͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: DreamTec เผยความก้าวหน้าในการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ชนิดรับประทาน  (อ่าน 77 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Prichas

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12494
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด

DreamTec Research Limited ประกาศความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิดรับประทาน


ดร. Kwong Wai Yeung ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิทยาศาสตร์ของ DreamTec กล่าวว่า เราได้เริ่มพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิดรับประทานขึ้น เพื่อมอบความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และความสะดวกสบาย ทั้งนี้ การใช้ B. Subtilis กระตุ้นแอนติบอดีได้รับความสนใจดูหนังฟรีออนไลน์ 2022จากทั่วโลก เพราะจัดเก็บได้ในอุณหภูมิห้องและมีคุณภาพคงที่เป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน ตามที่มีผู้อ้างถึงไว้ในเว็บไซต์อังกฤษอย่าง Clinical Trials Arena โดย ดร. Kwong กล่าวเสริมว่า โปรตีนส่วนหนามจะไม่เข้ากระแสเลือด

จากรายงานที่ได้มีการเผยแพร่ในวารสารการแพทย์นานาชาติอย่าง Vaccines ซึ่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับสปอร์ Bacillus subtilis (B. Subtilis) ระบุว่า การแสดงออกของส่วนตัวรับที่เกาะกับโปรตีนส่วนหนาม (sRBD) ของไวรัส SARS-CoV-2 บนผิวของไวรัส มีส่วนสร้างแอนติบอดีลบล้างนั้น DreamTec จึงได้ดำเนินการวิจัยนำร่องเพื่อศึกษาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิดรับประทานตัวใหม่ ซึ่งช่วยกระตุ้นให้เกิดการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันทั้งในหนูทดลองและอาสาสมัครที่เป็นมนุษย์ โดยไม่พบอาการไม่พึงประสงค์

"เรามีแผนกระชับความร่วมมือกับพันธมิตรทั่วทั้งอุตสาหกรรมในการดำเนินการวิจัยระดับพรีคลินิก เพื่อประเมินความปลอดภัยในการใช้กับมนุษย์" โดย DreamTec ตั้งใจผลิตตัวกระตุ้นแอนติบอดีชนิดรับประทานในรูปแบบแคปซูล ซึ่งในแคปซูลมีสปอร์ B. Subtilis หลายพันล้านตัว จากนั้นก็จะปล่อยสปอร์ที่ตัดต่อพันธุกรรมมาแล้วในสำไส้เล็ก ซึ่งเป็นจุดที่จะสร้างการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันเจาะจงเยื่อบุ ทั้งหมดนี้เปิดโอกาสให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วมีตัวเลือกที่ปลอดภัยและได้ผลในการเสริมภูมิคุ้มกันป้องกันไวรัส SARS-CoV-2" ดร. Kwong กล่าว
นอกจากนี้ ดร. Kwong ยังได้กล่าวถึงการที่วัคซีนมักจะมีประสิทธิภาพลดลงเมื่อมีไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ๆ ว่า เราคิดค้นโครงสร้างที่เห็นอยู่นี้ในเวลาไม่กี่เดือน ซึ่งหากจำเป็นต้องทำอีกเราก็ทำได้เมื่อมีไวรัส SARS-CoV-2 สายพันธุ์ใหม่ ๆ อีก เช่น โอมิครอน

สำหรับ B. Subtilis นั้น ได้รับเลือกเพราะมีคุณสมบัติอยู่รอดได้ในจุลินทรีย์ในลำไส้ของมนุษย์ด้วยการสร้างสปอร์ นอกจากนี้ สำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ยังจัดให้มีความปลอดภัยในกลุ่ม Generally Recognized As Safe (GRAS)