͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: 'เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์' เข้าถือหุ้นเทคสตาร์ทอัพ  (อ่าน 55 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ deam205

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15570
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด


นางสาวเพชรลดา พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เพื่อต่อยอดวิสัยทัศน์ที่ก้าวจากการเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์สู่การเป็นผู้พัฒนารูปแบบการใช้ชีวิตโดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจสุขภาพและกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีบริษัทได้จัดตั้งบริษัทย่อยบริษัทใหม่ภายใต้ชื่อ บริษัท เฮลท์สเคป จำกัดเพื่อใช้ดำเนินธุรกิจใหม่

โดยล่าสุด บริษัท เฮลท์สเคป จำกัด ได้เข้าถือหุ้นใน บริษัท คิวบิคซ์โค้ด จำกัด ( Cubix Code)ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพที่ให้คำปรึกษา ดูแล ออกแบบ และพัฒนาแอปพลิเคชัน ทุกรูปแบบ ในสัดส่วน 51% ซึ่งการเข้าถือหุ้นในครั้งนี้ เป็นการขยายขอบเขตความเชี่ยวชาญของบริษัทแบบก้าวกระโดด เพื่อเริ่มต้นการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ เพื่อมาต่อยอดกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เดิมและพัฒนาเป็นสินค้าออกสู่ตลาด ขณะเดียวกัน ยังเป็นการวางรากฐานของบริษัทสู่การพัฒนาธุรกิจเทคโนโลยีประเภทอื่นในอนาคต

นางสาวเพชรลดา กล่าวว่า แนวโน้มสถานการณ์ตลาดอสังหารฯในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2564 ผู้บริโภคในบางสาขาอาชีพยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมทั้งมาตรการการล็อคดาวน์ท บริษัทจึงเดินหน้ากลยุทธ์ Building A Stronger Now ทั้ง 3 แกนหลัก เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่ทั้งองค์กร ผู้บริโภค พนักงาน พันธมิตร ให้สามารถผ่านพ้นสถานการณ์แห่งความท้าทายไปด้วยกัน


แกนแรก Stronger Move บริษัทอยู่ระหว่างเร่งจับมือพันธมิตรเพิ่มช่องทางการขายใหม่ๆ และออกแคมเปญอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงโครงการของเมเจอร์ ได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกันได้เปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยว 2 โครงการ จากแผนเดิมจะเปิดบ้านเดี่ยว 1 โครงการ โครงการคอนโดมิเนียม 1 โครงการ พร้อมทั้งเปิดตัวธุรกิจผลิตภัณฑ์สุขภาพ คาดว่า จะเริ่มดำเนินธุรกิจและรับรู้รายได้ได้ในช่วง ไตรมาส 4/2564 นี้

ขณะที่แกน Stronger Community และ Stronger Journeyร่วมกับธนาคารพันธมิตร เพื่อมอบ Financial Solutions ให้แก่ผู้บริโภค และเดินหน้าแคมเปญ We’ve got your back ช่วยเหลือทั้งเหล่าพันธมิตร พนักงาน ลูกบ้าน

สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2564 (ม.ค.- มิ.ย.2564) บริษัทมีรายได้รวมทุกประเภทธุรกิจอยู่ที่ 2,413ล้านบาท โดยสามารถปิดการขายโครงการที่อยู่อาศัย 3 โครงการ ได้แก่ มอลตัน ไพรเวท เรสซิเดนซ์ สุขุมวิท 31, รีเฟล็คชั่น จอมเทียน บีช พัทยา และ มาเอสโตร 39 สุขุมวิท 39 และมียอดโอนกรรมสิทธิ์จากหลายโครงการต่อเนื่องจากไตรมาส 1/2564 และปลายปีที่ผ่านมา อาทิ โครงการมิวนิค สุขุมวิท 23, โครงการมารุ ลาดพร้าว 15, โครงการเมทริส พระราม 9 – รามคำแหง และโครงการเมทริส พัฒนาการ – เอกมัย ทำให้บริษัท มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ณ สิ้นไตรมาส 2/2564 อยู่ที่ 4,600 ล้านบาท
นางสาวเพชรลดา พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เพื่อต่อยอดวิสัยทัศน์ที่ก้าวจากการเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์สู่การเป็นผู้พัฒนารูปแบบการใช้ชีวิตโดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจสุขภาพและกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีบริษัทได้จัดตั้งบริษัทย่อยบริษัทใหม่ภายใต้ชื่อ บริษัท เฮลท์สเคป จำกัดเพื่อใช้ดำเนินธุรกิจใหม่

โดยล่าสุด บริษัท เฮลท์สเคป จำกัด ได้เข้าถือหุ้นใน บริษัท คิวบิคซ์โค้ด จำกัด ( Cubix Code)ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพที่ให้คำปรึกษา ดูแล ออกแบบ และพัฒนาแอปพลิเคชัน ทุกรูปแบบ ในสัดส่วน 51% ซึ่งการเข้าถือหุ้นในครั้งนี้ เป็นการขยายขอบเขตความเชี่ยวชาญของบริษัทแบบก้าวกระโดด เพื่อเริ่มต้นการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ เพื่อมาต่อยอดกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เดิมและพัฒนาเป็นสินค้าออกสู่ตลาด ขณะเดียวกัน ยังเป็นการวางรากฐานของบริษัทสู่การพัฒนาธุรกิจเทคโนโลยีประเภทอื่นในอนาคต

นางสาวเพชรลดา กล่าวว่า แนวโน้มสถานการณ์ตลาดอสังหารฯในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2564 ผู้บริโภคในบางสาขาอาชีพยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมทั้งมาตรการการล็อคดาวน์ท บริษัทจึงเดินหน้ากลยุทธ์ Building A Stronger Now ทั้ง 3 แกนหลัก เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่ทั้งองค์กร ผู้บริโภค พนักงาน พันธมิตร ให้สามารถผ่านพ้นสถานการณ์แห่งความท้าทายไปด้วยกัน


แกนแรก Stronger Move บริษัทอยู่ระหว่างเร่งจับมือพันธมิตรเพิ่มช่องทางการขายใหม่ๆ และออกแคมเปญอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงโครงการของเมเจอร์ ได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกันได้เปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยว 2 โครงการ จากแผนเดิมจะเปิดบ้านเดี่ยว 1 โครงการ โครงการคอนโดมิเนียม 1 โครงการ พร้อมทั้งเปิดตัวธุรกิจผลิตภัณฑ์สุขภาพ คาดว่า จะเริ่มดำเนินธุรกิจและรับรู้รายได้ได้ในช่วง ไตรมาส 4/2564 นี้

ขณะที่แกน Stronger Community และ Stronger Journeyร่วมกับธนาคารพันธมิตร เพื่อมอบ Financial Solutions ให้แก่ผู้บริโภค และเดินหน้าแคมเปญ We’ve got your back ช่วยเหลือทั้งเหล่าพันธมิตร พนักงาน ลูกบ้าน

สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2564 (ม.ค.- มิ.ย.2564) บริษัทมีรายได้รวมทุกประเภทธุรกิจอยู่ที่ 2,413ล้านบาท โดยสามารถปิดการขายโครงการที่อยู่อาศัย 3 โครงการ ได้แก่ มอลตัน ไพรเวท เรสซิเดนซ์ สุขุมวิท 31, รีเฟล็คชั่น จอมเทียน บีช พัทยา และ มาเอสโตร 39 สุขุมวิท 39 และมียอดโอนกรรมสิทธิ์จากหลายโครงการต่อเนื่องจากไตรมาส 1/2564 และปลายปีที่ผ่านมา อาทิ โครงการมิวนิค สุขุมวิท 23, โครงการมารุ ลาดพร้าว 15, โครงการเมทริส พระราม 9 – รามคำแหง และโครงการเมทริส พัฒนาการ – เอกมัย ทำให้บริษัท มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ณ สิ้นไตรมาส 2/2564 อยู่ที่ 4,600 ล้านบาท