World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้ 3, 2022
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ในวันพุธ (2 ก.พ.) ขานรับผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล และแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (เอเอ็มดี) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ โดยตัวเลขกำไรและรายได้ที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนทั้งสองแห่งเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มผู้ผลิตชิปดีดตัวขึ้น และยังช่วยสกัดปัจจัยลบจากตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐที่ทรุดตัวลงในเดือนม.ค.
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,629.33 จุด เพิ่มขึ้น 224.09 จุด หรือ +0.63%
-- ราคาหุ้นเฟซบุ๊ก (เมตา แพลตฟอร์มส์) ดิ่งลงรุนแรงถึง 22.79% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กช่วงเช้านี้ตามเวลาไทย หลังจากบริษัทเปิดเผยผลกำไรที่ต่ำกว่าคาดและจำนวนผู้ใช้งานที่ชะลอตัวลง นอกจากนี้ เฟซบุ๊กยังเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการที่อ่อนแอลงด้วย
ทั้งนี้ เฟซบุ๊กเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 4/2564 ที่ระดับ 3.67 ดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ของ Refinitiv คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 3.84 ดอลลาร์
-- สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล
สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 1.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
-- ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวเตือนว่า การเผชิญหน้าทางทหารระหว่างยูเครนและรัสเซียจะส่งผลทำให้เกิดสงครามอย่างเต็มรูปแบบ
"จะเกิดโศกนาฏกรรมขึ้น หากรัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครน และนี่จะไม่ใช่สงครามระหว่างยูเครนและรัสเซีย แต่จะเป็นสงครามเต็มรูปแบบในยุโรป เพราะจะไม่มีใครยอมเสียดินแดนและประชาชนของตนเองอีกต่อไป" นายเซเลนสกีกล่าว
-- เมื่อคืนที่ผ่านมา (2 ก.พ.) หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้อนุมัติการส่งกำลังทหารสหรัฐจำนวน 3,000 นายเข้าไปประจำการในยุโรปตะวันออก ท่ามกลางความขัดแย้งกับรัสเซียเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ยูเครน
ทั้งนี้ สหรัฐจะส่งกำลังทหาร 2,000 นายจากฐานทัพนอร์ทแคโรไลนาไปประจำการในโปแลนด์และเยอรมนีในสัปดาห์นี้ และจะส่งทหารสหรัฐจำนวน 1,000 นายจากยุโรปเข้าไปประจำการที่โรมาเนีย
-- สื่อรายงานว่า ที่ประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติยึดมั่นตามข้อตกลงเดิมในการประชุมผ่านระบบออนไลน์เมื่อคืนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ โอเปกพลัสมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 400,000 บาร์เรล/วันในเดือนมี.ค. แม้ถูกกดดันจากสหรัฐและประเทศพันธมิตรที่ต้องการให้โอเปกพลัสเพิ่มการผลิตน้ำมันมากกว่านี้เพื่อสกัดราคาน้ำมันที่พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี
-- ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐทรุดตัวลงในเดือนม.ค. โดยมีการจ้างงานลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2563 ขณะที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
ทั้งนี้ ADP เปิดเผยว่า ภาคเอกชนมีการจ้างงานลดลง 301,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง
-- สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการรีไฟแนนซ์พุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางความต้องการกู้เงินที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีความกังวลว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองจะดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.
ทั้งนี้ จำนวนผู้ที่ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการรีไฟแนนซ์พุ่งขึ้น 18% ในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ลดลง 50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ เกาหลีใต้มีกำหนดเปิดเผยทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนม.ค., ออสเตรเลียเตรียมเปิดเผยยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนธ.ค., ฝรั่งเศสมีกำหนดเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนม.ค.จากมาร์กิต, เยอรมนีและสหภาพยุโรป (อียู) มีกำหนดเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนม.ค.จากมาร์กิต, อังกฤษเตรียมเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนม.ค.จากมาร์กิต/ซีไอพีเอส และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีกำหนดประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย, ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีกำหนดประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย และสหรัฐเตรียมเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนม.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนม.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนธ.ค.