สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ได้มีการประกาศระงับ
การซื้อขายหุ้นของกลุ่มบริษัท ไชนา เอเวอร์แกรนด์ บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่อันดับ 2 ของจีน รวมถึงหุ้นของกลุ่มเอเวอร์แกรนด์ พร็อพเพอร์ตี กรุ๊ป ในตลาดหุ้นฮ่องกง ท่ามกลางรายงานข่าวว่า ฮอพสัน ดีเวลล็อพเมนต์ โฮลดิ้งส์ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ในฮ่องกง มีแผนจะเข้าซื้อหุ้นของเอเวอร์แลนด์ถึง 51% ในขณะที่เอเวอร์แกรนด์กำลังดิ้นรนแก้ปัญหาหนี้สินที่มีอยู่มหาศาลมูลค่ากว่า 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และเร่งหาทางชำระหนี้ดอกเบี้ยหุ้นกู้ให้กับกลุ่มผู้ถือหุ้นเพื่อไม่ให้ผิดนัดชำระหนี้
ในถ้อยแถลงของเอเวอร์แกรนด์ต่อตลาดหุ้นฮ่องกง ร้องขอให้ระงับการซื้อขายหุ้นในเวลา 09.00 น.ของวันที่ 4 ตุลาคม 2021 ในระหว่างที่มีการเตรียมการเผยแพร่ประกาศของบริษัทเกี่ยวกับการทำธุรกรรมสำคัญ
ขณะเดียวกันก็ได้มีการระงับการซื้อขายหุ้นของบริษัทฮอพสันในตลาดหุ้นฮ่องกงด้วยเช่นกัน ซึ่งทำให้แพทริก หว่อง นักวิเคราะห์ข้อมูลของบลูมเบิร์ก ชี้ว่า การระงับการซื้อขายหุ้นดังกล่าวอาจเกี่ยวพันกับการจำหน่ายสินทรัพย์สำคัญหรือการปรับโครงสร้างทุนของทางเอเวอร์แกรนด์
ทั้งนี้เอเวอร์แกรนด์ ที่ได้ชื่อว่าเป็นบริษัทที่มีหนี้สินมากที่สุดในโลก มีมูลค่ากว่า 305,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กำลังหาทางสะสางหนี้ก้อนโตนี้อยู่ โดยที่มีความสุ่มเสี่ยงสูงจะผิดนัดชำระหนี้ ท่ามกลางความหวั่นเกรงว่าการล้มละลายของเอเวอร์แกรนด์ไม่เพียงจะส่งผลกระทบครั้งใหญ่ต่อเศรษฐกิจจีนเท่านั้น แต่ยังอาจส่งผลสะเทือนถึงเศรษฐกิจโลกด้วย