͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: 'มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก' อาจสูญเงิน 2.4 หมื่นล้านดอลล์  (อ่าน 17 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ hs8jai

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12750
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
'มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก' อาจสูญเงิน 2.4 หมื่นล้านดอลล์ หลังหุ้นเฟซบุ๊กร่วงหนัก

ความมั่งคั่งของนายมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของบริษัทเมตา แพลตฟอร์ม (เฟซบุ๊ก) อาจลดลงถึง 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากราคาหุ้นเฟซบุ๊กร่วงลงอย่างหนักหลังเปิดเผยผลกำไรที่ต่ำกว่าคาด และจำนวนผู้ใช้งานชะลอตัวลง

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี Bloomberg Billionaires Index บ่งชี้ว่า ณ เวลาที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการในวันพุธที่ 2 ก.พ. ความมั่งคั่งของนายซัคเคอร์เบิร์กอาจลดลงมาอยู่ที่ระดับ 9.7 หมื่นล้านดอลลาร์ จากระดับ 1.206 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจทำให้นายซัคเคอร์เบิร์กหลุดจากทำเนียบ 10 อันดับบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2558

มูลค่าความมั่งคั่งของนายซัคเคอร์เบิร์กที่อาจลดลง 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์ภายในวันเดียวนั้น ถือเป็นความเสียหายวงเงินสูงสุดเป็นอันดับสอง รองจากนายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของบริษัทเทสลา ซึ่งสูญเงินวันเดียวสูงถึง 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย. 2564 เนื่องจากราคาหุ้นเทสลาดิ่งลงอย่างหนักหลังจากนายมัสก์ได้ตั้งโพลสอบถามความคิดเห็นกับผู้ติดตามเขาในทวิตเตอร์ว่าเขาควรขายหุ้น 10% ในเทสลาเพื่อนำเงินไปจ่ายภาษีหรือไม่ ซึ่งผลโหวตกว่า 3.5 ล้านเสียง หรือคิดเป็น 57.9% แนะนำให้เขาขายหุ้นเทสลาจำนวนดังกล่าว

ทั้งนี้ ราคาหุ้นเฟซบุ๊กดิ่งลงรุนแรงถึง 22.79% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กช่วงเช้านี้ตามเวลาไทย หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 4/2564 ที่ระดับ 3.67 ดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ของ Refinitiv คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 3.84 ดอลลาร์

ส่วนยอดผู้ใช้งานรายวันของเฟซบุ๊กลดลงมาอยู่ที่ 1.93 ล้านราย ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.95 ล้านราย โดยนับเป็นครั้งแรกที่ยอดผู้ใช้งานรายวันปรับตัวลง

นอกจากนี้ เฟซบุ๊กคาดการณ์ว่า รายได้ในไตรมาส 1 ปีนี้จะอยู่ที่ 2.7 - 2.9 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ของ Refinitiv คาดการณ์ไว้ที่ 3.015 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งหมายความว่า อัตราการเติบโตของรายได้ของเฟซบุ๊กในไตรมาสดังกล่าวจะอยู่ที่ 3% - 11% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 15%

เฟซบุ๊กเปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัยด้วยกัน ซึ่งรวมถึงการที่บริษัทแอปเปิล อิงค์ เปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวด้วยการอัปเดตระบบปฏิบัติการบน iPhone เป็น iOS 14.5 ซึ่งส่งผลกระทบต่อรายได้ด้านโฆษณาของเฟซบุ๊ก

ทั้งนี้ แอปเปิลเปิดตัวซอฟต์แวร์ iOS 14.5 เมื่อปีที่แล้ว โดยกำหนดให้ผู้ใช้งานต้องให้ความยินยอมก่อนที่แอปพลิเคชันต่าง ๆ จะสามารถติดตามข้อมูลของผู้ใช้งานในบริการและเว็บไซต์อื่น ๆ เพื่อเป้าหมายด้านการโฆษณา

เฟซบุ๊กและบริษัทอื่น ๆ ที่ต้องพึ่งพาการโฆษณาบนแพลตฟอร์มดิจิทัลต่างก็กังวลว่า อาจมีผู้ใช้งานจำนวนมากที่ไม่อนุญาตให้ติดตามข้อมูล ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรายได้ด้านโฆษณาของแอปพลิเคชันเหล่านี้