͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: TACC เป้ารายได้ปี 65 โต 10-15% รับโควิดคลี่คลาย  (อ่าน 21 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Fern751

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15944
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
TACC เป้ารายได้ปี 65 โต 10-15% รับโควิดคลี่คลาย,จ่อร่วมมือพันธมิตรขยายธุรกิจ

นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ (TACC) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 65 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 10-15% เทียบกับปีที่ผ่านมา โดยได้รับปัจจัยหนุนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เริ่มคลายกังวลในทิศทางที่ดีขึ้น หลังประชาชนฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ทำให้การบริโภคเริ่มกลับมาฟื้นตัว และมาตรการผ่อนคลายตามสถานการณ์โรคโควิด-19 จากรัฐบาล

รวมถึงบริษัทฯมีแผนส่งสินค้าเครื่องดื่มใหม่เข้าทำตลาดใน 7-Eleven และ Non 7-Eleven อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการคู่ค้าและผู้บริโภค กระตุ้นยอดขายเพิ่มมากขึ้น สำหรับภาพรวมกลุ่มธุรกิจ 7-Eleven ในช่วงที่ผ่านมามีการเติบโต ซึ่งบริษัทในฐานะ Key Strategic Partner ได้รับโอกาสที่ดีเสมอมาในการพัฒนาสินค้าและทำการตลาดร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเครื่องดื่มเย็นในโถกด (Jet Spray) หรือสินค้าใน All Cafe ในการผลักดันสินค้าปัจจุบัน ผ่านการทำโปรโมชั่นต่อเนื่องทั้งปี และสินค้าใหม่ ส่วนการขยายลูกค้าใหม่ในกลุ่ม Non 7-Eleven ล่าสุดได้ทยอยขยายสินค้าเข้าไปในกลุ่ม Lotus?s ทั้งใน Lotus Hypermarket ในรูปแบบของ Food Court ปัจจุบันมีจำนวน 45 สาขา และมีเป้าขยาย 200 สาขาภายในปี 65 ส่วนใน Lotus? go fresh ที่ส่งเครื่องดื่มเข้า Jungle Cafe ปัจจุบันมีจำนวน 1,400 สาขา และมีเป้าขยาย 1,700 สาขาภายในปี 65 และเพิ่มโอกาสในการขยายเมนูหลัก (Signature Menu) อื่นเพิ่มเติม จากปัจจุบันขายอยู่ 2 เมนู ขณะที่ผลิตภัณฑ์กัญชง-กัญชา คาดเห็นความชัดเจนทั้งในแง่ของกฎหมายและการพัฒนา Product ในการส่งสินค้าใหม่เข้าสู่ตลาด รองรับความต้องการของผู้บริโภคในปีนี้ และเป็นไปตามกฎหมายที่กำหนด เพื่อเจาะตลาดทั้งในกลุ่มของธุรกิจ 7-Eleven และ Non 7-Eleven ประธานกรรมการบริหาร TACC กล่าวอีกว่า บริษัทยังคงมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจร่วมกับพันธมิตรเพื่อต่อยอดธุรกิจ และผลักดันผลการดำเนินเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้มีการเจรจาหลากหลายรูปแบบทั้งที่เป็น M&A และ JV ในหลายโปรเจ็คต์ แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อประโยชน์สูงสุดผู้ถือหุ้น