͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: HENG เผย KBANK ถือหุ้น 10% เล็งต่อยอดธุรกิจร่วมกัน  (อ่าน 77 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Fern751

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15944
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
“เฮงลิสซิ่ง” เผย มีแผนทำธุรกิจร่วมกับ “ธนาคารกสิกรไทย” ในอนาคต หลังเข้ามาถือหุ้น 10% ตั้งเป้าหมายปี 66 สินเชื่อโตแตะ 1.4 หมื่นล้าน เดินหน้าขยายสินเชื่อจำนำทะเบียน-นาโนไฟแนนซ์-ธุรกิจนายหน้าประกัน หนุนการเติบโต

นางสุธารทิพย์ พิสิฐบัณฑูรย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ HENG เปิดเผยว่า การเข้ามาถือหุ้นของธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ในสัดส่วน 10% หรือ 381 ล้านหุ้น ผ่านการทำรายการบนกระดานรายใหญ่ (บิ๊กล็อต) ในช่วงเช้าวานนี้ (19 ต.ค.) นอกเหนือจากจะสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ถือหุ้นแล้ว คาดว่าในอนาคตจะเห็นความร่วมมือทางธุรกิจร่วมกันต่อไป  แต่ปัจจุบันยังไม่ได้หารือถึงรายละเอียดอย่างชัดเจน แต่เบื้องต้นมีแผนที่จะทำธุรกิจร่วมกัน

ทั้งนี้ภายหลังบริษัทเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนราว 1,500 ล้านบาท ไปใช้ในการขยายสินเชื่อเป็นหลัก โดยคาดว่าเม็ดเงินที่ใช้ในการขยายสินเชื่อจะอยู่ที่ 1,000-1,100 ล้านบาท ชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงิน 300-400 ล้านบาท และนำไปลงทุนพัฒนาระบบไอทีของบริษัท 70-90 ล้านบาท เพื่อพัฒนาแอพพลิเคชั่นเจาะกลุ่มลูกค้าออนไลน์


สำหรับเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อ ณ ไตรมาส 2 ปี 2564 บริษัทมียอดสินเชื่อคงค้าง (Outstanding Loan) ทั้งสิ้น 8,400 ล้านบาท โดยคาดว่าปี 2564 จะเติบโต 7-8% มาอยู่ที่ 9,000 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายระยะยาวในปี 2 ปีข้างหน้า (2566) พอร์ตสินเชื่อจะเติบโตแตะ 14,800 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตเฉลี่ยต่อปี 28-30% ซึ่งคาดว่าแนวโน้มรายได้จะเติบโตสอดคล้องกับการเติบโตของสินเชื่อ โดยได้ปัจจัยหนุนจากเงินทุนที่เพิ่มขึ้นและการขยายสาขาใหม่ปัจจุบันบริษัทมีสาขาให้บริการ 450 สาขา คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 830 สาขาในอีก 2 ปีข้างหน้า


นอกจากนี้ บริษัทมีแผนขยายสัดส่วนสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ และสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ในระยะ 2 ปีต่อจากนี้ โดยปัจจุบันพอร์ตสินเชื่อจำนำทะเบียนรถฯ อยู่ที่ 27% ตั้งเป้าหมายขยายสัดส่วนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 40-50% ส่วนนาโนไฟแนนซ์ปัจจุบันอยู่ที่ 5% คาดว่าจะขยายเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 8% รวมถึงมีแผนขยายธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยและประกันชีวิต จากปัจจุบันที่ 5-6% คาดว่าจะเติบโต 1-2 เท่าในอีก 2-3 ปีข้างหน้า (2566-2567)