͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: “ซีพี” ย้ำไม่เกี่ยวข้องสั่งซื้อซิโนแวค ชี้รัฐควรแจงเหตุผลและขั้นตอน G2G อย่างโปร่งใส สยบบิดเบือน  (อ่าน 173 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ PostDD

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 14907
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด


ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 ในปัจจุบัน ถือเป็นภาวะวิกฤตที่ทุกประเทศในโลก ต้องจัดหาวัคซีน และยารักษา เป็นอันดับสำคัญ ถือเป็นการก้าวเท้าซ้ายขวาที่ต้องเดินไปพร้อมกัน โดยต้องทำให้ประชาชนเข้าถึงวัคซีนให้รวดเร็ว และครอบคลุมมากที่สุด ทั้งนี้ เมื่อความต้องการวัคซีนทั่วโลกมีสูง การจัดซื้อวัคซีนต้องใช้กระบวนการในภาวะฉุกเฉินแบบรัฐต่อรัฐ (G2G) เท่านั้น ย้ำว่า เอกชนไม่สามารถจัดซื้อโดยตรงได้ แม้กระทั่งวัคซีนทางเลือกก็ต้องให้ภาครัฐเป็นตัวกลางในการจัดซื้อ ดังนั้นภาครัฐถือว่า เป็นแกนหลักในการจัดหาและบริหารวัคซีนที่ต้องคล่องตัวและโปร่งใส โดยเฉพาะในภาวะวิกฤต ประชาชนเกิดความสับสนและลังเล ดังนั้น ภาครัฐจึงต้องเปิดแผนว่า รัฐจัดหาวัคซีนตัวไหนมาเมื่อไร ใครจะได้ฉีดก่อนหลัง เพื่อให้ประชาชนสบายใจ และเกิดความเชื่อมั่น

วันนี้ (25 ก.ค.)ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังคงสูงขึ้นไปถึง 15,335 คน และยอดผู้เสียชีวิตสูงถึง 129 คน การจัดหาวัคซีนทั่วโลก ถือเป็นความท้าทายของทุกประเทศ ในขณะที่ประเทศไทยยังมีความไม่แน่นอนเกิดขึ้นหลายประการ อาทิ ประการแรก การจัดสรรวัคซีนของแอสตร้าเซเนกา ในปัจจุบันมีจำนวนแตกต่างจากที่รัฐคาดการณ์ไว้ โดยประธานบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ทำจดหมายเปิดผนึก ชี้แจงวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทว่าจะส่งมอบให้ไทยได้เพียง 5-6 ล้านโดสต่อเดือน ประการที่สอง ความต้องการวัคซีน mRNA มีมาก ทำให้ผู้ที่ต้องการฉีดวัคซีนประเภทนี้ยังคงรอบนสภาวะความไม่แน่นอน และต้องการความมั่นใจจากภาครัฐในการจัดสรรวัคซีน และประการสุดท้าย การสั่งซื้อวัคซีนซิโนแวคเพิ่มเติมจากประเทศจีน ทำให้ประชาชนบางส่วนอาจเกิดความไม่สบายใจว่าจะมีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ ทำไมจึงสั่งวัคซีนซิโนแวคเพิ่มในจำนวนมากกว่าที่รัฐเคยประกาศไว้ ประเด็นเหล่านี้ รัฐควรชี้แจงให้ชัดเจน โปร่งใส



โดยที่ผ่านมาเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ได้แถลงการณ์ไปแล้วหลายครั้ง ยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเข้าวัคซีนซิโนแวคของรัฐบาล แต่เมื่อยังคงมีกระแสบิดเบือนสร้างความเข้าใจผิด ทำให้ซีพี ต้องออกมายืนยันอีกครั้งว่า การจัดหาวัคซีนดังกล่าวเป็นไปภายใต้การพิจารณาของรัฐบาล และเป็นการดำเนินการแบบรัฐต่อรัฐ โดย เครือซีพีไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่มีผลประโยชน์ใดๆทั้งทางตรงและทางอ้อม ยืนยันตามแถลงการณ์เดิมว่า เห็นด้วยต่อการนำเข้าวัคซีนที่หลากหลาย

ทั้งนี้ล่าสุดเครือซีพี ได้ใช้งบประมาณของบริษัทจัดหาวัคซีนทางเลือกซิโนฟาร์มผ่านราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ มาจัดฉีดให้กับพนักงานด่านหน้า และในอนาคตหากมีการนำเข้าวัคซีนประเภท mRNA เข้ามาในประเทศไทย ซีพีก็พร้อมจัดซื้อวัคซีนประเภท mRNA วัคซีน Viral Vector และวัคซีนแบบเชื้อตาย จากผู้นำเข้า เพื่อมาเสริมให้กับพนักงานตามความมั่นใจของพนักงานเช่นเดียวกัน