวมปีนี้เติบโต 30% เตรียมออกหุ้นกู้รับการเติบโตก้าวกระโดด
'บมจ. เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล' หรือ HENG หนึ่งในผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อรายใหญ่ของประเทศไทย ภายใต้ แบรนด์ 'เฮงลิสซิ่ง' ประกาศกลยุทธ์ปี 65 ชูแพลตฟอร์มด้านเทคโนโลยีไอทีเสริมศักยภาพการให้บริการในทุกมิติ นำซอร์ฟแวร์ KYC ช่วยพิจารณาสินเชื่อและบริหารจัดการคุณภาพลูกหนี้ให้มีประสิทธิภาพ ต่อยอดสู่การนำเสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคลผ่านระบบดิจิทัล (Digital Personal Loan) ในไตรมาส 4 ปีนี้ พร้อมเร่งสปีดขยายสาขาใหม่อีกกว่า 100 แห่งแล้วเสร็จต้นไตรมาส 2 ลุยเพิ่มสัดส่วนพอร์ตสินเชื่อจำนำทะเบียนรถและนาโนไฟแนนซ์ ดันพอร์ตสินเชื่อรวมปีนี้โต 30% ขณะที่ผลการดำเนินงานปี 64 เติบโตเกินเป้า ทำรายได้รวม 1,644.4 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 353.8 ล้านบาท ประกาศจ่ายเงินปันผลประจำปี 0.01 บาทต่อหุ้น เล็งเตรียมออกหุ้นกู้ หนุนแผนเร่งขยายพอร์ตสินเชื่อ รับจังหวะเศรษฐกิจไทยฟื้นตัว
นางสุธารทิพย์ พิสิฐบัณฑูรย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ HENG หนึ่งในผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อรายใหญ่ของประเทศไทยภายใต้แบรนด์ 'เฮงลิสซิ่ง' เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปีนี้จะนำเทคโนโลยีด้านไอทีเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการสินเชื่อและเพิ่มช่องทางการเข้าถึงลูกค้า หลังได้ลงทุนพัฒนาและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานทรัพยากรเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อรองรับการขยายตัว โดยพัฒนาซอฟแวร์พิสูจน์ยืนยันตัวตน หรือ KYC ช่วยพิจารณาสินเชื่อที่เหมาะสม รวดเร็ว ด้วยต้นทุนให้บริการที่ลดลง พร้อมเพิ่มความสามารถควบคุมและบริหารจัดการคุณภาพลูกหนี้ ทำให้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPLs เหลือ 3.1% จาก ณ สิ้นปี 2564 อยู่ที่ 3.4% นอกจากนี้จะนำฐานข้อมูล (Big Data) มาวิเคราะห์วางแผนต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์สินเชื่อใหม่ให้มีความหลากหลายและเหมาะสมกับพฤติกรรมกลุ่มเป้าหมาย สร้างโอกาสให้ประชาชนในแต่ละท้องถิ่นเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่โปร่งใสและเป็นธรรม
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนให้บริการผลิตภัณฑ์ใหม่คือ สินเชื่อส่วนบุคคลผ่านระบบดิจิทัล (Digital Personal Loan) ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการขอใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย คาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ภายในไตรมาสสุดท้ายปีนี้ และจะเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของ HENG ในการขยายฐานลูกค้าผลักดันการเติบโตในระยะยาว
ขณะเดียวกัน จะมุ่งเพิ่มเครือข่ายพันธมิตรผู้ประกอบการเต็นท์รถมือสองจากปัจจุบันที่มีกว่า 5,100 ราย เพื่อส่งเสริมแผนดำเนินงานของ HENG ในปีนี้ ซึ่งมุ่งขยายสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน (สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ) อย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนพอร์ตสินเชื่อดังกล่าวเป็น 55-60% ของพอร์ตรายได้รวม จากเดิมมีสัดส่วน 32% พร้อมผลักดันรายได้กลุ่มธุรกิจให้บริการนายหน้าประกันวินาศภัยและนายหน้าประกันชีวิตผ่านเครือข่ายสาขาให้แก่บริษัทประกัน รองรับประชาชนเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ประกันใช้ป้องกันความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในอนาคต รวมถึงการขยายพอร์ตสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ (สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์) เพื่อตอบสนองความต้องการแหล่งเงินทุนนำไปประกอบอาชีพอิสระในช่วงจังหวะเศรษฐกิจกลับมาขยายตัวที่ดี
บริษัทฯ ยังเร่งขยายสาขาเพิ่มอีกกว่า 100 แห่ง เน้นพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออก ให้แล้วเสร็จภายในต้นไตรมาส 2/2565 จากเดิมเมื่อสิ้นปี 2564 มีสาขาทั้งหมด 529 แห่ง ส่งผลให้ 'เฮงลิสซิ่ง' จะมีสาขารวมทั้งหมดกว่า 630 สาขาทั่วประเทศ เพิ่มโอกาสนำเสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อของ HENG เข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายในแต่ละท้องถิ่น ส่งผลดีต่อการขยายพอร์ตสินเชื่อโดยรวมในปีนี้ให้เติบโต 30% ได้ตามแผน
นอกจากนี้ เพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจอย่างรวดเร็วตามแผน HENG เตรียมความพร้อมการออกหุ้นกู้ในวงเงินหมุนเวียนไม่เกิน 2,000 ล้านบาท โดยเป็นการหาแหล่งเงินทุนเพิ่มเติมจากการจัดหาโดยการกู้ยืมสถาบันการเงิน ซึ่งจะเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำธุรกิจและโอกาสทางการแข่งขันอย่างยั่งยืน โดยในสิ้นปี 2564 บริษัทฯ พึ่งพิงการกู้ยืมจากสถาบันการเงินในสัดส่วน (D/E Ratio) 1 เท่าของส่วนของผู้ถือหุ้น บริษัทฯ ยังมีสัดส่วนความสามารถในการจัดหาเงินเพื่อใช้ในการขยายตัวทางธุรกิจอีกหลายเท่าของจำนวนเงินกู้ยืมธนาคารในปัจจุบัน
ดร.ธีรวัฒน์ ธวัลรัตน์โภคิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบัญชีและการเงิน HENG กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ตั้งงบลงทุนปีนี้กว่า 120 ล้านบาท เพื่อเพิ่มศักยภาพการดำเนินงานรองรับการขยายตัวของพอร์ตสินเชื่อให้เป็นไปตามแผน หลังจากในปี 2564 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการให้บริการสินเชื่อแก่ลูกค้าได้ดีกว่าเป้าหมาย ทำให้พอร์ตสินเชื่อโดยรวมอยู่ที่9,180.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.9% และทั้งนี้บริษัทฯ ยังให้การช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 และการปรับโครงสร้างหนี้อยู่ที่ 2,598.1 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 28.3 มีรายได้จากรวม 1,644.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.4% เมื่อเทียบกับปี 2563
โดยสัดส่วนรายได้หลัก 89.8% มาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน สาเหตุเพราะสินเชื่อจำนำทะเบียนรถที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด หลังปรับกลยุทธ์มุ่งขยายพอร์ตผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ด้วยการใช้จุดแข็งทางเครือข่ายพันธมิตรผู้ประกอบการเต็นท์รถมือสองช่วยแนะนำผลิตภัณฑ์และส่งต่อลูกค้ามายังสาขา 'เฮงลิสซิ่ง' ส่วนผลิตภัณฑ์เช่าซื้อรถยนต์มือสองก็มีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน เป็นผลมาจากการปรับกลยุทธ์การบริหารพอร์ตสินเชื่อของทางบริษัทฯ
ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ทำสัดส่วนรายได้ 10.2% ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีผลิตภัณฑ์สินเชื่อเอนกประสงค์สำหรับบุคคลทั่วไปที่มีรายได้ประจำ และสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ให้บริการแก่ลูกค้ารายย่อยที่นำไปประกอบอาชีพ ซึ่งมีผลตอบแทนจากการปล่อยสินเชื่ออยู่ในเกณฑ์สูง ประกอบกับการบริหารจัดการคุณภาพลูกหนี้ที่ดีต่อเนื่อง
ทั้งนี้ทำให้ภาพรวมอัตราผลตอบแทนจากการปล่อยสินเชื่อ (Yield on Loan) โดยเฉลี่ยในปี 2564 เพิ่มขึ้นเป็น 16.9% เป็นผลให้มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 353.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.2% เมื่อเทียบกับปี 2563 ซึ่งนับเป็นกำไรสูงที่สุดของบริษัทฯ
จากความสำเร็จในครั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 ได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลงวดผลการดำเนินงานในปี 2564 ในอัตรา 0.01 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 7 มีนาคม 2565 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 12 พฤษภาคม 2565 เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น นอกจากนี้ยังได้เตรียมขอมติผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาออกและเสนอขายหุ้นกู้ในวงเงินหมุนเวียนไม่เกิน 2,000 ล้านบาท โดยมีกำหนดลงมติในวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 พุธที่ 20 เมษายน 2565 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-AGM) เพียงรูปแบบเดียว