͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: มือมืดลอบตัดต้นคูนขนาดใหญ่ริมหน้าผา 'จุดชมวิวเขายายดา' จนเหลือแค่ตอ  (อ่าน 175 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Beer625

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13322
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด


วันนี้ (26 ก.ค.) นายเอกชัย แสนดี หัวหน้าฐานปฏิบัติการป้องกันรักษาป่า (เขายายดา) ต.ตะพง อ.เมืองระยอง พร้อมด้วย นายยงยศ สุขถาวร หัวหน้าป้องกันรักษาป่าที่ รย.2 (บ้านค่าย) และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ระยอง ได้นำชาวบ้านและประชาชนในพื้นที่ร่วมตรวจสอบบริเวณหน้าผา “จุดชมวิว” เขายายดา

หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านชุมชนบ้านสำเภาทอง ว่า มีการลักลอบตัดต้นคูนขนาดใหญ่ริมหน้าผาสูงชันซึ่งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 429 เมตร

โดยรอบพบร่องรอยการใช้เลื่อยยนต์ตัดต้นคูณขนาดใหญ่จนเหลือเพียงโคนต้น ส่วนต้นคูณบริเวณริมหน้าผาอีก 2 ต้น ถูกตัดกิ่งทิ้งกองไว้ โดยไม่พบตัวผู้กระทำผิดแต่อย่างใด

นายเอกชัย เผยว่า จากการตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียด พบมีการตัดต้นคูนก่อนทิ้งไม้ลงไปบริเวณหน้าผาลาดชัน โดยไม่ทราบว่าการลักลอบตัดไม้ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ใด แต่ในเบื้องต้นถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายป่าไม้ เนื่องจากจุดชมวิวเขายายดา อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ (ป่ากะเฉด -ป่าเพ-ป่าแกลง)

และจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณปากทางขึ้นเขา ตรวจสอบพบว่ามีรถยนต์กระบะ 4 ประตู สีบรอนซ์เงิน ซึ่งเป็นรถต้องสงสัยขับขึ้นเขาเมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา

ขณะที่ นายประเสริฐ จันทรา ผู้ใหญ่บ้าน ม.7 ต.ตะพง บอกว่า ทางขึ้นเขายายดาอยู่ในพื้นที่ ต.ตะพง ซึ่งเป็นถนนกว้างประมาณ 4 เมตร โดยที่ผ่านมา มักจะมีชาวบ้านพากันมาออกกำลังกายด้วยการวิ่งขึ้นเขา และยังได้แวะพักผ่อนจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์สวยงาม และยังมีอากาศสดชื่น รวมทั้งยังสามารถมองเห็นทะเลและเกาะเสม็ดได้อีกด้วย



ด้าน ธนิตศักดิ์ เจริญรุจิภูวเลิศ ประธานชุมชนบ้านสำเภาทอง เผยว่า ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทางชุมชนได้ติดป้ายขอความร่วมมือห้ามไม่ให้ประชาชนขึ้นมากางเต็นท์เพื่อพักค้างแรมและห้ามก่อกองไฟ แต่ยังพบว่าประชาชนหลายรายที่ฝ่าฝืน

และเมื่อที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา ยังได้รับแจ้งว่ามีการลักลอบตัดโค่นต้นคูนขนาดใหญ่ริมหน้าผาจุดชมวิว และเมื่อขึ้นมาตรวจสอบไม่พบตัวผู้กระทำผิดแล้ว ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและรู้สึกเสียดายเป็นอย่างมาก จึงขอให้เจ้าหน้าที่เร่งหาตัวผู้กระทำผิดให้ได้โดยเร็ว